เข้าสู่ฤดูหนาว แพทย์เตือนเร่งสร้างภูมิด้วยวัคซีนไข้หวัดใหญ่ หนึ่งในเกราะป้องกันโรคปอดอักเสบ ลดอาการป่วยรุนแรงและการเสียชีวิต
ศ.นพ.ธีระพงษ์ ตัณฑวิเชียร อาจารย์ประจำหน่วยโรคติดเชื้อ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และผู้ช่วยผู้อำนวยการและรักษาการหัวหน้าฝ่ายวิจัยและบริการคลินิก สถานเสาวภา สภากาชาดไทย เปิดเผยว่าการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อหลักๆ ในปัจจุบันที่จะนำไปสู่ภาวะของโรคปอดอักเสบ หรือที่รู้จักกันดีว่า โรคปอดบวม หมายถึง การอักเสบที่เนื้อปอด ประกอบด้วยถุงลมปอดและเนื้อเยื่อโดยรอบ ทำให้ปอดทำหน้าที่ได้น้อยลง เกิดอาการหายใจหอบเหนื่อย หายใจลำบาก ซึ่งผู้ป่วยอาจมีอาการรุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตได้
สาเหตุของปอดอักเสบส่วนใหญ่เกิดจากการติดเชื้อโดยหลักๆ เกิดจากเชื้อไวรัสและเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งเชื้อไวรัสที่พบได้บ่อย มีอยู่ 3 ตัวหลักๆ ได้แก่ ไวรัสไข้หวัดใหญ่(Influenza virus), ไวรัสโควิด-19 (Coronavirus;SAR CoV-2)และไวรัสอาร์เอสวี (Respiratory syncytial virus-RSV) ส่วนเชื้อแบคทีเรียพบได้บ่อย คือ นิวโมคอคคัส (Streptococcus pneumoneae) ขณะที่ปอดอักเสบจากเชื้อรายังพบได้น้อยและมักจะเกิดในกลุ่มที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ เช่น ปลูกถ่ายอวัยวะ หรือได้รับยาเคมีบำบัด เป็นต้น
ปอดอักเสบนับเป็นโรคที่พบได้บ่อยในคนทั่วไปและทุกวัยและเป็นโรคที่พบได้มากขึ้นในกลุ่มเสี่ยงประมาณร้อยละ 8-10 ของผู้ป่วยที่มีการติดเชื้อเฉียบพลันทางระบบหายใจ ซึ่งเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตอันดับ 1 ของโรคติดเชื้อในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี โดยกลุ่มเสี่ยงของโรคปอดอักเสบ ได้แก่ เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป ผู้ที่มีโรคประจำตัว รวมถึงผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต้านทานโรคต่ำ ฯลฯ
ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักจะเริ่มมีอาการจากการติดเชื้อของทางเดินหายใจส่วนบนก่อน เช่น เจ็บคอ มีน้ำมูก แล้วถึงมีอาการไอและหายใจหอบตามมา ซึ่งเกิดได้จากโรคไข้หวัดใหญ่ โรคโควิด-19 หรือโรค RSV ซึ่งอาการสำคัญของโรคปอดอักเสบ คือ มีไข้ ไอ เจ็บหน้าอก และหอบเหนื่อย โดยผู้ป่วยจะมีอาการแตกต่างกันในแต่ละกลุ่มอายุ เช่น โรค RSV ถือเป็นปัญหาหลักและมีความรุนแรงในกลุ่มเด็กเล็ก และจากผลการวิจัยปัจจุบัน พบว่า RSV ก็เป็นปัญหาสำคัญในกลุ่มผู้สูงอายุ ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะต้องนอนโรงพยาบาลและมีโอกาสเสียชีวิตด้วย ส่วนไข้หวัดใหญ่พบได้ในทุกอายุพบบ่อยในเด็กแต่จะมีอาการรุนแรงน้อยกว่าในผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุ และกลุ่มที่มีโรคประจำตัว สำหรับโควิด-19พบได้ทุกอายุ แต่เด็กจะไม่ค่อยมีอาการและยังมีความเสี่ยงที่จะเป็นปอดอักเสบน้อยกว่าผู้สูงอายุและกลุ่มที่มีปัจจัยเสี่ยง ขณะที่เชื้อแบคทีเรียนิวโมคอคคัส มักจะทำให้เกิดปอดอักเสบที่รุนแรงในผู้ใหญ่ผู้สูงอายุ และกลุ่มที่มีโรคประจำตัว รวมถึงกลุ่มที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ
เชื้อที่ก่อให้เกิดโรคปอดอักเสบยังคงมีอยู่ด้วยกันถึง 4 ตัวหลักๆ ได้แก่ ไข้หวัดใหญ่, โควิด-19, อาร์เอสวี และนิวโมคอคคัส ทำให้ยิ่งมีโอกาสแพร่กระจายจากคนสู่คนเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในฤดูหนาวปลายปีนี้ รวมถึงเดือนมกราคม-มีนาคม และฤดูฝนในเดือนพฤษภาคม-ตุลาคมปีหน้า ซึ่งมีความเสี่ยงที่ผู้ป่วยปอดอักเสบจะมีอาการรุนแรงมากขึ้น เนื่องจากพบว่าร้อยละ 10-30 ของผู้ป่วยที่มีปอดอักเสบจะมีการติดเชื้อร่วมกันตั้งแต่ 2 ชนิดขึ้นไปได้ และมีความเสี่ยงที่จะเชื้อลงปอดอาการหนักจนต้องเข้ารักษาในไอซียูในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นอีกด้วย
สำหรับแนวทางป้องกันโรคปอดอักเสบที่ได้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่ามากที่สุด คือ การฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันโรคปอดอักเสบ ซึ่งประกอบด้วย วัคซีนไข้หวัดใหญ่ วัคซีนโควิด-19 และวัคซีนนิวโมคอคคัส ขณะที่ขณะนี้ยังไม่มีวัคซีน RSV แต่คาดว่าจะมีในอีก 1-2 ปีข้างหน้า โดยวัคซีนในกลุ่มดังกล่าวนี้ มีความสำคัญอย่างมากสำหรับกลุ่มที่มีปัจจัยเสี่ยงที่จะมีปอดอักเสบรุนแรง ได้แก่ เด็กเล็กอายุต่ำกว่า 2 ขวบ, ผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป, ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคปอดเรื้อรัง โรคไตวาย โรคตับวาย โรคพิษสุราเรื้อรัง รวมถึงกลุ่มที่ได้รับยาภูมิคุ้มกัน เช่น ยารักษามะเร็ง ยารักษาโรคภูมิคุ้มกันตัวเอง เป็นต้น เพราะวัคซีนในกลุ่มนี้จะช่วยป้องกันโรคปอดอักเสบและลดความรุนแรงของโรคได้
ทั้งนี้ การฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ เป็นวัคซีนที่เข้าถึงได้ง่ายและสะดวกที่สุดในปัจจุบัน กระทรวงสาธารณสุขและสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ได้แนะนำให้ประชาชนฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่เป็นประจำปีทุกปี โดยเฉพาะผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงสูงที่จะเกิดปอดอักเสบรุนแรงโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายโดยประชาชนสามารถเข้ารับการฉีดได้ที่โรงพยาบาลหรือคลินิกใกล้บ้าน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี