หลายคนคงคุ้นเคยกับสโลเเกน “แคร์คุณทุกย่างก้าว” ของกรุงเทพประกันภัย (BKI) มายาวนานหลายทศวรรษ ด้วยความโดดเด่นเรื่องการดูเเลเอาใจใส่ลูกค้าเเบบ “ใจเขาใจเรา”ทำให้เเบรนด์กลายเป็น Top Of Mind ในใจคนไทยได้ไม่ยากนัก เเม้ในช่วงเวลาที่ผ่านมาธุรกิจประกันภัยต้องเผชิญกับความท้าทายมากมาย ซึ่งนอกเหนือจากการมีความมั่นคงทางการเงินที่ช่วยสนับสนุนความน่าเชื่อถือเเล้ว ความไว้วางใจก็เป็นหนึ่งในสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับธุรกิจนี้เช่นกัน
ความไว้วางใจมิใช่สิ่งที่จะสร้างขึ้นมาได้เพียงชั่วข้ามคืน โดยจะต้องอาศัยการดำเนินงานที่ก้าวผ่านบทพิสูจน์ในสถานการณ์วิกฤตต่างๆ รวมไปถึงความไว้วางใจจากพนักงานที่มีต่อองค์กร ซึ่งเป็นเสมือนบันไดขั้นเเรกๆ ที่จะช่วยเสริมสร้างความเเข็งเเกร่งจากภายในให้สะท้อนไปสู่สังคมภายนอก ช่วยให้องค์กรพัฒนาไปข้างหน้าได้อย่างมีพลังมีความสุข เเละสนุกไปพร้อมกัน สโลเเกน“เเคร์คุณทุกอย่างก้าว” ของกรุงเทพประกันภัย จึงไม่ได้มุ่งเน้นไปที่การดูเเลเฉพาะกลุ่มลูกค้าเพียงเท่านั้นยังครอบคลุมถึงการบริหารทรัพยากรบุคคลอย่างเป็นธรรมเเละเท่าเทียมส่งเสริมศักยภาพ ดูเเลความปลอดภัยและอาชีวอนามัยตั้งเเต่พนักงานไปจนถึงคู่ค้า ชุมชน ตลอดห่วงโซ่อุปทานและผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม ตามเเนวทางการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนที่คำนึงถึงปัจจัยด้านสิ่งเเวดล้อม สังคม เเละธรรมาภิบาล ขับเคลื่อนธุรกิจเพื่อสังคม ควบคู่ไปกับผลการดำเนินงานที่ดีอย่างสมดุล
สร้างสุขการทำงาน ด้วยสวัสดิการที่ครบครัน ความมุ่งมั่นตั้งใจในการดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานของการกำกับดูเเลกิจการที่ดี เเละมุ่งปฏิบัติต่อพนักงานอย่างเหมาะสมในหลากหลายมิติ ส่งผลให้กรุงเทพประกันภัยได้รับรางวัลด้านการจัดการสวัสดิการพนักงานมามากมาย นับเป็นความสำเร็จที่สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพการดำเนินธุรกิจกับ รางวัลสถานประกอบกิจการดีเด่น ด้านแรงงานสัมพันธ์และสวัสดิการแรงงาน ประจำปี 2565 ระดับประเทศ ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 ประเภทสถานประกอบกิจการขนาดใหญ่ จากกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน
ด้วยการตระหนักว่าก่อนที่จะส่งมอบบริการที่ดีและมีประสิทธิภาพให้แก่ผู้อื่นได้นั้น จะต้องเริ่มจากความสุขในใจของพนักงานก่อน BKIจึงมีการปรับเปลี่ยนการบริหารจัดการด้านแรงงานสัมพันธ์ให้สอดคล้องกับบริบทสังคมอยู่เสมอ เพื่อยกระดับพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีของพนักงาน สร้างบรรยากาศสภาพแวดล้อมที่ดีต่อการทำงาน มีโครงสร้างเงินเดือนที่เหมาะสม ชั่วโมงการทำงานที่ยืดหยุ่น ให้โอกาสเเละอำนวยความสะดวกต่อการที่พนักงานจะพัฒนาตนเองหรือศึกษาความรู้เพิ่มเติม เคารพสิทธิมนุษยชนและความเเตกต่างของเเต่ละบุคคล พร้อมกับการเสริมสร้างความผูกพันที่แน่นแฟ้นกับองค์กร พนักงานจะได้รับสวัสดิการที่ครอบคลุมทุกความต้องการ อย่างการประกันชีวิตเเละอุบัติเหตุส่วนบุคคล ค่ารักษาพยาบาลที่ครอบคลุมด้านทันตกรรมการตรวจสุขภาพประจำปีกับโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำ พร้อมการบริหารจัดการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย สร้างสภาพเเวดล้อมในการทำงานให้สอดคล้องกับกฎหมายเเละข้อกำหนดอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งนอกเหนือจากการดูแลสุขภาพกายแล้ว “สุขภาพใจ”ของพนักงานก็เป็นสิ่งที่กรุงเทพประกันภัยให้ความสำคัญอย่างยิ่ง โดยได้มีการปรับเพิ่มสวัสดิการด้านประกันสุขภาพและขยายความคุ้มครองการรักษาให้ครอบคลุมโรคซึมเศร้าหรือโรควิตกกังวลอีกด้วย นอกจากนี้พนักงานทุกคนยังสามารถลาพักผ่อนได้ตั้งเเต่เริ่มงานโดยจะได้รับสิทธิ์เพิ่มขึ้นตามอายุงานเเละตำเเหน่งงาน พร้อมเข้าถึงสวัสดิการด้านเงินกู้เพื่อบรรเทาภาระด้านการเงินในกรณีที่มีความจำเป็นด้วยอัตราดอกเบี้ยต่ำสนับสนุนสินเชื่อบ้าน สินเชื่อรถ เเละรางวัลโบนัสประจำปี
เปิดโอกาสการเรียนรู้ พัฒนาทักษะใหม่ให้ทันโลก ท่ามกลางสถานการณ์รอบตัวที่มีความผันผวนสูง กรุงเทพประกันภัยได้ส่งเสริมการ Upskill และReskill พนักงานผ่านการจัดอบรมทั้งภายในเเละภายนอกบริษัทฯ สนับสนุนการศึกษาภาษาต่างประเทศ การศึกษาในหลักสูตรประกันวิชาชีพ การศึกษาระดับปริญญาโท จัดทัศนศึกษาและสัมมนาทั้งในประเทศเเละต่างประเทศ เพื่อให้พนักงานสามารถนำทักษะมาต่อยอดความรู้เเละประยุกต์ใช้ในด้านต่างๆ ทั้งการทำงาน ชีวิตประจำวัน ครอบครัวเเละการช่วยเหลือสังคม เสริมสร้างศักยภาพของบุคลากรให้มีความเชี่ยวชาญในการทำงานด้วยรูปแบบเเละเครื่อง
มือที่หลากหลาย ตามเเนวทางการพัฒนาทรัพยากรบุคคลที่พัฒนาขึ้นอย่างเป็นระบบเเละสอดคล้องกับตำเเหน่งงาน ผ่าน Training needs byposition ฝึกอบรมพนักงานให้มีความรู้เเละทักษะ ปฏิบัติงานได้อย่างถูกต้องเเละ On the jobs Training (OJT) ฝึกอบรมเเละเรียนรู้งานจากการปฏิบัติงานจริง โดยมีการวัดผลเพื่อนำไปพัฒนาการปฏบัติงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น อีกทั้งยังมีหลักสูตรการเรียนออนไลน์ กิจกรรมให้ความรู้ด้านการเงินต่างๆ และการมีระบบ Mentor (พี่เลี้ยง) กิจกรรม Career Consult รายบุคคลที่จะคอยช่วยเเนะนำสนับสนุน เเละให้คำปรึกษา เพื่อให้พนักงานรู้สึกสบายใจ มีความสุขในการทำงาน ส่งผลให้บรรยากาศการทำงานดีขึ้น เปิดโอกาสให้พนักงานมีส่วนร่วมหรือเเสดงความคิดเห็นที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงาน ขณะเดียวกัน บริษัทยังมุ่งสร้างจิตสำนึกให้ผู้บริหารและพนักงานทุกระดับให้มีความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ผ่านการสนับสนุนกิจกรรมเพื่อสังคม เพื่อดูแลและช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส กลุ่มผู้สูงอายุและผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากภัยพิบัติต่างๆ
ดูแลพนักงานในทุกช่วงชีวิต พร้อมหลักประกันเพื่อการเกษียณ กรุงเทพประกันภัย โดดเด่นในด้านการบริหารจัดการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพการันตีด้วย รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1ในการประกวดกองทุนสำรองเลี้ยงชีพดีเด่น ครั้งที่ 10 ประจำปี 2565 ประเภทกองทุนเดี่ยว Single Fund กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กลุ่มหน่วยงานเอกชน ขนาดกองทุนมากกว่า 1,000 ล้านบาท จากสมาคมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ด้วยการบริหารจัดการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพอย่างมีมาตรฐาน โปร่งใสเป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล มีการกำหนดบทบาท หน้าที่ และความรับผิดชอบของนายจ้างและคณะกรรมการกองทุนอย่างชัดเจน เพื่อควบคุมและตรวจสอบการดำเนินการจัดการกองทุน และคำนึง ถึงการรักษาผลประโยชน์ให้แก่สมาชิกอย่างเหมาะสม ส่งเสริมให้กองทุนสำรองเลี้ยงชีพสามารถที่จะเป็นหลักประกันหลังเกษียณได้อย่างแท้จริง โดยบริษัทฯ มีการสมทบให้ใน “อัตราสูงสุดเเบบขั้นบันได” ซึ่งอัตราเงินสะสมเเละเงินสมทบนั้นจะพิจารณาตามอายุงานหรือระดับตำเเหน่งงานและยึดถือว่าหากหลักเกณฑ์ใดเอื้อประโยชน์แก่พนักงานมากกว่าก็ให้ใช้หลักเกณฑ์นั้น พร้อมนำเสนอทางเลือกในการลงทุน ทั้งการลงทุนเเบบสมดุลความเสี่ยงเเละสมดุลตามอายุ เพื่อสนับสนุนให้เกิดการออมระยะยาว ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญต่อชีวิตคนทำงาน และเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม จากการคำนึงถึงการสร้างหลักประกันในการดำรงชีวิตของพนักงาน และความสำคัญของการจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมเพื่อบรรเทาความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น กรุงเทพประกันภัยจึงมีการนำส่งเงินสมทบถูกต้องครบถ้วนมาโดยตลอด ไม่มีประวัติค้างชำระโดยได้รับรางวัลโล่ประกาศเกียรติคุณครบรอบ 32 ปี วันคล้ายวันสถาปนาสำนักงานประกันสังคม 3 กันยายน 2565 ว่าเป็นสถานประกอบการต้นแบบในการชำระเงินสมทบกองทุนประกันสังคมดีเด่น พร้อมทั้งรางวัลโล่ประกาศเกียรติคุณ ในฐานะผู้ทำคุณประโยชน์ ด้านส่งเสริมความปลอดภัยและป้องกันการประสบอันตราย
บริษัทยังได้รับ รางวัลองค์กรต้นแบบความยั่งยืนตลาดทุนไทยด้านสนับสนุนคนพิการ ประเภทดีเด่นจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ร่วมกับกระทรวงแรงงาน ด้วยการส่งเสริมความเท่าเทียม มีนโยบายเพิ่มโอกาสการจ้างงานและสนับสนุนอาชีพผู้พิการในองค์กร โดยจัดสรรอุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวกที่เอื้อต่อการทำงานและสอดคล้องต่อความต้องการของผู้พิการ พร้อมกันนี้ บริษัท กรุงเทพแอดวานซ์ เซอร์วิส จำกัด หรือ BAS ซึ่งเป็นผู้ให้บริการ Outsource ของกรุงเทพประกันภัย ยังได้รับรางวัลสถานประกอบกิจการดีเด่น ด้านแรงงานสัมพันธ์และสวัสดิการแรงงาน ประจำปี 2565 ระดับประเทศ ปีที่ 1 ประเภทสถานประกอบกิจการขนาดกลาง หลังจากเมื่อปี 2564 BAS ได้รับรางวัลดังกล่าว ในระดับจังหวัดอีกด้วย
จะเห็นได้ว่าการเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีในสถานที่ทำงาน เพื่อให้พนักงานมีความสุข มีคุณภาพชีวิตที่ดี พร้อมมีความมั่นคงและปลอดภัยนั้น เป็นอีกหนึ่งแรงจูงใจสำคัญในการทำงานให้เกิดประสิทธิภาพ สามารถให้การบริการที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ได้รับความพึงพอใจสูงสุด พร้อมสร้างการเติบโตก้าวหน้าให้แก่องค์กรและสังคมได้ในระยะยาว กรุงเทพประกันภัยจึงยึดมั่นในหลักจรรยาบรรณ จริยธรรม และบรรษัทภิบาลในการดำเนินธุรกิจด้วยความโปร่งใส ให้ความเป็นธรรม ปฏิบัติต่อลูกค้า คู่ค้า ตลอดจนพนักงานอย่างเท่าเทียมกัน เพื่อนำไปสู่การพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืนต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี