กรมหลวงชุมพรฯ ท่านทรงคิดค้นตำรายาแผนไทยหลายขนานด้วยพระองค์เอง และยังทรงค้นคว้าจากตำรายาแผนไทยครั้งสมัยกรุงศรีอยุธยาด้วย ตำรายาสำคัญอย่างหนึ่งที่ทรงค้นคว้าคือตำรายาไทยเมื่อครั้งรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง
ไลฟ์ วาไรตี โดย ดร.เฉลิมชัย ยอดมาลัย ไปสนทนากับ หม่อมราชวงศ์จิยากร อาภากร เสสะเวชประธานมูลนิธิราชสกุลอาภากรฯ ในพลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ถึงตำรายาแผนไทยที่กรมหลวงชุมพรฯ ทรงค้นคว้าจากตำรายาแผนไทยสมัยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง
l กราบเรียนถามคุณหญิงถึงความเกี่ยวข้องระหว่างตำรับยาแผนไทยสมัยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง กับ กรมหลวงชุมพรฯ ครับ
ม.ร.ว.จิยากร กรมหลวงชุมพรฯ ท่านทรงสนพระทัยเรื่องยาสมุนไพรไทย และยาแผนไทยเป็นอย่างมาก ทรงค้นคว้าหาสรรพคุณสมุนไพรไทยและทรงพระนิพนธ์ตำรายาหมอพรไว้ 15 เล่ม ทุกเล่มทรงเขียนด้วยลายพระหัตถ์ และทรงวางภาพประกอบด้วยพระองค์เอง ล่าสุดเมื่อประมาณ 1 ปีที่ผ่านมา มูลนิธิฯ ได้จัดพิมพ์หนังสือตำรายาหมอพร เล่มหนึ่งเสร็จเรียบร้อยแล้ว ชื่อพระคัมภีร์อติสารวรรค โบราณะกรรมแลปัจจุบันนะกรรม แต่ยังต้องค้นคว้าตำรายาของหมอพรเล่มอื่นๆ อีก เพราะภาษาที่ทรงเขียนนั้นเป็นภาษาโบราณ ต้องชำระภาษาก่อนเนื่องจากตำราบางหน้าเลือนรางไปบ้าง ต้องให้ผู้ชำนาญภาษาอ่าน เพื่อจะได้เนื้อหาที่ถูกต้องครบถ้วนและสมบูรณ์ ส่วนตำรายาสมัยสมเด็จพระเจ้าปราสาททองนั้น เป็นตำราหนึ่งที่ราชสกุลอาภากรพบว่าอยู่ในตำรายาของหมอพรด้วย
ดังนั้นราชสกุลอาภากรจึงเห็นควรว่าจะต้องทำพิธีบวงสรวงเพื่อความเป็นสิริมงคล โดยทำพิธี ณ ปราสาทนครหลวง อำเภอนครหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อถวายความเคารพแด่สมเด็จพระเจ้าปราสาททอง ผู้ทรงเป็นต้นตำรับยาที่กรมหลวงชุมพรฯ ท่านทรงใช้ในตำรายาหมอพร ย้อนกลับไปกล่าวถึงความสนพระทัยของกรมหลวงชุมพรฯ ซึ่งท่านทรงเป็นเสด็จปู่ของพี่ ท่านสนพระทัยใฝ่ศึกษาทั้งแพทย์แผนโบราณ และแผนไทย ทรงค้นคว้าหาสรรพคุณสมุนไพรต่างๆ แล้วทรงจดบันทึกไว้ในตำรายาหมอพร ทรงบันทึกเป็นสมุดหน้าขาวและหน้าดำ สมุดหน้าขาวทรงเขียนตัวอักษรสีดำ ส่วนสมุดหน้าดำทรงเขียนตัวอักษรสีขาว ตำรับยาหมอพรถูกเก็บไว้ในตำหนักของพระองค์ท่าน
เมื่อท่านสิ้นพระชนม์แล้ว หม่อมเมี้ยน(หม่อมท่านหนึ่งของกรมหลวงชุมพรฯ) และนายเทียบ(น้องชายหม่อมเมี้ยน) นำตำรายาทั้งหมดไปมอบให้กับญาติผู้ใหญ่ของพี่ หม่อมเมี้ยนเป็นผู้ดูแลท่านพ่อของพี่ เมื่อสมาชิกราชสกุลอาภากรได้ตั้งมูลนิธิฯขึ้นแล้ว จึงได้เก็บรักษาตำรายาหมอพรไว้ แล้วตั้งใจจะพิมพ์เผยแพร่ให้สาธารณชนได้รับทราบ ซึ่งตำรายาเล่มหนึ่งชื่อว่าโอสถพระเจ้าปราสาททอง เป็นตำราที่ช่วยดูแลบำรุงสมอง ช่วยให้เกิดความผ่อนคลายไร้ความเครียดกังวล ทำให้นอนหลับสบาย มีชื่อยาขนานหนึ่งน่าสนใจมากคือ สำราญอากาศ ซึ่งช่วยให้ร่างกายผ่อนคลายจากความเครียด ดังนั้น ในนามราชสกุลอาภากร พี่จึงนำเรื่องนี้ไปหารือกับกรมแพทย์แผนไทยฯ กระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้ช่วยกันเผยแพร่หนังสือตำรายาหมอพร โดยเฉพาะตำรับโอสถพระเจ้าปราสาททอง อีกเหตุผลหนึ่งที่มูลนิธิราชสกุลอาภากรฯตั้งใจนำโอสถปราสาททองออกเผยแพร่ เพราะเป็นพระโอสถหลวง ที่ทำเพื่อทูลเกล้าฯ ถวายพระเจ้าอยู่หัว จึงมั่นใจได้ว่าตำรับยานี้มีความปลอดภัย
l นี่คือเหตุผลสำคัญที่มูลนิธิราชสกุลอาภากรฯมาทำพิธีบวงสรวง ณ ปราสาทนครหลวง ก็เพื่อถวายราชสักการะแด่สมเด็จพระเจ้าปราสาททอง
ม.ร.ว.จิยากร ค่ะ เพื่อถวายราชสักการะ และระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณที่พระราชทานตำรับยาและเหตุผลที่มากระทำพิธีบวงสรวงที่ปราสาทนครหลวง ก็เพราะเป็นสถานที่ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2174 ตามประวัติบอกว่าสร้างปราสาทแห่งนี้หลังจากสร้างวัดไชยวัฒนารามเสร็จเรียบร้อยแล้ว 1 ปี เพราะฉะนั้นที่แห่งนี้จึงมีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง ด้วยความเคารพในตำรายาของพระองค์ท่าน เราจึงต้องมากระทำพิธีบวงสรวงเพื่อขอพระราชานุญาตก่อนที่จะนำออกเผยแพร่สู่สาธารณะ และอีกประการคือ ต้องการให้สถานที่สำคัญแห่งนี้เป็นที่รู้จักแพร่หลายของสังคมด้วย เพื่อจะได้มีผู้คนมากราบสักการะและช่วยกันดูแลมิให้ทรุดโทรม ต้องบอกว่าโบราณสถานแห่งนี้มีความงดงามมาก แม้จะทรุดโทรมไปตามกาลเวลา แต่ก็ยังคงความงาม และความยิ่งใหญ่ หากยังสมบูรณ์จะยิ่งงดงามมากกว่านี้หลายเท่า ที่สำคัญคือโบราณสถานแห่งนี้ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวพระปิยมหาราชเจ้า พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เคยเสด็จพระราชดำเนินมาแล้ว
l ทราบมาว่า ในปี พ.ศ. 2566 เป็นโอกาสสำคัญของกรมหลวงชุมพรฯ ด้วยใช่ไหมครับ
ม.ร.ว.จิยากร ค่ะ ในปี 2566 เป็นโอกาสครบ 100 ปี การสิ้นพระชนม์ของกรมหลวงชุมพรฯพระองค์ท่านสิ้นพระชนม์วันที่ 19 พฤษภาคม 2466 ดังนั้นในวันที่ 19 พฤษภาคม 2566 จึงครบ 100 ปีวันสิ้นพระชนม์ มูลนิธิราชสกุลอาภากรฯตั้งใจทำหนังสือโอสถปราสาททองให้เสร็จสมบูรณ์พร้อมนำเผยแพร่สู่สาธารณชนได้ในปี 2566 เพื่อจะได้เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ และประโยชน์ต่อมวลมนุษยชาติ เพราะตำรายาแผนไทย และตำราสมุนไพรไทย จะช่วยให้มนุษย์มีสุขภาพดีขึ้นได้ เมื่อมีตำราที่สมบูรณ์แล้ว จะได้นำไปใช้ประโยชน์ได้วงกว้าง และเป็นการเผยแพร่พระเกียรติคุณของพระองค์ท่านให้ขจรขจายด้วย
l ในโอกาสคล้ายวันสิ้นพระชนม์ครบ 100 ปี ของกรมหลวงชุมพรฯ นอกเหนือจากมูลนิธิราชสกุลจะจัดทำหนังสือโอสถปราสาททองแล้ว ยังมีกิจกรรมอื่นๆ เพื่อถวายอีกไหมครับ
ม.ร.ว.จิยากร มูลนิธิฯ จัดทำเหรียญที่ระลึก100 ปีวันสิ้นพระชนม์ของพระองค์ท่าน โดยกราบบังคมทูลขอพระบรมราชานุญาตพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแล้ว เหรียญที่ระลึกได้รับการออกแบบโดยโรงกษาปณ์ เป็นเหรียญคล้ายที่ทำเมื่อปี 2466 จำนวนที่สร้างก็ไม่มากนัก คือเป็นเหรียญทองคำหนัก 19 กรัม จำนวน 100 เหรียญเหรียญเงิน 2,566 เหรียญ และเหรียญทองแดง และเหรียญทำจากไมครอนอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งไม่มากนัก เพียงชนิดละ 1 หมื่น และ 2 หมื่นเหรียญเท่านั้น เหรียญทั้งหมดจะผ่านพิธีปลุกเสก ณ วัดราชบพิธฯ วันที่ 13 มิถุนายน 2566 สมเด็จพระสังฆราชทรงมีพระเมตตาทรงรับเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ รายได้จากกิจกรรมนี้จะนำไปใช้เพื่อสาธารณกุศล เช่นสร้างอาคารอบรมและเรียนรู้เรื่องแพทย์แผนไทย และสมุนไพรไทยที่ตำหนักกรมหลวงชุมพรฯพลูตาหลวง สัตหีบ ขอเชิญชวนทุกคนร่วมกันสร้างสาธารณกุศลนี้ด้วยกัน สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่มูลนิธิราชสกุลอาภากรฯ หมายเลขโทรศัพท์ 02-4682696
l สำหรับเหรียญทองนั้น หากมีผู้สั่งจองเกิน 100 คนจะทำเพิ่มไหมครับ
ม.ร.ว.จิยากร ไม่ทำเพิ่มค่ะ ทำไม่ได้ค่ะ เพราะขอพระบรมราชานุญาตไว้จำนวน 100 เหรียญเท่านั้นค่ะ ไม่สามารถทำเกินจำนวนได้เป็นอันขาด ส่วนใบเสร็จรับเงินบริจาคสมทบทุนที่ออกให้โดยมูลนิธิราชสกุลอาภากร สามารถนำไปหักลดหย่อนภาษีเงินได้ด้วยค่ะ
l ต้องยอมรับว่าคนไทยจำนวนมากต่างถวายความรัก เคารพ ศรัทธาต่อกรมหลวงชุมพรฯอย่างมาก ดังจะเห็นว่าหลายจังหวัดทั่วประเทศไทยมีศาลของกรมหลวงชุมพรฯ หรือที่เรียกกันว่าเสด็จเตี่ยตั้งอยู่ และขณะเดียวกันก็มีผู้คนจำนวนไม่น้อยไปกราบถวายความเคารพที่วิหารน้อย สุสานหลวง วัดราชบพิตรฯ เป็นประจำ
ม.ร.ว.จิยากร พี่เชื่อว่า การที่ผู้คนมากมายถวายความรัก เคารพ ศรัทธาในพระองค์ท่าน ก็เพราะเห็นว่าท่านทรงมีพระเมตตา ทรงเป็นที่พึ่ง
ทางใจ และทรงเป็นต้นแบบของความวิริยอุตสาหะ ซึ่งพระองค์ท่านทรงเน้นในเรื่อง ทำสิ่งใด ต้องทำจริง แต่พี่เชื่อว่าคนที่ไปกราบไหว้ขอพรจากพระองค์ท่านแล้วประสบความสำเร็จตามปรารถนาก็เพราะเขาเหล่านั้นเป็นคนดี มีความตั้งใจจริงเป็นพื้นฐานอยู่แล้ว เขาตั้งใจมั่น ทำดีมาโดยตลอด เพื่อไปกราบไหว้ของพรจากท่าน ก็จึงประสบความสำเร็จตามที่ตั้งใจไว้พี่เชื่อว่าพระองค์ท่านทรงมีพระเมตตา ทรงช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยากที่มีพื้นฐานเป็นคนดี ซึ่งในความจริงนั้นพระองค์ทรงแสดงให้เห็นชัดว่าทรงเป็นมนุษย์ที่เน้นความเพียร ความตั้งใจจริง แม้ในช่วงที่ทรงประสบความทุกข์ยากในพระชีวิต ก็ทรงหาทางแก้ปัญหาได้ด้วยความเพียร มิได้ถือโกรธใดๆ
หลังจากทรงพ้นจากการรับราชการกองทัพเรือ ก็ทรงพระอุตสาหะเรียนรู้ด้านแพทย์แผนไทย และสมุนไพรไทยในพระนามหมอพร ท่านทรงมีความอดทน ทำจริงในสิ่งที่ทรงตั้งพระทัยมั่น เมื่อทรงพบอุปสรรคก็มิได้ทรงย่อท้อใดๆ ทรงฟันฝ่าอุปสรรคไป ทรงเป็นต้นแบบในการทำความดีเพื่อแผ่นดินไทย ทรงมีมานะ และยึดมั่นในการทำความดีเพื่อบ้านเกิดเมืองนอน ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้คนไทยจำนวนมากถวายความรัก เคารพ ศรัทธาพระองค์ โดยเห็นว่าในหลายจังหวัดมีศาลกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์แม้กระทั่งในเขตจังหวัดภาคเหนือที่ห่างไกลจากท้องทะเล ก็มีศาลของพระองค์ท่าน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าคนจำนวนมากต่างถวายความศรัทธาและเคารพรักพระองค์ท่าน
คุณจะได้ชมรายการไลฟ์ วาไรตี รายการดีที่ครบครันด้วยสาระและความรู้ ออกอากาศทุกวันเสาร์ เวลา 14.05-14.30 น. ทางโทรทัศน์ NBT กดหมายเลข 2 และชมรายการย้อนหลังได้ที่ YouTube ไลฟ์ วาไรตี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี