เพราะฟันเฟืองที่จะช่วยขับเคลื่อนประเทศไทยในวันหน้าคือเยาวชนในวันนี้ ดังนั้น เราจึงต้องสร้างกำลังคนให้มีความพร้อมตั้งแต่วัยเรียน โดย “สะเต็มศึกษา” ถือเป็นองค์ความรู้แห่งอนาคตที่จะเป็นกุญแจสำคัญในการปฏิรูปการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 เพื่อสร้างรากฐานสำคัญของการเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันและนวัตกรรมของไทยสู่ระดับสากล รวมถึงยังช่วยขับเคลื่อนในมิติด้านเศรษฐกิจ และยกระดับคุณภาพชีวิตในระดับสังคม สู่ความยั่งยืนของชาติได้หากพูดถึงโครงการพัฒนาการเรียนรู้ในสาขาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรม และคณิตศาสตร์ หรือ สะเต็มอย่างเต็มรูปแบบและเห็นผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมในประเทศไทย โครงการ “Chevron Enjoy Science : สนุกวิทย์ พลังคิด เพื่ออนาคต” ริเริ่มโดยบริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด ถือเป็นต้นแบบของโครงการ “รัฐร่วมเอกชน” ที่มุ่งยกระดับขีดความสามารถของประเทศผ่านสะเต็มศึกษา ภายใต้งบประมาณทั้งสิ้นกว่า 1,120 ล้านบาทพร้อมเป้าหมายในการสร้างรากฐานสำคัญเพื่อพัฒนานวัตกรรมและศักยภาพการแข่งขันของประเทศอย่างยั่งยืน ซึ่งในปีนี้ถือเป็นก้าวสำคัญที่เชฟรอนและพันธมิตรได้พาโครงการฯสำเร็จลุล่วงมาตลอด 8 ปี โดยภายในงาน Southeast Asian STEM Education Fair and Exposition 2023ที่ SEAMEO STEM-ED ได้จัดขึ้นด้วยการสนับสนุนหลักจากเชฟรอน ถือเป็นเวทีสรุปผลความสำเร็จสำคัญของโครงการฯพร้อมเปิดแนวทางสานต่อสะเต็มศึกษาทั้งระดับประเทศและภูมิภาคให้ก้าวเดินต่อไป ภายในงาน มีผู้เข้าร่วมกว่า 500 คน ทั้งหน่วยงานภาครัฐ ผู้กำหนดนโยบาย ผู้พัฒนาหลักสูตรการศึกษา พันธมิตรหลากหลายภาคส่วน และเยาวชนจากทั้งในประเทศและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ชาทิตย์ ห้วยหงษ์ทอง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นในการสร้างความยั่งยืนทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศผ่านการศึกษาว่า “ตั้งแต่ริเริ่ม โครงการ “Chevron Enjoy Science : สนุกวิทย์ พลังคิด เพื่ออนาคต”เมื่อปี 2558 เรามองถึงความยั่งยืนของโครงการฯจึงทำอย่างต่อเนื่องถึง 8 ปี เพราะมีความตั้งใจจริงที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนสู่อนาคตที่ดีของสังคมผ่านการทำโครงการระยะยาวร่วมกับพันธมิตรที่มีเจตนารมณ์ร่วมกัน โดยจากวัฒนธรรมที่เชื่อมั่นใน “พลังคน” เราจึงมุ่งมั่นพัฒนาบุคลากรผ่านการปฏิรูปและยกระดับการศึกษา ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาหลายทศวรรษ เราได้ให้การสนับสนุนโครงการด้านการศึกษาหลากหลายโครงการ พร้อมมุ่งมั่นพัฒนาและผสานองค์ความรู้สาขาสะเต็มในระบบการศึกษาไทย เพื่อเป็นรากฐานสำคัญต่อการสร้างความเข้มแข็งทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม”
ดร.กฤษฎ์ชัย สมสมาน ผู้อำนวยการศูนย์ SEAMEO STEM-ED ได้เน้นย้ำถึงเป้าหมายของการจัดงาน Southeast Asian STEM Education Fair & Exposition 2023 พร้อมเล่าถึงความสำเร็จของโครงการฯ ในระยะที่ 2 ว่า “ความมุ่งมั่นจากทุกหน่วยงานพันธมิตรกว่า 236 องค์กร ส่งผลให้การดำเนินโครงการฯ เกิดผลสำเร็จอย่างดี มุ่งเสนอผลลัพธ์ต่อผู้กำหนดนโยบายและตั้งเป้าหมายการดำเนินงานให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาศักยภาพสถาบันผลิตและพัฒนาวิชาชีพครูในโครงการ STEP เพื่อปลดล็อกยกระดับการผลิตครูมืออาชีพให้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงโลกยุคใหม่ริเริ่มโครงการนำร่องด้าน Career Academies พร้อมร่วมมือกับ Thai PBS ผ่านการผลิตรายการภารกิจพิชิตฝัน และร่วมมือกับองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติในการพัฒนาแพลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อให้เยาวชนเรียนรู้เกี่ยวกับอาชีพยุคใหม่ อีกทั้งยังได้พัฒนาสื่อการเรียนรู้ด้านสะเต็มศึกษาที่มีคุณภาพ และพัฒนาโรงเรียนคุณภาพสะเต็มศึกษา ไปจนถึงเสริมแกร่งเครือข่ายนักวิจัย ในปีนี้จัดภายใต้ธีม Preparing a Prosperous Future for the Next Generation สะท้อนให้เห็นเป้าหมายสำคัญในการสร้างอนาคตเยาวชนไทยให้เข้มแข็งผ่านสะเต็มศึกษาซึ่งเป็นต้นกำเนิดของการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ซึ่งจากการที่ภาคการศึกษาและผู้กำหนดนโยบายได้เข้าร่วมงานรวมถึงได้เห็นถึงผลความสำเร็จโครงการฯ และการนำเสนอ Showcase จากเยาวชนในวันนี้จะเป็นก้าวสำคัญในการนำโมเดลสะเต็มศึกษาไปขยายผลสู่ระดับประเทศและภูมิภาค รวมถึงได้สร้างเครือข่ายระหว่างประเทศที่เข้มแข็ง และสร้างโอกาสพร้อมเพิ่มขีดความสามารถให้เยาวชนต่อไปในอนาคต”
ด้าน คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รมช.กระทรวงศึกษาธิการ ได้กล่าวถึงการปฏิรูปการศึกษาไทยเพื่อตอบโจทย์ตลาดแรงงานในอนาคตว่า “ศธ.มุ่งพัฒนาองค์ความรู้ด้านสะเต็มศึกษาผ่านการสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับหลายหน่วยงานเพื่อเตรียมเยาวชนให้พร้อมรับมือกับความผันผวนของโลกที่ถูก Disrupt ด้วยเทคโนโลยีและสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดต่างๆ โดยเราได้ขับเคลื่อนนโยบายการจัดการเรียนการสอนสะเต็มศึกษาในสถานศึกษาพร้อมทั้งติดตาม ประเมินความก้าวหน้าและความสำเร็จในการปฏิบัติงาน รวมถึงพัฒนาหลักสูตรสะเต็มศึกษาครอบคลุมโรงเรียนทั่วประเทศ พร้อมเพิ่มศักยภาพครูยุคใหม่ เน้นย้ำถึงความสำคัญของการจัดการเรียนการสอน CODING ของประเทศไทยในทุกระดับ รวมถึงการเรียนการสอนแบบ “Unplugged Coding” ในลักษณะการพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ แก้ปัญหาเป็นขั้นเป็นตอน ส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตพัฒนาศักยภาพคนไทยทุกช่วงวัย การเตรียมคนไทยสู่ศตวรรษที่ 21 ทั้งนี้ ยังได้กล่าวย้ำความสำคัญของการบูรณาการ “ศาสตร์และศิลป์แห่งชีวิต” (Arts of Life) “ศิลปะในการดำรงชีวิต (Arts of Living)” และ “ศิลปะการทำงานร่วมกัน (Arts of working together)” ไว้ในการจัดการเรียนรู้สะเต็มศึกษาสู่การจัดการเรียนรู้แบบผสมผสานในลักษณะที่เรียกว่า STEAM เพื่อให้เห็นถึงความจำเป็นด้านวัฒนธรรม คุณค่าและอัตลักษณ์ เพื่อการดำรงชีวิตอย่างมีความหมาย มีความสุข และมีคุณภาพชีวิตที่ดีบนพื้นฐานของคุณค่าของมรดกทางวัฒนธรรมซึ่งจะเป็นกุญแจและเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาประเทศในอนาคต”
โครงการ “Chevron Enjoy Science: สนุกวิทย์ พลังคิด เพื่ออนาคต” จะเดินทางสู่ความสำเร็จในวันนี้ไม่ได้ หากขาดพันธมิตรที่สำคัญทุกภาคส่วนไปซึ่งความร่วมมือดังกล่าวตอกย้ำถึง “พลังคน” ที่ยิ่งใหญ่ซึ่งริเริ่มจากจุดเล็กๆ อย่างการพัฒนาการศึกษา สู่ความสำเร็จระดับมหภาคที่ช่วยขับเคลื่อนโลกอย่างยั่งยืน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี