มีคำถามว่า คุณไปเที่ยวอยุธยามาแล้วกี่ครั้ง แล้วแต่ละครั้งไปเที่ยวที่ไหนบ้าง
คุณเชื่อไหม ว่าหลายคนตอบว่าไปอยุธยามาแล้วจนนับครั้งไม่ถ้วน ไปไหว้พระมาแล้วหลายครั้ง ไปกินกุ้งเผาหมดไปแล้วรวมๆ หลายสิบกิโลกรัม ไปซื้อโรตีสายไหมมาแล้วจนนับครั้งไม่ถ้วน
แต่เมื่อเจอคำถามว่า แล้วเคยไปไหว้พระวัดหน้าพระเมรุราชิการาม หรือวัดหน้าพระเมรุมาแล้วหรือยัง บางคนถามกลับว่า อยู่ตรงไหน ไม่รู้จัก อยู่ห่างจากอยุธยาไกลมากไหม
เมื่อได้ทราบคำตอบว่า วัดหน้าพระเมรุอยู่ติดกับบริเวณท้ายวังเก่ากรุงศรีอยุธยา ห่างเพียงไม่กี่ร้อยเมตร มีแค่คลองสายหนึ่งกั้นระหว่างวัดกับกำแพงวังเท่านั้น เมื่อได้ทราบคำตอบแบบนี้ ทุกคนที่ไปอยุธยาบ่อยๆ แต่ไม่เคยไปวัดหน้าพระเมรุถึงกับเกาหัว แล้วถามว่าจริงหรือ แล้วถามต่อไปว่า วัดนี้มีอะไรดีหรือ ทำไมต้องไป
เมื่อได้รับคำตอบว่า วัดหน้าพระเมรุคือสถานที่ตั้งของทัพหลวงของพระเจ้ามังระแห่งพม่า เมื่อครั้งทรงยกทัพมารบกับกรุงศรีอยุธยา ครั้นเมื่อมีชัยเหนือกรุงศรีอยุธยาแล้ว ก็มิได้เผาทำลายวัดหน้าพระเมรุเนื่องจากทรงเห็นว่าเป็นสถานที่ตั้งทัพหลวง ดังนั้นวัดแห่งนี้จึงถือได้ว่ายังมีความสมบูรณ์มากที่สุดแห่งหนึ่ง
ส่วนอีกสถานที่หนึ่งซึ่งมักจะได้รับคำตอบจากนักท่องเที่ยวว่า ไม่เคยไปดูเลยก็คือพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเจ้าสามพระยาคำตอบเพิ่มเติมที่มักจะได้รับก็คือ ไม่มีเวลาไป และไม่รู้ว่าภายในพิพิธภัณฑ์ฯ มีของสวยของงามที่ควรชม
ถ้าเช่นนั้น วันนี้ Mr.Flower ขอพาคุณไปเที่ยวชมวัดหน้าพระเมรุ และพิพิธภัณฑ์เจ้าสามพระยา ด้วยกันครับ
วัดหน้าพระเมรุราชิการาม เป็นวัดที่ถูกสร้างขึ้นในยุคกรุงศรีอยุธยาตอนต้น ตั้งอยู่ริมคลองสระบัว (แม่น้ำลพบุรีเดิม) วัดนี้ได้รับการยอมรับว่ามีรูปแบบสถาปัตยกรรมที่งดงามมาก ส่วนหน้าบันไม้สักทำเป็นรูปพระนารายณ์ทรงสุบรรณอยู่เหนือนาค ส่วนเท้าของสุบรรณเหยียบบนหัวยักษ์ แล้วล้อมรอบด้วยเทพชุมนุม ส่วนพระประธานมีพระนามว่าพระพุทธนิมิตวิชิตมารโมลีศรีสรรเพชญบรมไตรโลกนาถ เป็นพระพุทธรูปทรงเครื่องแบบกษัตราธิราช ส่วนด้านข้าง (ขวามือ) พระอุโบสถมีวิหารน้อย เป็นที่ประดิษฐานพระคันธารราฐ พุทธศิลปะสมัยทวารวดี ซึ่งพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้บูรณปฏิสังขรณ์วัดแล้วเชิญพระคันธารราฐจากวัดมหาธาตุไปไว้ที่วัดหน้าพระเมรุ พระคันธารราฐองค์นี้ทำจากหินสีเขียว ปางประทับนั่งห้อยพระบาท เป็นพระพุทธรูปปางประทับนั่ง จำนวน 1 ใน 5 องค์ที่ค้นพบในประเทศไทย
ส่วนอีกที่หนึ่งคือ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา ณ ที่แห่งนี้เป็นที่เก็บรักษาโบราณวัตถุล้ำค่ามากมาย แต่ที่ตั้งใจพาคุณๆ ไปชมคือเครื่องทองจากกรุวัดราชบูรณะโดยศิลปวัตถุที่นำมาจัดแสดงนี้ เป็นแค่เพียง 1 ส่วนใน 10 ส่วนที่เรียกคืนมาได้จากกลุ่มผู้โจรกรรมขุดกรุวัดราชบูรณะ เมื่อ 66 ปีก่อน
ศิลปวัตถุทั้งหมดทำจากทองคำแล้วประดับตกแต่งด้วยอัญมณีต่างๆ แบ่งเป็นศิลปวัตถุจำพวกเครื่องราชกกุธภัณฑ์ เครื่องราชูปโภค และเครื่องยศต่างๆ พระแสงขรรค์
ชัยศรี และเครื่องต้นเครื่องทรงของพระมหากษัตริย์ และยังมีศิลปวัตถุที่ทำเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา
ความน่าสนใจอีกประการของพิพิธภัณฑ์ฯแห่งนี้คือได้จำลองกรุของพระปรางค์วัดราชบูรณะมาจัดแสดง เพื่อให้ผู้เข้าชมเข้าใจว่ากรุพระปรางค์วัดราชบูรณะแบ่งเป็นสามส่วนชั้นที่ 1 บรรจุพระพุทธรูปและพระพิมพ์ต่างๆ ชั้นที่ 2 บรรจุเครื่องทอง (ชั้นนี้คือส่วนที่ถูกโจรกรรมเมื่อ 66 ปีก่อน) และชั้นที่ 3 ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ โดยพระบรมสารีริกธาตุถูกบรรจุไว้ในครอบที่ทำจากโลหะต่างๆ ถึงเจ็ดชั้น คือ เหล็ก ชิน สำริด (สัมฤทธิ์) เงิน ทองคำ แก้วผลึก และผอบทองคำ
เขียนมาถึงตรงนี้ Mr.Flower มั่นใจว่าคุณผู้อ่านคอลัมน์นี้คงสนใจไปชมความงามของวัดหน้าพระเมรุฯ และพิพิธภัณฑ์ฯเจ้าสามพระยา และคงต้องการไปเที่ยวชมดูความงามในมุมต่างๆ ของกรุงศรีอยุธยา อดีตราชธานีของไทย
หากคุณสนใจร่วมทริปพิเศษไปกับ Mr.Flower เพื่อชมความงดงามวิจิตรตระการตาของพระนครศรีอยุธยาในมุมต่างๆ โปรดติดต่อ 091-7233615 เราท่องเที่ยวแบบเจาะลึกด้านประวัติศาสตร์และศิลปวัฒนธรรม โดยเน้นการเที่ยวแบบกลุ่มเล็กๆ รับสมาชิกไม่เกิน 20 คน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี