วันเสาร์ ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ผู้หญิง
ผมไม่ต้องทิ้งบ้านไปทำงานในเมือง เพราะผมมีนํ้าปลูกพืชเลี้ยงสัตว์

ผมไม่ต้องทิ้งบ้านไปทำงานในเมือง เพราะผมมีนํ้าปลูกพืชเลี้ยงสัตว์

วันเสาร์ ที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2566, 06.00 น.
Tag : ปลูกพืชเลี้ยงสัตว์ วุฒิชัย อาทิตย์ตั้ง
  •  

ผมเคยเข้าใจว่าอีสานแห้งแล้ง ทำอะไรไม่ได้ แต่เมื่อผมแก้ปัญหาเรื่องน้ำได้ ผมก็อยู่บ้านแล้วทำมาหากินได้ตลอดปี (จตุรงค์ จันมา เกษตรกร นักศึกษาหลักสูตรชลกร)

ที่ตรงนี้เคยถูกน้ำท่วมในหน้าฝน พอหมดฝนก็แล้ง แต่เมื่อขุดบ่อขนาดใหญ่เก็บกักน้ำได้ ปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้งก็หมดไป (วุฒิชัย อาทิตย์ตั้ง รองผอ.วิทยาลัยเกษตรฯ ยโสธร)


ไลฟ์ วาไรตี สัปดาห์นี้ ดร. เฉลิมชัย ยอดมาลัย ไปสนทนาประเด็นแก้ปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้งในเขตจังหวัดยโสธร 

นายวุฒิชัย อาทิตย์ตั้ง รองผู้อำนวยการวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยียโสธร

เรียนถามอาจารย์ว่าก่อนจะมีบึงน้ำขนาดใหญ่นี้  ที่ตรงนี้มีปัญหาเรื่องน้ำอย่างไรมาก่อนบ้างครับ แล้วบึงใหญ่นี้

นายวุฒิชัย : สมัยก่อนจะมีบึงน้ำนี้ ที่ตรงนี้มีปัญหาประจำคือ น้ำท่วมในหน้าฝน พอหมดฝนก็แห้งแล้ง เป็นแบบนี้มาซ้ำซากเป็นสิบปี เวลาน้ำท่วมก็ท่วมหนักเสียหายมาก พอหน้าแล้งก็ปลูกอะไรไม่ได้เลย เมื่อเราได้รับงบประมาณมาขุดบึงนี้ ปัญหาเรื่องน้ำก็หมดไป

บึงแห่งนี้มีขนาดเท่าไรครับ

นายวุฒิชัย : ยาว 100 เมตร กว้าง 60 เมตร ลึก 7 เมตร ส่วนบริเวณกึ่งกลางบึงหรือที่เรียกว่าสะดือจะมีความกว้างและยาวด้านละ 15 เมตร แล้วขุดลึกลงไปอีก 4 เมตร 

สะดือของบึงน้ำมีไว้เพื่ออะไรครับ

นายวุฒิชัย : เพื่อเติมน้ำลงไปใต้ดิน เนื่องจากบึงน้ำนี้คือธนาคารน้ำแบบเปิด การขุดบึงใหญ่เช่นนี้ทำให้บริเวณใกล้เคียงระยะทาง 4-6 กิโลเมตร ได้รับผลดีด้วย เพราะเมื่อน้ำซึมลงไปชั้นหินอุ้มน้ำ น้ำจะแพร่กระจายไปในชั้นหินอุ้มน้ำ สร้างความชุ่มชื้นให้พื้นที่ห่างไกลออกไปได้หลายกิโลเมตร แต่ต้องบอกก่อนว่าการทำธนาคารน้ำใต้ดินแบบเปิดนี้ ขึ้นอยู่กับชั้นดินของแต่ละพื้นที่ ไม่ใช่หมายความว่าขุดลงไปในระดับความลึกเดียวกันทุกพื้นที่แล้วจะถึงชั้นหินอุ้มน้ำ มันขึ้นอยู่กับลักษณะทางธรณีวิทยาของแต่ละชุมชน บางแห่งตื้นกว่านี้ แต่บางแห่งก็ลึกกว่านี้ เพราะฉะนั้นจึงต้องเจาะสำรวจชั้นดินในแต่ละพื้นที่ก่อนขุดบึงขุดบ่อทำธนาคารน้ำใต้ดินแบบเปิด แต่เมื่อเราขุดลงไปถึงชั้นหินอุ้มน้ำแล้ว รับรองว่าจะสามารถแก้ปัญหาเรื่องน้ำในชุมชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ แล้วเมื่อเติมน้ำลงไปถึงชั้นนี้ น้ำจะแพร่กระจายไปใต้ดินได้ไกลหลายกิโลเมตร ช่วยให้พื้นที่ใกล้เคียงมีน้ำไปหล่อเลี้ยงและมีความชุ่มชื้น

เมื่อมีธนาคารน้ำใต้ดินแบบเปิดแล้วช่วยให้ชุมชนสามารถทำการเกษตรได้ดีกว่าเดิมกี่เท่าครับ

นายวุฒิชัย : บอกได้ตามตรงคือ ธนาคารน้ำแห่งนี้ช่วยให้เราทำการเกษตร เพาะปลูก และเลี้ยงปศุสัตว์ได้ตลอดปีครับ โดยเฉพาะในพื้นที่ของวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยียโสธร รวมถึงบริเวณชุมชนรอบๆ วิทยาลัยฯ อันที่จริงแล้วในเขตวิทยาลัยฯมีทั้งธนาคารน้ำใต้ดินทั้งชนิดเปิดและปิด โดยเราทำธนาคารน้ำใต้ดินแบบปิดกระจายไปทั่วเขตวิทยาลัย ธนาคารน้ำใต้ดินมีขนาดเล็ก ใช้แรงงานคนขุดได้ ธนาคารน้ำใต้ดินแบบปิดช่วยให้บริเวณรอบๆ มีความชุ่มชื้น และเป็นที่เก็บกักน้ำในยามที่ฝนตก และยังสามารถเก็บกักน้ำเสียที่ชุมชนทิ้ง ทำให้แก้ปัญหาน้ำเน่าเสียในเขตชุมชนได้อย่างดี การทำธนาคารน้ำใต้ดินแบบปิดทำได้ง่ายมาก ขุดลงไปเพียง 1 เมตร กว้าง 1 เมตร ก้นหลุมใส่แท่งปูนหัก หรือคอนกรีตหักรวมถึงยางรถยนต์ และท่อนไม้ขนาดใหญ่ลงไป เพื่อให้เกิดโพรงใต้ดินสำหรับเก็บกักน้ำไว้ ส่วนชั้นถัดๆ ขึ้นมาก็ใส่วัสดุอื่นๆ เช่น ขวดน้ำพลาสติก หินขนาดกลาง อิฐหัก แล้วชั้นถัดมาที่ใกล้ผิวดินก็ใส่ดิน ผสมขี้เถ้า ผสมเศษวัชพืช ใบไม้ กิ่งไม้เล็กๆ แล้วใช้ดินปิดทับผิวหน้า เพียงแค่นี้ก็สามารถปลูกพืชผักสวนครัว ตะไคร้ พริก มะเขือ มะนาว มะกรูด ไว้บริเวณใกล้ๆ กับปากบ่อธนาคารน้ำใต้ดินแบบปิด แค่นี้ก็ทำให้มีผักสวนครัวกินตลอดปี

ความเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดภายในเขตของวิทยาลัยเกษตรฯ หลังจากมีบึงน้ำใหญ่คืออะไรครับ

นายวุฒิชัย : ข้อแรกคือการทำเกษตรและปศุสัตว์ภายในวิทยาลัยได้ผลดีขึ้น เพราะมีน้ำใช้ทั้งปีการทำเกษตรนั้น น้ำคือหัวใจสำคัญ หากขาดน้ำทุกอย่างก็จบครับ ไปต่อไปไม่ได้ เราตั้งใจว่าหน้าปลูกข้าวปีนี้ เราจะปลูกข้าวในวิทยาลัยฯ อย่างในสมัยก่อนนั้น เมื่อเข้าหน้าแล้ง เราต้องสูบน้ำจากแม่น้ำที่อยู่ไกลออกไปเพื่อนำมาใช้สำหรับการเกษตร ยิ่งแหล่งน้ำอยู่ไกลมาก เราก็ต้องต่อท่อเป็นระยะทางไกล บางครั้งแรงสูบน้ำจากเครื่องยนต์ไม่พอ น้ำก็มาไม่ถึง แต่ตอนนี้เรามีแหล่งน้ำภายในวิทยาลัย เราติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์เพื่อใช้พลังแสงอาทิตย์แปรเป็นพลังงานสำหรับสูบน้ำได้ ประหยัดค่าไฟฟ้า และค่าน้ำมันเชื้อเพลิง 

กลับไปถามเรื่องธนาคารน้ำแบบปิด ที่สามารถใช้แรงงานคนทำขึ้นเอง โดยลงทุนไม่มากนัก สมมุติว่ามีพื้นที่หนึ่งไร่ เราควรจะทำธนาคารน้ำใต้ดินแบบปิดสักกี่จุดครับ

นายวุฒิชัย : ต้องแล้วแต่พื้นที่และลักษณะของดินในแต่ละเขตครับ แต่หากจะพูดโดยหลักการแล้ว ธนาคารน้ำใต้ดินแบบปิดสามารถขุดได้ค่อนข้างมาก โดยแต่ละแห่งห่างกันประมาณ 50 ถึง 100 เมตร ก็ได้ครับ ที่สำคัญคือต้องดูทิศทางน้ำไหลให้ดีก่อนขุดเพราะมันก็คือที่อยู่ของน้ำที่ไหลลงไปรวมกัน เมื่อมีธนาคารน้ำใต้ดินแบบปิดแล้ว รับรองว่าจะมีความชุ่มชื้นของพื้นที่ตามมาอย่างแน่นอน ขอย้ำว่าการทำธนาคารน้ำใต้ดินแบบปิดให้ได้ผลดีนั้นต้องดูทิศทางไหลของน้ำ หากน้ำไหลลงไปตรงบริเวณไหน ก็ขุดดินในบริเวณนั้น เพราะจะทำให้มีน้ำไหลลงไปรวมกันได้ง่าย แม้กระทั่งน้ำทิ้งจากครัวเรือนก็สามารถให้ลงไปอยู่ในธนาคารน้ำใต้ดินแบบปิดได้ อาศัยหลักการง่ายๆ คือ ดูทางน้ำไหล หาที่เก็บน้ำ หรือหาที่ให้น้ำอยู่ เพียงเท่านี้ก็จะลดปัญหาความแห้งแล้งในชุมชนและในเขตบ้านเรือนของตัวเองได้อย่างดี

นายจตุรงค์ จันมา เกษตรกร และนักศึกษาหลักสูตรชลกร

ก่อนจะมาอบรมหลักสูตรชลกร ทำอาชีพอะไรมาก่อนครับ

นายจตุรงค์ : ผมทำนาทำไร่ครับ คือทำอาชีพการเกษตรมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ โดยปลูกข้าว และปลูกพืชแบบการเกษตรผสมผสาน และมีบ่อเลี้ยงปลาด้วย

เกษตรผสมผสานที่ทำนั้น ปลูกพืชอะไรบ้างครับ

นายจาตุรงค์ : มีหลายอย่าง เช่น มะม่วง มะพร้าว น้อยหน่า และผักสวนครัว รวมถึงพืชยืนต้นจำพวกไม้เศรษฐกิจ เช่น พะยูง ยางนา ประดู่ ครับ อ้อ แล้วก็มีการปลูกพืชตามฤดูกาลด้วยครับ 

มีพื้นที่เกษตรกี่ไร่ครับ

นายจาตุรงค์ : 5 ไร่ครับ

เข้ามาอบรมหลักสูตรชลกรกี่ปีแล้วครับ และตัดสินใจเข้าอบรมเพราะอะไรครับ

นายจตุรงค์ : เริ่มเข้ามาอบรมได้เพียง 5-6 เดือนเท่านั้นครับ เพราะได้รับการชักชวนจากคนในชุมชน แล้วเมื่อเข้ามาสัมผัสก็เห็นว่าช่วยแก้ปัญหาเรื่องน้ำได้ สมัยก่อนนั้น พื้นที่ที่ผมทำการเกษตรมีปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง สลับกันทุกปี หน้าฝนก็น้ำท่วม หน้าแล้งก็ขาดน้ำ พืชต่างๆ ที่ลงทุนปลูกไป ได้รับความเสียหายทุกปี เมื่อได้รู้ข่าวว่าวิทยาลัยเกษตรฯ ยโสธรจะอบรมหลักสูตรชลกร โดยอบรมให้ฟรีผมก็จึงสนใจแล้วเข้ามารับการอบรมครับ เราสามารถรับการอบรมได้ทั้งการมาที่วิทยาลัยฯ นอกจากนี้ยังมีอาจารย์จากวิทยาลัยฯ ออกไปให้ความรู้กับชาวบ้านในชุมชนต่างๆ ด้วย 

เพิ่งเข้ามารับการอบรม แล้วนำความรู้ที่ได้ไปแก้ปัญหาน้ำในพื้นที่ได้เลยหรือครับ

นายจาตุรงค์ อันดับแรก ผมก็ทำธนาคารน้ำใต้ดินแบบปิดก่อน เพราะทำได้เอง ไม่ต้องลงทุนมาก แล้วก็ลงทุนขุดบ่อใหญ่ในพื้นที่ในเวลาต่อมา บ่อมีขนาด 3 งานครับ ขุดลงไปประมาณ 4-5 เมตร แล้วก็เจาะสะดือตรงกลางบ่อลงไปอีก 3-4 เมตร ก็เจอชั้นหินอุ้มน้ำ ทำให้มีน้ำอยู่ในบ่อทั้งปี ยิ่งช่วงหน้าฝนก็ยิ่งดี
เพราะมีน้ำฝนลงไปเติมให้น้ำเต็มบ่อ แล้วผมก็ทำธนาคารน้ำใต้ดินแบบปิดในพื้นที่อีก 3-4 จุด แต่ในอนาคตอาจจะขุดเพิ่มอีก ธนาคารน้ำใต้ดินแห่งหนึ่งผมทำไว้ใกล้ๆ กับตัวบ้าน เอาไว้เก็บน้ำที่ใช้แล้วให้ไหลลงไปในบ่อใต้ดิน บ่อนี้ช่วยแก้ปัญหาน้ำจากครัวเรือนไหลไปบ้านของเพื่อนบ้านได้เป็นอย่างดี ทำให้ลดปัญหาระหว่างบ้านได้มาก แล้วยังทำให้น้ำที่ใช้แล้วลงไปเก็บกักอยู่ในบ่อใต้ดิน ทำให้บริเวณปากบ่อมีความชุ่มชื้น ปลูกตะไคร้ พริก มะเขือ แตงกวา มะเขือเทศได้ผลดีเลยครับ

เพื่อนๆ ในชุมชนเดียวกับคุณจาตุรงค์เข้ามารับการอบรมหลักสูตรชลกรหลายคนไหมครับ

นายจาตุรงค์ : มาทั้งหมด 18 คนครับ หมายถึงรุ่นเดียวกันกับผมนะครับ แต่ก็มีมาอบรมรุ่นหลังจากผมอีกหลายคนครับ

ใช้ความรู้ที่ได้จากการอบรมไปปรับใช้กับพื้นที่จริงอย่างไรบ้างครับ

นายจตุรงค์ ข้อแรกคือสามารถเข้าใจหลักการบริหารจัดการน้ำในชุมชนได้ดีกว่าเดิม โดยเฉพาะหลักการดูทางน้ำไหล หาที่ให้น้ำอยู่เพื่อเก็บกักน้ำไว้ใช้ในหน้าแล้ง และการดูดน้ำจากบ่อบาดาลมาพักไว้ก่อนในบ่อเล็ก แล้วจากนั้นประมาณ 3-5 วันก็จึงนำไปรดต้นไม้ หากเป็นสมัยก่อนรับการอบรม ก็ใช้การดูดน้ำจากบาดาลแล้วนำไปรดต้นไม้เลย ผลปรากฏว่าต้นไม้ตายไปมาก เพราะน้ำบาดาลมีแร่ธาตุบางอย่างที่ไม่เป็นผลดีต่อต้นไม้บางชนิด เช่น สมัยก่อนดูดน้ำบาดาลขึ้นมาแล้วนำไปรดต้นมะพร้าว ผลปรากฏว่าไม่นาน ต้นมะพร้าวก็ตาย เพราะมีแร่ธาตุบางอย่างทำให้มะพร้าวตาย เมื่อไปรับการอบรม ก็จึงรู้ว่าต้องนำน้ำที่ดูดมาจากบ่อบาดาลไปพักไว้ก่อน เพื่อให้ก๊าซที่มากับน้ำระเหยไปก่อน หรือเพื่อให้น้ำบาดาลปรับสภาพก่อน จึงนำไปรดต้นไม้ เมื่อมีความรู้ด้านบริหารจัดการน้ำมากขึ้น ก็ทำให้ต้นไม้งามขึ้น ผลไม้ออกลูกดกขึ้น เช่น มะม่วงดกมากกว่าเดิม มะพร้าวก็ติดลูกมากกว่าเดิม ผักสวนครัวก็๋มีให้กินทั้งปี ไม่ต้องเสียเงินซื้อหาจากตลาด บางอย่างมีมากจนนำไปขายที่ตลาดได้ด้วย เมื่อมีน้ำทำการเกษตรได้ดี ผมก็ไม่ต้องทิ้งบ้านไปหางานทำในเมืองในช่วงหน้าแล้งขาดน้ำ เพราะตอนนี้มีน้ำใช้ตลอดปี หน้าแล้งก็ไม่แล้งจัดจนขาดน้ำ หน้าฝนก็ไม่มีปัญหาน้ำท่วม ทำนาก็ได้ผลดีขึ้น เมื่อเริ่มเข้าหน้าฝน ผมก็เตรียมทำนำ เพราะมีน้ำฝนช่วยให้ท้องนาอุดมสมบูรณ์ ส่วนน้ำฝนที่มากเกิน ก็ถูกเก็บไว้ในบ่อและธนาคารน้ำใต้ดิน 

จะฝากอะไรถึงคนที่กำลังคิดว่าภาคอีสานมันแห้งแล้ง ทำการเกษตรยาก เพราะฉะนั้นขายที่แล้วไปทำอาชีพอื่นดีกว่า 

นายจตุรงค์ : ผมก็เคยคิดแบบนั้นมาก่อน ในยุคที่ยังแก้ปัญหาน้ำในพื้นที่ไม่ได้ แต่ผมมาคิดใหม่ว่า ไม่มีอะไรที่เราทำไม่ได้ หากเรามีความตั้งใจจริง และมีความรู้ด้านวิชาการเข้ามาเสริม ก่อนจะแก้ปัญหาได้จริง เราต้องศึกษาว่าปัญหาอยู่ตรงไป แล้วแก้ให้ตรงจุด หาความรู้ให้ถ่องแท้ก่อนลงมือทำ แล้วทำให้จริงอย่าท้อถอย หากเจออุปสรรคบางอย่าง หาทางแก้มันไป หากไม่เข้าใจก็ไปปรึกษากับครูอาจารย์ผู้รู้ที่เขาให้คำแนะนำได้ แล้วเราจะประสบความสำเร็จขอเพียงตั้งใจให้แน่วแน่ และทำให้จริง เรามีแหล่งความรู้มากมาย และเราสามารถหาความรู้ได้โดยไม่ต้องเสียเงินด้วย อย่างเช่น การอบรมหลักสูตรชลกรนี้ ก็ให้บริการฟรี เรามีที่มีทางอยู่แล้ว เมื่อเรามีความรู้จริง บริหารจัดการน้ำได้จริง เราก็สามารถทำให้ที่ดินของเราเป็นเงินเป็นทองขึ้นมาได้ แล้วเราก็ไม่ต้องทิ้งบ้านทิ้งเรือนของเราไปทำมาหากินที่อื่นเราทำมาหากินในชุมชนของเราได้ ครอบครัวก็อบอุ่นอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา 

คุณจะได้ชมรายการไลฟ์ วาไรตี รายการดีที่ครบครันด้วยสาระและความรู้ ออกอากาศทุกวันเสาร์ เวลา 14.05-14.30 น. ทางโทรทัศน์ NBT กดหมายเลข 2 และชมรายการย้อนหลังได้ที่ YouTube ไลฟ์ วาไรตี

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  

Breaking News

พลังรักชาติ! หนุ่มตัดผมภาพ 'แม่ทัพภาค2' พ่นสีธงชาติไทย

‘อ.ต่อตระกูล’โพสต์คำถามคาใจเด็กไทย ทำไมต้องการบ้าน รถ ชื่อเสียง ต้องฟังพระที่ไม่มีอะไรเลย

ชาวโคราชจัดหนักบัส 2 คันเคลื่อนพลเข้ากรุงร่วมชุมนุมขับไล่'แพทองธาร'ออกจากนายกฯ

‘รวมพลังแผ่นดิน’พรึ่บอนุสาวรีย์ชัยฯ จับตา‘บิ๊กเนม’ขึ้นชำแหละ‘รัฐบาลอุ๊งอิ๊งค์’

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved