The Swallows
ใน Kunsthaus Zurich มีผลงานของ Modernist ผู้หนึ่งที่เป็นต้นกำเนิดของศิลปะแนวImpressionism อยู่จำนวนมากนั่นคือ EdouardManet เขาเกิดในวันที่ 23 มกราคม 1832ณ กรุงปารีส ในครอบครัวผู้มีอันจะกิน ณ แมนชั่นบนถนน Rue des Petits Augustins กับมารดาEugenie-Desiree Fournier บุตรสาวของข้าราชการที่เป็นแม่บุญธรรมของเจ้าชาย Charles Bernadotte แห่งราชสำนักสวีเดน ส่วนพ่อของเขาก็คือ Auguste Manet ที่มีอาชีพเป็นผู้พิพากษาชาวฝรั่งเศส แม้พ่อของเขาต้องการให้เขาเป็นผู้พิพากษา แต่เขากลับตาม Edmond Fournier ลุงของเขาไปฝึกวาดภาพที่Lourve ในปี 1841 เขาเข้าเรียนชั้นมัธยมที่College Rollin อีก 3 ปีต่อมา เขาได้เข้าเรียนพิเศษทางด้านการวาดกับAntonin Proust ซึ่งต่อมาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศิลปะและได้กลายเป็นเพื่อนของเขาในเวลาต่อมา ในปี 1848 บิดาของเขาแนะนำให้เข้าเรียนเป็นกะลาสีเรือกับเรือที่ไปยัง Rio de Janeiroแต่เขาสอบตกถึง 2 ครั้ง บิดาของเขาจึงยอมแพ้และยอมให้เขาเข้าเรียนศิลปะตามความปรารถนา
เขาเข้าเรียนกับ Thomas Coutureตั้งแต่ปี 1850 ถึง 1856 และฝึกวาดภาพงานรุ่นเก่าที่ Louvre ไปพร้อมกันนอกจากนี้ เขายังเจียดเวลาเดินทางไปยังเยอรมนี อิตาลี และเนเธอร์แลนด์ เพื่อศึกษาผลงานของ Frans Hals, DiegoVelazquez และ Francisco Jose deGoya หลังจากสำเร็จการศึกษา เขาก็เปิดห้องภาพในปี 1856 ฝีแปรงของเขาจะออกแนวหลวมๆ ไม่ค่อยมีรายละเอียดและไม่ค่อยเห็นเส้นตัดที่ชัดเจน นอกจากนี้เขายังเลียนแบบผลงานแนว Realism ของ Gustave Courbet โดยเฉพาะภาพที่เกี่ยวข้องกับขอทาน นักร้อง ยิปซี มาทาดอร์และเรื่องราวเกี่ยวกับศาสนา นิยายปรัมปรา และประวัติศาสตร์ เขาสามารถส่งผลงานเข้าจัดแสดงจนได้รับการยอมรับในระดับประเทศตั้งแต่ปี 1861
A Garden Nook at Bellavue
ผลงานชิ้นแรกของเขาที่เริ่มเป็นที่ฮือฮาก็คือ Music in the Tuileries ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากผลงานของ Hals และ Velazquez แต่ก็เริ่มมีแนวทางพิเศษเป็นของตัวเอง นักวิจารณ์ศิลป์บางคนเห็นว่า ภาพนี้เหมือนงานที่วาดไม่เสร็จแต่หลายคนก็เห็นว่า มันมีความพิเศษแตกต่างจากสวนนี้ที่ศิลปินคนอื่นวาดตรงที่มันดูครึกครื้นราวกับกำลังมีดนตรี หรือได้ยินเสียงสนทนากันเลยทีเดียว ผลงานที่เริ่มสร้างชื่อที่สุดของ Manetก็คือ The Luncheon on the Grass ที่เขาส่งไปจัดแสดงที่ Salon des Refuses ซึ่งเป็น Salonที่จักรพรรดินโปเลียนที่สามเป็นผู้ก่อตั้งเพื่อแก้ปัญหาสถานที่จัดแสดงผลงานที่ไม่ใช่กระแสหลัก เขาจ้าง Victorine Meurent ภรรยาของเขา และน้องเขยเป็นแบบให้กับภาพนี้ ภาพนี้มีความแปลกประหลาดตรงที่มีชายใส่เสื้อผ้าคู่กับหญิงไม่ใส่เสื้อผ้าอยู่ในฉากเดียวกันในสวนซึ่งกลายเป็นของแปลกใหม่ที่แยกตัวเขาออกจาก Courbet ยิ่งกว่านั้น แนวทางในการสร้างสรรค์งานยังแตกต่างจากกระแสหลักตรงที่ไม่เน้นความเรียบร้อย แต่เน้นอารมณ์และแสงซึ่งถือเป็นภาพแนว Impressionism แรกๆ
หลังบิดาเสียชีวิตในปี 1862 เขาได้แต่งงานกับ Suzanne Leenhoff ครูสาวชาวดัทช์ ที่อายุมากกว่า 2 ปี และรู้จักกันมากว่า 10 ปี ที่โบสถ์โปแตสแตนท์ แม้ว่าเธอจะเคยเป็นชู้รักของบิดาและครูสอนเปียโนของน้องชายเขาเองก็ตาม ในช่วงเวลานั้น Manet ได้รู้จักและเป็นเพื่อนกับกลุ่มศิลปินแนว Impressionism หลายคน อาทิ Edgar Degas, Claude Monet, Pierre-Auguste Renoir, Alfred Sisley, Paul Cézanne,และ Camille Pissarro เขาเป็นคนโชคร้าย เพราะสุขภาพเขาย่ำแย่ลงอย่างรวดเร็วและเกิดอาการเจ็บปวดอย่างรุนแรงร่วมกับอัมพฤกษ์ที่ขาตั้งแต่อายุ 40 กว่าปีเท่านั้น แม้เขาจะได้รับการรักษาแบบ hydrotherapy แต่เขาก็ยังต้องทนทุกข์ทรมานจากการขาดความสามารถในการทรงตัวจากผลข้างเคียงของซิฟิลิส นับจากเริ่มป่วย เขาหันมาสร้างสรรค์งานชิ้นเล็กลง และเน้นไปที่ภาพเหมือนพวกผักผลไม้ ในเดือนเมษายน 1883 เขาถูกตัดเท้าซ้ายอันเป็นผลจากทั้งซิฟิลิสและรูมาติสซั่ม และเสียชีวิตในอีก 10 วันต่อมาด้วยอายุเพียงแค่ 51 ปี
นักท่องเที่ยวจะเห็นว่าแม้ที่นี่จะไม่มีภาพ Music in the Tuileries และ The Luncheon on the Grass อันถือเป็นผลงานไฮไลท์ของ Manet แต่ผลงานของ Manet ที่จัดแสดงใน Kunsthaus Zurich ทั้งหมดก็มีการใช้สีอ่อน ไม่เน้นความคมชัดของขอบ มีฝีแปรงที่ชัดเจน เน้นอารมณ์และแสงซึ่งเป็นแนวทางศิลปะแบบImpressionism ทั้งนั้นแม้เขาจะปฏิเสธว่าเขาไม่ใช่กลุ่ม Impressionist ก็ตาม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี