วันอาทิตย์ ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2568
โรคหัวใจ หนึ่งในโรคยอดฮิตที่เรามักคิดว่าจะเกิดในผู้สูงอายุเท่านั้น แต่ใครจะรู้ว่าวันนี้คนไทยอายุประมาณ 30 ปี ก็เริ่มป่วยด้วยโรคหัวใจกันแล้ว ซึ่งนอกจากปัจจัยภายในอย่างกรรมพันธุ์และความผิดปกติแต่กำเนิด ปัจจัยภายนอกก็ร้ายไม่แพ้กัน และทำให้คนหนุ่มสาวก็ต้องเริ่มระวังโรคหัวใจกันแล้ว ขณะที่สถานการณ์โรคหัวใจในประเทศไทยเริ่มน่าเป็นห่วงมากขึ้น ข้อมูลสถิติของโรงพยาบาลวิมุต ชี้ว่าโรคหัวใจเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตอันดับ 1 ของคนไทยในทุกปี เฉลี่ยประมาณปีละกว่า 70,000 ราย คิดง่ายๆ คือ ชั่วโมงละเกือบ 7 รายเลยทีเดียว
.jpg)
นพ.ศรัณย์พงศ์ ภิบาลญาติ อายุรแพทย์ผู้ชำนาญการโรคหัวใจ ศูนย์หัวใจและหลอดเลือดโรงพยาบาลวิมุต ให้ข้อมูลว่า เราสามารถแบ่งโรคหัวใจได้หลายแบบขึ้นกับว่าจะพิจารณาในแง่พยาธิสภาพ การทำงานที่ผิดปกติ หรือตามชนิด โดยชนิดที่เจอบ่อยๆ ได้แก่ โรคหัวใจล้มเหลว โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด และโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะที่เกี่ยวข้องกับทางพันธุกรรม (กรรมพันธุ์) โรคลิ้นหัวใจตีบหรือตันโรคหลอดเลือดแดง ฯลฯ ซึ่งจะเห็นได้ว่าโรคหัวใจมีหลายชนิดและยากที่จะจำแนกให้คนทั่วไปเข้าใจได้ทางที่ดีคือให้แพทย์เฉพาะทางทำการตรวจวินิจฉัยเพื่อการระบุโรคได้อย่างถูกต้อง
“ผู้ป่วยที่มารับการบริการคลินิกโรคหัวใจ ที่โรงพยาบาลวิมุต อยู่ในช่วงอายุ 30-65 ปี ส่วนใหญ่ที่ตรวจพบมักเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจตีบเรื้อรังและโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ รวมถึงโรคความดันโลหิตสูง รองลงมาเป็นโรคหัวใจล้มเหลวเรื้อรังและโรคลิ้นหัวใจตีบหรือรั่วรุนแรง เนื่องจากความซับซ้อนของโรคหัวใจที่กล่าวไปข้างต้น เราจึงควรหมั่นสังเกตตัวเองอยู่เสมอ เช่น ถ้ามีอาการใจสั่นใจเต้นเร็วหรือสะดุด จนเหมือนจะวูบหรือเป็นลม หรือมีอาการเจ็บหน้าอก ก็ควรรีบมาตรวจโดยเร็ว สำหรับคนที่ใส่ Smart watch แล้วพบว่าหัวใจเต้นเร็วกว่า 120 ครั้งต่อนาที แม้ในตอนที่อยู่เฉยๆ ไม่ได้ออกกำลังกายก็ถือว่ามีความผิดปกติและต้องรีบมาพบแพทย์เช่นกัน
.jpg)
ด้าน นพ.ราชรัฐ ปวีณพงศ์ อายุรแพทย์ผู้ชำนาญการโรคหัวใจ ศูนย์หัวใจและหลอดเลือดโรงพยาบาลวิมุต กล่าวเสริมว่าเครียดง่ายนั้นเสี่ยงโรคหัวใจ เพราะข้อมูลงานวิจัยชี้ว่า ผู้ที่มีความเครียดมีโอกาสเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด ไม่ว่าจะเป็นทางตรงจากภาวะความดันโลหิตสูงจนเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ หรือในทางอ้อมคือจากการเกิดโรคอ้วนและการนอนหลับผิดปกติ ซึ่งอาจส่งผลต่อโรคหัวใจ โดยเฉพาะโรคหัวใจชนิด Broken heart Syndrome (Takotsubo Cardiomyopathy) ซึ่งสัมพันธ์กับความเครียดโดยตรง เชื่อว่าเกิดจากฮอร์โมน Catecholamineที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้การบีบตัวของหัวใจแย่ลง ต้องรักษาโดยการใช้ยาร่วมกับการแก้ไขสาเหตุที่ทำให้เกิดความเครียดนั้น
“สำหรับคนที่เกิดอาการวูบหรือหน้ามืดบ่อยๆ นั้น มีหลายสาเหตุด้วยกัน แต่สาเหตุที่สำคัญและอันตราย ได้แก่ โรคหัวใจและโรคสมอง โดยอาการวูบจากโรคหัวใจ ได้แก่ โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ โรคหลอดเลือดหัวใจตีบเฉียบพลัน ฯลฯ ผู้ป่วยมักมีอาการแน่นหน้าอก หายใจหอบเหนื่อย หรือหัวใจเต้นเร็วก่อนเกิดอาการวูบส่วนอาการวูบจากโรคสมอง ผู้ป่วยอาจมีอาการปวดศีรษะรุนแรงแขนขาอ่อนแรง ปากเบี้ยว พูดไม่ชัดอาเจียน ชักเกร็ง อาจมีปัสสาวะหรืออุจจาระราดร่วมด้วย ทั้งนี้ วิธีปฐมพยาบาลคนมีอาการวูบ หากผู้ป่วยสามารถตอบสนองได้ ให้นอนราบยกขาสูง คลายเสื้อผ้าและเข็มขัดให้หลวม ใช้ยาดมหรือพัดช่วย แต่ถ้าผู้ป่วยไม่ตอบสนองหรือไม่หายใจ ให้รีบทำการปั๊มหัวใจ (CPR) และขอความช่วยเหลือโทร.1669 ทันที
ผู้ที่สงสัยว่าตัวเองอาจมีภาวะโรคหัวใจหรืออาการต่างๆ ที่สัมพันธ์กับโรค สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์หัวใจและหลอดเลือด โรงพยาบาลวิมุตโทร.02-0790042 เวลา 08.00-20.00 น. ทุกวัน หรือที่ www.vimut.com เฟซบุ๊ก : www.facebook.com/vimuthospital อินสตาแกรม : vimut_hospital ไลน์ : @vimuthospital
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี