วันศุกร์ ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ผู้หญิง
ไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย ตัวการร้าย ทำลายทุกระบบของร่างกาย

ไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย ตัวการร้าย ทำลายทุกระบบของร่างกาย

วันอังคาร ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2566, 07.30 น.
Tag : ไตวาย ไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย ร่างกาย
  •  

โรคไตวายเรื้อรังระยะแรกถึงปานกลาง ผู้ป่วยมักไม่มีอาการหรือมีอาการแค่เล็กน้อย ซึ่งการจะทราบได้ว่าเป็นโรคไตวายเรื้อรังก็ต่อเมื่อเข้ารับการตรวจเลือดหรือปัสสาวะเท่านั้น หากผู้ป่วยโรคไตวายไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสมและทันเวลา ไตก็จะทำงานเสื่อมลงอย่างต่อเนื่อง จนท้ายที่สุดจะเข้าสู่ภาวะที่เรียกว่าไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย

แพทย์หญิงอำไพวรรณ รุ่งบรรณพันธุ์ อายุรแพทย์โรคไตโรงพยาบาลเวชธานี กล่าวว่า โรคไตวายเรื้อรัง คือการที่เนื้อไตถูกทำลายอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานหลายเดือนหรือเป็นปี ในระยะแรกผู้ป่วยจะไม่แสดงอาการผิดปกติใดๆ ซึ่งเมื่อมาตรวจร่างกายก็อาจไม่พบความผิดปกติ เว้นแต่มีการตรวจเลือด หรือตรวจปัสสาวะ พบความผิดปกติ เช่น ปัสสาวะมีเม็ดเลือดแดงและโปรตีนไข่ขาวปนออกมา จึงจะทราบได้ว่าเป็นโรคไตวายเรื้องรัง


เมื่อการทำงานของไตเหลือเพียง 30% มักจะเริ่มมีอาการแสดงของโรคไตออกมาให้เห็น ระยะต่อมาผู้ป่วยจะถูกวินิจฉัยว่าเป็น “ไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย” ก็ต่อเมื่อมีการทำงานของไตน้อยกว่า 15% ในภาวะนี้การทำงานของร่างกายหลายระบบจะเริ่มเสื่อมลงอย่างเห็นได้ชัด ได้แก่ 1.ระบบทางเดินอาหาร ผู้ป่วยจะเริ่มเบื่ออาหาร คลื่นไส้อาเจียน ไม่สามารถรับรสชาติอาหารได้ระบบทางเดินหายใจและหัวใจ เมื่อร่างกายไม่สามารถขับของเสียออกได้ จะทำให้หัวใจทำงานหนัก เหนื่อยง่าย หายใจลำบาก ความดันโลหิตสูง หัวใจโตกล้ามเนื้อหัวใจเสื่อมสภาพ และอาจเกิดน้ำคั่งในเยื่อหุ้มหัวใจ น้ำคั่งในปอดปวดบวม และไอเป็นเลือดได้

2.ระบบประสาทและสมองผู้ป่วยจะมีอาการกล้ามเนื้อกระตุก เป็นตะคริว กล้ามเนื้ออ่อนแรง สมองเสื่อม หากไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสมอาจทำให้เกิดอาการชัก หมดสติ หรือเสียชีวิตได้ 3.ระบบทางเดินปัสสาวะ เมื่อไตทำงานได้น้อยลง การขับของเสียรวมทั้งเกลือแร่และน้ำก็ทำได้น้อย ทำให้มีปัสสาวะออกน้อย ขาบวม ตัวบวม และมีระดับเกลือแร่ในเลือดแปรปรวน 4.ระบบโลหิตและภูมิคุ้มกันร่างกาย ฮอร์โมนที่จะกระตุ้นให้ไขกระดูกสร้างเม็ดเลือดแดงผลิตจากไต เมื่อไตวายจึงผลิตได้น้อยลง ผู้ป่วยจึงมีอาการซีดจากภาวะโลหิตจาง รวมทั้งมีการทำงานของเกล็ดเลือดผิดปกติ เลือดจึงออกง่ายและมักมีภาวะภูมิต้านทานต่ำ จึงติดเชื้อได้ง่าย 5.ระบบกระดูก ผู้ป่วยมีภาวะแคลเซียมในเลือดต่ำ เกิดภาวะกระดูกพรุนแตกหักง่าย ในผู้ป่วยเด็กจะหยุดการเจริญเติบโตและตัวแคระแกร็น 6.ระบบฮอร์โมนอื่นๆ ผู้ป่วยไตวายมักมีการทำงานของฮอร์โมนผิดปกติเกือบทุกชนิด เช่น ฮอร์โมนจากต่อมใต้สมอง ต่อมไทรอยด์ ต่อมพาราไทรอยด์ ต่อมหมวกไต และฮอร์โมนจากรังไข่

การรักษาโรคไตวายเรื้อรังระยะสุดท้ายที่ให้ผลได้ดีมีประสิทธิภาพสูงสุดในปัจจุบันคือ “การปลูกถ่ายไต” “เป็นการผ่าตัดนำไตของผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นการบริจาคจากผู้บริจาคสมองตายหรือผู้บริจาคที่มีชีวิต มาทำหน้าที่แทนไตเดิมของผู้ป่วย โดยวางไตใหม่ไว้ในอุ้งเชิงกรานแล้วต่อเข้ากับกระเพาะปัสสาวะและหลอดเลือดของผู้ป่วย ถ้าการผ่าตัดประสบความสำเร็จ ผู้ป่วยจะไม่ต้องบำบัดด้วยการฟอกไตอีกต่อไป แต่จำเป็นต้องรับประทานยากดภูมิไปตลอดชีวิตเพื่อป้องกันร่างกายต่อต้านไตใหม่ หรือที่เรียกว่าภาวะสลัดไต โดยวิธีนี้เหมาะกับผู้ป่วยที่ร่างกายแข็งแรง ไม่มีความเสี่ยงสูงต่อภาวะติดเชื้อและไม่มีโรคหัวใจรุนแรง”

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ‘แมกนีเซียม’ ตัวช่วยเสริมความแกร่งให้ร่างกาย ประโยชน์ดีๆ ที่ควรรู้ ‘แมกนีเซียม’ ตัวช่วยเสริมความแกร่งให้ร่างกาย ประโยชน์ดีๆ ที่ควรรู้
  •  

Breaking News

เศร้า! ช้างป่ากุยบุรีขาเจ็บล้มแล้ว สะเทือนใจผลชันสูตร

ศรีสะเกษดัน 'ส้มโอบ้านตาด' เป็นแหล่งท่องเที่ยวชุมชน จัดงานใหญ่ 14-16 พ.ค.

ประเดิมคนแรก! 'กกต.-ดีเอสไอ'แปะหมายหน้าประตูห้อง'สว.อลงกต'

ชาวนาบุรีรัมย์ถือฤกษ์ดี ‘วันพืชมงคล’ เริ่มไถนาเพาะปลูกข้าว-เชื่อผลผลิตเจริญงอกงามดี

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved