ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ
โรคมะเร็งปากมดลูก พบมากเป็นอันดับ 5 ของโรคมะเร็งในผู้หญิงไทยมีข้อมูลจากสถาบันมะเร็งแห่งชาติ ระบุว่ามะเร็งปากมดลูกเป็นมะเร็งที่ป้องกันได้ถึงร้อยละ 80 หากได้รับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยการตรวจหาเชื้อ HPV อย่างสม่ำเสมอ ทั้งนี้ ปัจจุบันสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ได้บรรจุการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยวิธี HPV DNA และ HPV DNA Self-Sampling แบบเก็บตัวอย่างด้วยตนเอง เป็นสิทธิประโยชน์ด้านสุขภาพ เพื่อลดจำนวนผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูก ทั้งยังเพื่อแก้ปัญหาความเขินอาย และกังวลใจในการขึ้นขาหยั่งให้สตรีที่มีอายุ 30-59 ปี สามารถรับสิทธิ์ได้ฟรีผ่านแอปพลิเคชั่น เป๋าตัง อย่างไรก็ตาม ยังมีสตรีจำนวนมากที่เมื่อตรวจพบเชื้อ HPV สายพันธุ์เสี่ยงสูง ซึ่งเป็นสาเหตุของของโรคมะเร็งปากมดลูกถึง 70% แล้ว กลับไม่เข้ารับการตรวจเพิ่มเติมเพื่อดำเนินการรักษาก่อนที่เชื้อจะพัฒนาไปเป็นมะเร็ง
บริษัท โรช ไดแอกโนสติกส์ (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะผู้พัฒนาเครื่องมือตรวจวินิจฉัยทางการแพทย์ มีพันธกิจในการกำจัดมะเร็งปากมดลูกให้เป็นศูนย์ เล็งเห็นถึงความสำคัญในเรื่องดังกล่าวเป็นอย่างดี เชิญ ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) นพ.โอฬาริก มุสิกวงศ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญสูติศาสตร์ นรีเวชวิทยา สำนักส่งเสริมสุขภาพ กรมอนามัย และโฆษกรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข และ พิเชษฐพงษ์ ศรีสุวรรณกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โรช ไดแอกโนสติกส์ (ประเทศไทย) จำกัด มาให้ข้อมูลการรณรงค์ให้สตรีตระหนักถึงความสำคัญของการตรวจคัดกรองฯ ตลอดจนมีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องต่อโรคมะเร็งปากมดลูก พร้อมทั้งให้คำแนะนำในการปฏิบัติตัวหากตรวจพบเชื้อ HPV ตลอดจนอัปเดตสิทธิประโยชน์ในเรื่องดังกล่าวสำหรับประชาชนกลุ่มเสี่ยง
ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า สปสช. มีนโยบายเรื่องการส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรค ไม่ใช่การรักษา แต่เป็นการทําให้ร่างกายแข็งแรง เพื่อไม่ให้เป็นโรค เช่น การฉีดวัคซีน การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก ซึ่งคือหนึ่งในกระบวนการป้องกันได้อย่างหนึ่ง เพราะพิสูจน์มาแล้วว่า มะเร็งปากมดลูกตรวจได้ง่าย เมื่อตรวจแล้วพบความผิดปกติ จะมีหลายระดับ ระยะศูนย์ หนึ่ง สอง สาม สี่ ดังนั้น หากเข้าสู่การรักษาได้ในระยะเริ่มต้น สามารถหายขาดได้ ขณะนี้ การคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเป็นสิทธิ์หลักประกันสุขภาพแห่งชาติของสตรีไทยอายุ 30-59 ปี สามารถขอรับชุดตรวจมะเร็งปากมดลูกด้วยตนเองได้ที่โรงพยาบาลของรัฐที่เข้าร่วมโครงการ และเพื่อเพิ่มความสะดวกให้ขอรับชุดตรวจได้ง่ายขึ้น ขณะนี้ สปสช.ได้นำร่องที่เขตสุขภาพที่ 7 ใน 4 จังหวัด คือ กาฬสินธุ์ ขอนแก่น มหาสารคาม และร้อยเอ็ด โดยเพิ่ม ร้านยาและคลินิกพยาบาล จำนวน 119 แห่ง ให้เป็นจุดที่กลุ่มเป้าหมายขอรับชุดตรวจได้ผ่านแอปพลิเคชั่นเป๋าตัง
“ในแอปพลิเคชั่นเป๋าตัง “กระเป๋าสุขภาพ” จะมีการส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรคของผู้หญิงอยู่ 22 รายการ สำหรับสิทธิประโยชน์คัดกรองมะเร็งปากมดลูก ปีนี้ เราตั้งเป้าหมายไว้ 1.2 ล้านราย ขณะนี้ดำเนินการไปแล้ว 7 แสนราย หรือร้อยละ 56.8 จึงอยากเชิญชวนให้สตรีกลุ่มเสี่ยงมาใช้สิทธิ์ เพื่อหลีกเลี่ยงการเป็นมะเร็งปากมดลูก เพราะหากเจอระยะต้นๆ รักษาหายได้แน่นอน และหากผลออกมาเป็นลบ แปลว่า ท่านปกติ อีก 5 ปีค่อยกลับมาตรวจใหม่
ในอดีต เวลาไปคัดกรองมะเร็งปากมดลูก แพทย์จะทำการตรวจแบบแปปสเมียร์ ต้องไปขึ้นขาหยั่ง เพื่อปาดเอาเซลล์ปากมดลูกออกมา แล้วนำมาตรวจในห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ หากพบว่าผิดปกติ ก็เข้าสู่การรักษา ส่วนมากจะเจอเมื่อเซลล์ผิดปกติแล้ว ซึ่งแปลว่าอาจเป็นมะเร็งแล้ว แต่ในปัจจุบัน มีการตรวจแบบเอชพีวี ดีเอ็นเอ คือดูเซลล์ดีเอ็นเอของเชื้อ ซึ่งละเอียดมากขึ้น จะสามารถพบเชื้อ HPV ได้ตั้งแต่เนิ่นๆ แต่วิธีเก็บตัวอย่างยังเหมือนเดิม คือให้คุณหมอเก็บให้ ซึ่งทั้ง 2 วิธี ไม่ว่าจะเป็นการตรวจแบบดั้งเดิมที่เป็นแบบแปปสเมียร์ หรือแบบเอชพีวีดีเอ็นเอ หรือแม้กระทั่ง HPV DNA Self-Sampling หรือการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก แบบเก็บตัวอย่างด้วยตนเอง ล้วนอยู่ในสิทธิประโยชน์เหมือนกัน ดังนั้น ปัญหาประชาชนกังวลในการไปตรวจ แล้วกลัวจะต้องเสียค่าใช้จ่ายก็หมดไป
ปัจจุบันมีนวัตกรรม มีเทคโนโลยีใหม่เกิดขึ้น มีการพัฒนาการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกแบบเก็บตัวอย่างด้วยตนเอง HPV DNA Self-Sampling สปสช. จึงได้บรรจุสิทธิประโยชน์นี้เข้าไปด้วย ไม่มีค่าใช้จ่ายเช่นกัน ซึ่งมีการนำร่องแล้วที่เขตสุขภาพที่เจ็ด (ขอนแก่น ศรีสะเกษ ร้อยเอ็ด และมหาสารคาม) เป็นการตรวจแบบ HPV DNA แต่แทนที่จะมาให้แพทย์เก็บตัวอย่างให้ผู้หญิงก็เก็บเองได้เลย เราจะให้ประชาชนไปรับชุดเก็บตัวอย่างด้วยตนเอง ได้ที่โรงพยาบาลใกล้บ้านก็ได้ รพ.สต. ก็ได้ เราเพิ่มมาอีก ไปรับที่ร้านยาก็ได้ ร้านยาที่เป็นเอกชนที่เข้าร่วม ขณะนี้มีอยู่ทั่วประเทศกว่าพันแห่ง เก็บออกมาเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ส่งให้กับหน่วยตรวจ ซึ่งก็อาจจะเป็นโรงพยาบาล ไปเข้าห้องปฏิบัติการตรวจแล้วรอฟังผลผ่านแอปพลิเคชั่นเป๋าตัง หากผลตรวจแล้วผลเป็นลบ แปลว่า สามารถเว้นระยะการตรวจไปได้ 5 ปี ค่อยมาตรวจใหม่ได้ แต่ถ้าผลเป็นบวกต้องดูว่าเชื้อ HPV เป็นสายพันธุ์ไหนสายพันธุ์เสี่ยงสูงหรือไม่ หากเป็นสายพันธุ์ 16 และ 18 อันนี้ก็คือ สายพันธุ์เสี่ยงสูง ต้องให้คุณหมอตรวจเพิ่มเติม สำคัญมาก เพราะรักษาไวหายได้แน่นอน แต่ถ้าไม่ใช่สายพันธุ์ 16 กับ 18 ก็จะเป็นการตรวจเซลล์โดยการขึ้นขาหยั่งทั่วไปธรรมดา ทำการป้ายเซลล์ ส่วนผลออกมาเป็นอย่างไร ก็ขึ้นอยู่กับว่าเป็นมากเป็นน้อย การรักษาขึ้นอยู่กับผลนั้นๆ อันนี้ก็จะเป็นแนวทางปฏิบัติทั่วไป”
นพ.โอฬาริก มุสิกวงศ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญสูติศาสตร์ นรีเวชวิทยา สำนักส่งเสริมสุขภาพ กรมอนามัย และโฆษกรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า “ทุกวันนี้ตรวจพบผู้หญิงที่เป็นมะเร็งปากมดลูก 25 รายต่อวัน ที่สําคัญมะเร็งปากมดลูก เป็นมะเร็งที่รักษาค่อนข้างยากหากเป็นแล้ว จะแบ่งเป็น 4 ระยะใหญ่ๆ ตั้งแต่ได้รับเชื้อเอชพีวีจนไปถึงเป็นมะเร็ง ใช้เวลาเป็นสิบปี ดังนั้น การที่เราได้ตรวจคัดกรอง ทำให้รู้ก่อน รู้เร็ว รักษาได้ไวขึ้นมีการพยากรณ์โรคที่ดีมาก บางคนก็อยู่เป็นสิบปีก็ได้ แต่หากสมมุติมาระยะที่มีเลือดออกแล้ว มีก้อนที่ปากมดลูกแล้ว กลุ่มนี้จะรักษายาก ดังนั้น อยากให้ตรวจพบเชื้อตั้งแต่เนิ่นๆ ปัจจุบันการตรวจเราพัฒนาขึ้นมาก มาดูระดับดีเอ็นเอของเชื้อเป็นวิธี HPV DNA Test ซึ่งมีทั้งแบบให้แพทย์เก็บตัวอย่างให้ หรือจะเก็บตัวอย่างเองก็ได้ด้วย HPV DNA Self-Sampling เพราะบางคนก็อายหมอ ไม่อยากขึ้นขาหยั่ง แต่ปัญหาหลักๆ คือหลายคนไม่อยากขึ้นขาหยั่ง อายหมอ และไม่มีอาการผิดปกติอะไรจึงไม่คิดจะมาตรวจ หลายคนรอจนมีอาการแล้วค่อยมาพบแพทย์ ซึ่งเมื่อมาพบแพทย์ในตอนนั้นก็มักจะช้าเกินไป จึงอยากรณรงค์ให้ผู้หญิงอย่าละเลยการเข้ารับการตรวจคัดกรองฯ เพราะเชื้อ HPVยิ่งตรวจพบไวยิ่งดีจะได้ทำการรักษาก่อนเชื้อพัฒนาไปเป็นมะเร็ง”
นายพิเชษฐพงษ์ ศรีสุวรรณกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โรช ไดแอกโนสติกส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่าหลายประเทศทั่วโลก หรือเกือบทุกประเทศที่มีศักยภาพจะไม่อยากให้ผู้หญิงต้องมาเสียชีวิตจากโรคมะเร็งปากมดลูกเลยหากเป็นไปได้ ประเทศไทยเองก็เป็นหนึ่งในนั้น โดยเฉพาะประเทศไทย ถือว่าเป็นประเทศที่โชคดีที่มีสิทธิประโยชน์จากทาง สปสช. ในส่วนของภาคเอกชน อย่าง โรช ไดแอกโนสติกส์ ประเทศไทย ก็พยายามที่จะเป็นส่วนหนึ่งของจิ๊กซอว์นี้เพื่อจะทําให้บรรลุเป้าหมายให้ได้ การตรวจคัดกรองด้วยวิธีเอชพีวี เป้าหมาย 1.2 ล้านราย ภายในหนึ่งปี โดยการตรวจในห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ด้วยการทําพีซีอาร์ 1.2 ล้านราย ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะว่าการตรวจพีซีอาร์ไม่เหมือนการตรวจแบบทั่วไป ดังนั้นสิ่งที่สําคัญที่สุดก็คือ เทคโนโลยี ซึ่ง โรช ไดแอกโนสติกส์ จะมาช่วยในส่วนนี้โดยเรามีนวัตกรรมเครื่องมือให้ห้องปฏิบัติการทางการแพทย์แบบออโตเมชั่น (automation) ในห้องแล็บ ช่วยลดภาระและปริมาณงานของเจ้าหน้าที่ในห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ได้มาก นอกจากเรื่องเทคโนโลยีแล้ว โรชเองก็พยายามที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการที่จะประสานแล้วก็ช่วยในการประชาสัมพันธ์ทําสื่อต่างๆ เพื่อที่จะให้ความรู้ประชาชน ให้เกิดการรับรู้ถึงคุณประโยชน์ของการตรวจคัดกรองฯ ซึ่งช่วยชีวิตผู้หญิงให้ไม่ต้องเสียชีวิตจากโรคนี้”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี