พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายกมูลนิธิฯ ประธานกรรมการบริหารมูลนิธิฯ พร้อมด้วยคณะกรรมการบริหารมูลนิธิฯ และผู้ที่เกี่ยวข้อง เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี เสด็จลง ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดาพระราชวังดุสิต พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้นายกมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ประธานกรรมการบริหารมูลนิธิฯ พร้อมด้วยคณะกรรมการบริหารมูลนิธิฯ และผู้ที่เกี่ยวข้อง เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท เนื่องในโอกาสครบ 60 ปี วันพระราชทานกำเนิด มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2566 เวลา 18.37 น.
เมื่อเสด็จพระราชดำเนินถึง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ พลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี นายกมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท กราบบังคมทูลรายงานการดำเนินงานของมูลนิธิฯ และทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเข็มเครื่องหมายมูลนิธิฯ เหรียญทองคำที่ระลึกฯ และหนังสือที่ระลึกครบ ๖๐ ปี วันพระราชทานกำเนิดมูลนิธิฯ แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กับพระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้พลเรือเอก พงษ์เทพ หนูเทพ องคมนตรี ประธานกรรมการบริหาร มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเข็มเครื่องหมายมูลนิธิฯ เหรียญทองคำที่ระลึกฯ และหนังสือที่ระลึกครบ 60 ปีวันพระราชทานกำเนิดมูลนิธิฯ แด่สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี
จากนั้น พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้พลอากาศโท ภักดี แสง-ชูโต เลขาธิการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท กราบบังคมทูลเบิกคณะกรรมการบริหารมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯผู้ว่าราชการจังหวัด ในฐานะประธานกรรมการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ประจำจังหวัด และเจ้าหน้าที่มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ ที่ปฏิบัติงานเกิน 10 ปี เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท รับพระราชทานเข็มตราเครื่องหมายมูลนิธิฯ ต่อจากนั้นเบิกผู้มีอุปการคุณที่ให้การสนับสนุนมูลนิธิฯ และผู้แทนมหาวิทยาลัยที่ให้การสนับสนุนทุนการศึกษา เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท รับพระราชทานโล่เชิดชูเกียรติ ในโอกาสนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระบรมราโชวาท เพื่อความเป็นสิริมงคล แก่คณะผู้เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทด้วย
ในวันเดียวกัน เวลา 09.09 น. พลากร สุวรรณรัฐองคมนตรี นายกมูลนิธิฯ เป็นประธานในพิธีบำเพ็ญกุศลเนื่องในโอกาส “วันพระราชทานกำเนิด มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ครบ 60 ปี” พร้อมพิธีมอบเกียรติบัตรและเงินรางวัลพระราชทานแก่นักเรียนทุนพระราชทานฯ ที่สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี เกียรตินิยมอันดับ 1 และเกียรตินิยมอันดับ 2และมอบทุนพระราชทานเพื่อการศึกษาสงเคราะห์แก่นักเรียนทุนพระราชทาน
มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ฯได้ก่อกำเนิดขึ้นและจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายเมื่อวันที่ ๒๓ สิงหาคม ๒๕๐๖ ด้วยพระมหากรุณาธิคุณของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ทรงมีต่อพสกนิกรของพระองค์ โดยได้ทรงมีพระราชดำริว่าภัยธรรมชาติหรือสาธารณภัยอาจเกิดขึ้นเมื่อใดก็ได้ ไม่มีผู้ใดจะคาดหมายได้ดังที่ได้เกิดขึ้นที่แหลมตะลุมพุก จังหวัดนครศรีธรรมราช และอีกหลายจังหวัดในภาคใต้ เมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๕ จึงพระราชทานเงินสามล้านบาทซึ่งเหลือจากเงินบริจาคโดยเสด็จพระราชกุศลเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเหตุการณ์ดังกล่าว ให้เป็นทุนประเดิมก่อตั้งมูลนิธิ และพระราชทานนามว่า “มูลนิธิราชประชานุเคราะห์” และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้อยู่ใน “พระบรมราชูปถัมภ์” กับทรงดำรงตำแหน่งพระบรมราชูปถัมภกแห่งมูลนิธินี้ด้วย ชื่อของมูลนิธิหมายความว่า “พระราชา และ ประชาชน อนุเคราะห์ซึ่งกันและกัน” เป็นการแสดงน้ำพระทัยว่า เวลาทำงานควรจะให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมด้วย
ต่อมาเมื่อปี 2560 พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงรับมูลนิธิไว้ในพระราชูปถัมภ์ และทรงดำรงตำแหน่ง “องค์พระราชูปถัมภก” แห่งมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ทรงมีพระราชประสงค์ที่จะสืบสาน รักษา และต่อยอด พระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในการช่วยเหลือผู้ประสบภัย ทรงห่วงใยทุกข์ยากของราษฎรเป็นอันดับแรก ได้พระราชทานแนวทางในการปฏิบัติเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยให้เป็นระบบ รวดเร็ว และไม่ซ้ำซ้อน โดยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ องคมนตรี ผู้แทนพระองค์ ร่วมกับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ นำสิ่งของพระราชทานเครื่องอุปโภค-บริโภค มอบแก่ราษฎรผู้ประสบภัย อีกทั้งได้รับการสนับสนุนความร่วมมือจากส่วนราชการต่างๆ ให้สามารถเข้าไปช่วยเหลือประชาชนอย่างเข้าถึง และทรงห่วงใยผู้เสียชีวิตจากภัยพิบัติ โดยพระราชทานทุนการศึกษา เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ และเยียวยาผู้ได้รับความสูญเสีย นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้
สำหรับในปี 2566 มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ ได้ดำเนินงานสนองพระราชดำริครบ 60 ปี โดยสามารถช่วยเหลือครอบครัวผู้ประสบภัยต่างๆ ไปแล้วกว่า 5,167,673 ครอบครัว และช่วยเหลือประชาชนกว่า 18,651,720 คน ในด้านการศึกษา ทรงรับโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ จำนวน 9 แห่งในพื้นที่จังหวัดต่างๆ เป็นโรงเรียนราชประชานุเคราะห์เพิ่มเติม ทรงให้การสนับสนุนกิจการโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ทั้ง 67 โรงเรียน พระราชทานโอกาสทางการศึกษาสูงสุดตามความสามารถของนักเรียน โดยไม่มีข้อผูกมัดแก่เด็กกำพร้าที่สูญเสียบิดาและมารดา หรือขาดผู้อุปการะจากสาธารณภัย รวมถึงจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยทรงรับเป็นนักเรียนทุนพระราชทานเพื่อการศึกษาสงเคราะห์ ปัจจุบันมีจำนวนนักเรียนกว่า 4,787 คน
เนื่องในโอกาสครบ 60 ปี วันพระราชทานกำเนิด มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้จัดทำเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกโลหะสีขาว (ทองแดงผสมนิกเกิล) ชนิดราคา 20 บาท ด้านหน้าเหรียญมีพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้านหลังมีตราสัญลักษณ์มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ พร้อมข้อความแสดงการครบ ๖๐ ปี และมูลค่าของเหรียญ จำนวน 1,000,000 เหรียญเพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่พระราชทานกำเนิดมูลนิธิ และเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว องค์พระบรมราชูปถัมภก เพื่อให้ผู้ที่สนใจสามารถแลกเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกดังกล่าว ได้ที่ กรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี