(ซ้าย) เดวิด โครูนิช
FWD ประกันชีวิต สนับสนุนโครงการธนาคารต้นกล้า ร่วมพัฒนาปรับปรุงยกระดับคุณภาพชาอัสสัมชุมชนละหู่ ดอยปู่หมื่น อำเภอแม่อายจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเป็นชุมชนต้นแบบแห่งความยั่งยืน หลังจากทำงานร่วมกันกับชาวลาหู่มานานกว่า ٣ ปี มุ่งหวังนำสิ่งที่ได้เรียนรู้จากโครงการพัฒนาชุมชนลาหู่เป็นโมเดลต้นแบบในการพัฒนาชุมชนอื่นๆ ต่อไป
ดอยปู่หมื่น นับว่าเป็นดอยที่มีประวัติศาสตร์ในการเปลี่ยนพื้นที่ปลูกฝิ่นดั้งเดิมให้กลายเป็นไร่ชา และยังเป็นดอยต้นน้ำที่สำคัญของจังหวัดเชียงใหม่ ปัจจุบันดอยปู่หมื่นมีชุมชนอยู่อาศัยราว 100 ครัวเรือน มีการปลูกชาในกลุ่มของพันธุ์ชาอัสสัม ซึ่งเป็นพันธุ์ชาที่ได้รับพระราชทานมาจาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ตั้งแต่ปีพ.ศ.2513 ในขณะที่พระองค์เสด็จพระราชดำเนินลงพื้นที่แห่งนี้ นับเป็นชาต้นแรกที่ปลูกและขยายพันธุ์แก่ชาวบ้านในพื้นที่ ชาวบ้านที่เพาะปลูกส่วนใหญ่ก็จะเพาะปลูกชาเพื่อเลี้ยงชีพ ผลิตของชาวบ้านจำหน่ายได้ในราคาที่ถูก และไม่เป็นที่รู้จักกันในวงกว้าง
การชงชาประเภทต่างๆ
เดวิด โครูนิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิตจำกัด (มหาชน) (FWD ประกันชีวิต)กล่าวว่า “ผมมีความสุขมากที่ได้มายืนอยู่ตรงนี้ หลังจากที่เราทำงานร่วมกันกับชาวลาหู่มานานกว่า 3 ปี และมีความภูมิใจที่ได้เห็นความก้าวหน้าในงานที่เราทำร่วมกับชุมชน การทำงานเพื่อช่วยเหลือสังคมเป็นแพชชั่น และความตั้งใจจริงของ FWD ประกันชีวิต และของตัวผม เพราะตัวผมอยู่เมืองไทยมานานกว่า 16 ปีแล้ว คิดเป็นกว่า 25 เปอร์เซ็นต์ของชีวิตผมซึ่งนั่นคือความผูกพันที่ผมมีกับประเทศไทย ผลลัพธ์ที่เราตั้งไว้จากการทำงานในโครงการนี้คือ ลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม ด้วยการส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจในชุมชนให้เติบโต และส่งผลบวกต่อไปในส่วนอื่นๆ ทั้งด้านสังคม และสิ่งแวดล้อม เป็นการพัฒนาชุมชนอย่างครบวงจรที่จะนำไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน
ต้องบอกว่า ชุมชนลาหู่มีผู้นำที่เข้มแข็ง มีโครงสร้างของชุมชนที่ชัดเจน และคนในชุมชนพร้อมมองเห็นจุดหมายร่วมกัน เราทำงานไปด้วยกัน จึงทำให้เรามีคนในชุมชนเข้ามาเป็นส่วนร่วมในการทำงาน นอกจากนี้จำนวนประชากรของชาวลาหู่มีขนาดกำลังดี ทำให้สามารถดูแลได้อย่างทั่วถึง และพื้นที่ตั้งเป็นป่าต้นน้ำซึ่งเหมาะกับการปลูกชา ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจของชุมชน ทำให้มีโอกาสในการเติบโตทางด้านเศรษฐกิจ และที่ประทับใจมากจากการที่ได้เจอชาวลาหู่ในครั้งนี้ คือ ทุกคนในชุมชนมีความตั้งใจจริงที่จะเรียนรู้อย่างจริงจัง”
ต้นกล้าชาอัสสัม
จิรวรรณ ไชยกอ หรือ หยก ผู้นำชุมชนลาหู่คนรุ่นใหม่ และยังเป็นผู้บริหารห้างหุ้นส่วนจำกัด อาปาทีออร์แกนิค และโรงแรมภูมณี ลาหู่โฮม โฮเทล ผู้สร้างสรรค์และผลักดันต่อยอดการท่องเที่ยวดอยปู่หมื่นในรูปแบบ Tea Tourism และนำชาดอยปู่หมื่น มาสร้างเป็นผลิตภัณฑ์ภายใต้ แบรนด์ อาปาที และมีการส่งเสริมอาชีพให้กับชาวลาหู่บ้านเด่นหลวง ซึ่งเป็นชุมชนพี่น้องกับชุมชนดอยปู่หมื่น ในการปลูกชาในพื้นที่ราบและปลูกสมุนไพรในระบบอินทรีย์ นอกจากนั้น เหนือขึ้นมาจากชุมชนและไร่ชา เป็นที่ตั้งของห้องเรียนชาที่ผู้มาเยือนจะได้เรียนรู้ศาสตร์แห่งการชงและชิมชาชนิดต่างๆ ตามหลัก Tea Flavor Wheel พร้อมชิมของว่างที่มาเสิร์ฟพร้อมชา คือ “ข้าวปุก”ขนมพื้นถิ่นที่ทำจากข้าวเหนียวนึ่งตำในครกไม้จนเหนียวคลุกผงงาคั่ว ปั้นก้อนปิ้งเตาถ่านให้ผิวกรอบเล็กน้อยส่งกลิ่นหอม และเพิ่มความสดชื่นด้วยผลไม้ท้องถิ่นตามฤดูกาลอีกด้วย
จิรวรรณ เล่าว่า ก่อนหน้านี้การปลูกชา ยังไม่ได้มีการพัฒนาปรับปรุงต้นกล้าชามากนัก ต่อมาบริษัท FWD ประกันชีวิต ได้เข้ามาให้การช่วยเหลือ
ในการมอบต้นกล้าชาอัสสัมกับพวกเรามาปลูก ก็เหมือนกับเป็นการปลูกชา ปลูกชีวิต ให้กับพวกเรา “โครงการธนาคารต้นกล้า” ถือเป็นโครงการแรกในการพัฒนาชุมชนบ้านลาหู่ ที่เกิดขึ้นจากความต้องการของคนในหมู่บ้านที่อยากจะมีต้นกล้าชาอัสสัมมากขึ้น
ข้าวอบหมูตุ๋นชาแดงอัสสัม
“ตอนนี้ตลาดชาที่นี่ ประมาณ 80% ชาวบ้านยังเก็บชาและผลิตในครัวเรือนส่งขายอยู่ การผลิตที่ให้ได้คุณภาพยังไม่ค่อยมาก จึงมีการต่อยอดเรื่องของโครงการเพิ่มคุณภาพชา ซึ่ง FWD ประกันชีวิต ก็ได้ทำงานร่วมกับศูนย์นวัตกรรมเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว คณะทรัพยากรชีวภาพและเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี และศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตร เชียงใหม่ มาทำงานร่วมกันเพื่อพัฒนาคุณภาพชาให้ได้มาตรฐานยกระดับคุณภาพชาให้ดีขึ้น เพื่อที่เราจะสามารถขยายตลาดชาอัสสัมได้กว้างขวางมากขึ้น และ FWD ประกันชีวิตได้สอนการเพิ่มมูลค่าชา ก็ทำให้จากเดิมเราขายชาอัสสัมได้กิโลละ 100-120 บาท ก็มีโอกาสที่จะเพิ่มราคามาเป็นกิโลละ 2,000-3,000 บาท ช่วยทำให้รายได้ของชาวบ้านดีขึ้น”
อีกทั้ง ใบชาอัสสัมที่ได้จากดอยปู่หมื่นที่ผ่านการผลิตที่ได้มาตรฐานของชุมชนนั้น ทาง FWD ประกันชีวิต ได้เคยนำมาต่อยอดเพิ่มมูลค่าจากการนำไปรังสรรค์เป็นเมนูอาหารต่างๆ โดยเชฟชุมพล แจ้งไพร ซึ่งผสานวัฒนธรรมอาหารของดอยปู่หมื่น เช่น ยำปลา เกี๊ยวซ่าใบชา ข้าวกระบอกไม้ไผ่ที่มีเนื้อหมูอยู่ข้างใน นอกจากนี้ ยังมีค็อกเทล٢ สูตร ที่ใช้ชาขาวผสมกับพีช และชาขาวผสมกับแบรี่ รวมทั้งยังนำมาทำเป็น ช็อกโกแลตผสมชา ٤ ประเภท ได้แก่ ชาขาว ชาเขียว ชาป่า ชาแดง กับตัวชูรสที่เป็นกลิ่นดอกไม้และผลไม้ต่างๆ กลายเป็น soft power ให้คนเมืองได้คุ้นเคยกับชื่อดอย คุ้นเคยกับผลิตภัณฑ์ และมีโอกาสได้ลองชิม”
ช็อกโกแลต 4 รส
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี