วันอาทิตย์ ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ผู้หญิง
ตรวจดีเอ็นเอ ค้นหาพิมพ์เขียวของร่างกาย  รู้ก่อน ป้องกันก่อน ทางลัดดูแลสุขภาพอย่างยั่งยืน

ตรวจดีเอ็นเอ ค้นหาพิมพ์เขียวของร่างกาย รู้ก่อน ป้องกันก่อน ทางลัดดูแลสุขภาพอย่างยั่งยืน

วันอังคาร ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2566, 06.00 น.
Tag : ดีเอ็นเอ พิมพ์เขียวของร่างกาย
  •  

หลายคนคุ้นเคยและเข้าใจว่า “การตรวจดีเอ็นเอ” เป็นการตรวจหาความสัมพันธ์ทางสายโลหิตหรือการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล แต่ทราบหรือไม่ว่า มีการตรวจดีเอ็นเออีกประเภทหนึ่งที่ช่วยในการวิเคราะห์สุขภาพ เสมือนการไขรหัสลับชีวิตของแต่ละบุคคล ทำให้ทราบความเสี่ยงไม่เพียงกับโรคทางพันธุกรรมที่ถ่ายทอดผ่านทางสายเลือดยังทราบถึงความเสี่ยงของโรคที่เกิดจากพฤติกรรมของแต่ละคน เช่นจากพฤติกรรมการกิน การนอน การออกกำลังกาย หรือจากความเครียด เป็นต้น  เพราะความเสี่ยงจากโรคทางพันธุกรรมไม่ได้มีแค่โรคมะเร็ง หรือโรคที่ติดตัวมาแต่กำเนิด แต่ปัจจัยที่สำคัญมากยิ่งกว่าคือ พฤติกรรมที่นำพาไปสู่การเกิดโรค  

การตรวจดีเอ็นเอ สามารถวิเคราะห์ได้ถึงพฤติกรรม การตอบสนองต่อสารอาหารของแต่ละคน เนื่องจากร่างกายแต่ละคนมีความต้องการไม่เท่ากัน นอกจากนี้ ยังบอกถึงภาวะการนอนหลับ การต้านทานความเครียด ลักษณะการออกกำลังกายที่เหมาะสม ความอ่อนไหวต่อมลพิษ เป็นต้น  


ข้อมูลที่ได้จากการตรวจดีเอ็นเอเหล่านี้ นอกจากทำให้รู้จักตนเองมากขึ้นแล้วยังสามารถนำมาวิเคราะห์ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต เหมือนเป็นอีกตัวช่วยเพื่อการวางแผนป้องกันและดูแลสุขภาพ ยกตัวอย่าง กรณีคนที่น้ำหนักขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ สามารถนำข้อมูลที่ได้มาปรับพฤติกรรมตามผลลัพธ์รหัสพันธุกรรม เช่น การออกกำลังกาย การรับประทานอาหาร การปรับสารอาหารที่ควรได้รับ ฯลฯ 

 

แพทย์หญิงกชกร เจริญผลพิบูลย์ แพทย์ผู้ชำนาญการด้านเวชศาสตร์ป้องกันคลินิกดูแล ป้องกัน และฟื้นฟูสุขภาพบีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก (BDMS Wellness Clinic) กล่าวว่า การตรวจดีเอ็นเอ หรือ Genetic Testing เป็นการตรวจรหัสพันธุกรรมเสมือนการตรวจหาต้นทุนสุขภาพที่มีติดตัวมาแต่กำเนิด ซึ่งแต่ละคนจะมีรหัสพันธุกรรมที่ควบคุมการแสดงออกแตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นหน้าตา สีผม รูปลักษณ์ภายนอกต่างๆ รวมถึงระบบการทำงานภายในร่างกายที่บ่งชี้โอกาสของการเกิดโรค หรือความผิดปกติทางพันธุกรรมที่อาจส่งผลในอนาคต 

“การตรวจดีเอ็นเอ ไม่ใช่การวิเคราะห์โรค แต่เป็นการดูแลภาวะสุขภาพและนำข้อมูลมาวางแผนในอนาคตเพื่อไม่ให้เป็นไปตามภาวะที่น่ากังวลเหล่านั้นเหมือนมี “แผนที่” มีพิมพ์เขียวของร่างกาย ซึ่งเราไม่จำเป็นต้องเดินไปตามแผนที่นั้นก็ได้ แต่สามารถหลีกเลี่ยงหาเส้นทางที่ดีกว่า สามารถดูแลป้องกันได้ล่วงหน้า หรือเพื่อชะลอการเป็นโรคให้ช้าลง เพื่อยืด Health Span คือช่วงเวลาที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีให้ยาวขึ้น”  

ปัจจุบันด้วยกระแสของเวชศาสตร์เชิงป้องกันเป็นที่นิยมมากขึ้น คนจำนวนมากหันมาให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพเพื่อหลีกเลี่ยงความเจ็บป่วย เพราะแม้จะกินคลีน หรือมีวินัยในการดูแลสุขภาพดีเพียงใด แต่ยังมีปัจจัยอื่นที่อยู่นอกเหนือการควบคุม ไม่ว่าจะเป็นเชื้อโรคที่ส่งผ่านทางอากาศและการสัมผัส มลภาวะในสิ่งแวดล้อม PM2.5 เป็นต้น การตรวจดีเอ็นเอจึงเป็นอีกตัวช่วยของการวางแผนดูแลสุขภาพ ที่สามารถป้องกันความเสี่ยงต่อโรคได้

 

การตรวจดีเอ็นเอในปัจจุบัน ไม่ได้มุ่งเน้นความสำคัญไปแค่เรื่องบอกความเสี่ยงของโรค แต่ในกรณีของเด็กเล็ก การตรวจดีเอ็นเอยังทำให้ทราบถึงสมรรถภาพทางร่างกายและความถนัดต่างๆ เช่น ความถนัดทางภาษา ทางคณิตศาสตร์ ทางดนตรี กีฬา หรือศิลปะ เป็นต้น ผู้ที่เข้ารับการตรวจดีเอ็นเอมีทุกเพศทุกวัย ตั้งแต่เด็ก คนหนุ่มสาววัยทำงานไปจนถึงคนสูงวัย โดยเฉพาะในช่วงอายุราว 40 ปี ซึ่งมักมีความกังวลเกี่ยวกับสุขภาพ การดูแลสุขภาพแบบองค์รวมจึงหลีกเลี่ยงได้ยากที่จะไม่ใช้การตรวจดีเอ็นเอเพื่อการนำข้อมูลที่ได้เทียบเคียงกับข้อมูลสุขภาพ ณ ปัจจุบัน เสมือนเป็นตัวช่วยเพิ่มเพื่อใช้ในการดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน ขณะเดียวกันก็มีพ่อแม่หลายคนที่พาลูกเข้ารับการตรวจ เพื่อเป็นแนวทางในการวางแผนชีวิตให้ลูกตามทักษะความถนัด หรือถ้ามีพันธุกรรมที่มีความเสี่ยงในการเกิดโรคแพทย์ผู้ชำนาญการจะช่วยวางแผนด้านสุขภาพได้ด้วย โดยสามารถตรวจได้ตั้งแต่ยังเล็ก 

สำหรับกระบวนการตรวจดีเอ็นเอ ที่คลินิกดูแล ป้องกัน และฟื้นฟูสุขภาพ บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก ใช้วิธีการเก็บตัวอย่างเนื้อเยื่อจากเยื่อบุกระพุ้งแก้ม (Buccal Swab) จึงทำได้ง่าย ไม่เจ็บเพราะไม่ต้องเจาะเลือด และใช้เวลารวดเร็ว เพียงงดน้ำและอาหาร ไม่แปรงฟันหรือทำความสะอาดช่องปาก 2 ชั่วโมงก่อนการเก็บตัวอย่าง ใช้เวลารอผลประมาณ 1 เดือน จะได้ผลออกมาเป็นรายงานพิมพ์เขียวของร่างกายใช้เสมือนเป็นคู่มือดูแลสุขภาพ โดยจะมีแพทย์ผู้ชำนาญการเป็นผู้อ่านแปลผลและแนะแนวทางการดูแลสุขภาพระยะยาวให้อย่างตรงจุด

กับคำถามที่ว่า เมื่อตรวจดีเอ็นเอแล้วยังต้องตรวจสุขภาพประจำปีหรือไม่?  พญ.กชกร กล่าวว่า ดีเอ็นเอเหมือนเป็น “สมบัติ” ที่ได้มาจากพ่อแม่ สิ่งที่ได้จากการตรวจดีเอ็นเอคือ “หนังสือชีวิตส่วนตัว” เป็นแผนที่ที่ทำให้รู้จักตัวเองและสามารถวางเป้าหมายการดำเนินชีวิตได้ว่าควรหรือไม่ควรเดินไปทางไหน แต่สิ่งที่ทำให้เกิดความเสี่ยงโรค ณ ปัจจุบัน มาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตปัจจุบัน ฉะนั้นแม้ว่าจะตรวจดีเอ็นเอแล้วยังจำเป็นต้องตรวจเลือดเพื่อดูว่าสุขภาพองค์รวมปัจจุบันเป็นอย่างไร ฯลฯ เพราะผลจากการตรวจดีเอ็นเอเป็นการคาดการณ์ว่ามีแนวโน้มความเสี่ยงโรคมากกว่าผู้อื่น แต่ภาวะสุขภาพปัจจุบันต้องตรวจสุขภาพจึงจะทราบ

“ฉะนั้น การตรวจสุขภาพประจำปีจึงเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องทำ ไม่จำเป็นต้องรอให้มีอาการก่อนจึงไปพบแพทย์ เพราะโรคบางโรคไม่ได้ออกอาการจนวันที่เป็นหนักมาก ๆ และอาจทำให้รักษาไม่ทันท่วงที”  

ทั้งนี้ รายงานการตรวจดีเอ็นเอจะแสดงผลอัตราความเสี่ยงเป็น“สีเขียว” (ผ่าน) และ “สีแดง” (เสี่ยง) พญ.กชกร ย้ำว่า แม้ว่าตรวจแล้วจะได้ผลเป็น “สีเขียว” แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่เป็น เพราะพฤติกรรมการใช้ชีวิตนั้นสำคัญมาก นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยอื่นอีกมากมาย เช่น มลพิษ PM2.5 ความเครียด ฯลฯ ที่ทำให้เปลี่ยนจาก ”สีเขียว” เป็น “สีแดง” 

“บางคนคิดว่าตรวจดีเอ็นเอแล้วไม่จำเป็นต้องตรวจสุขภาพประจำปี การตรวจเลือดเป็นการดูว่าปัจจุบันเป็นอย่างไร อยู่สถานะไหน แต่การตรวจดีเอ็นเอเป็นการบอกแนวโน้มสุขภาพระยะยาวว่ามีต้นทุนสุขภาพอย่างไร และมีความเสี่ยงอะไร เพื่อนำไปปรับสมดุล เพื่อให้ร่างกายมีสุขภาวะที่ดีและไม่เป็นไปตามความเสี่ยงนั้นๆ ที่อาจเกิดขึ้น โดยการตรวจเพียงครั้งเดียวสามารถใช้ได้ตลอดชีวิต เป็นทางลัดการวางแผนสุขภาพที่รู้ก่อน-ป้องกันก่อน” 

ข้อมูลเพิ่มเติมของการตรวจดีเอ็นเอ คลิกที่เว็บไซต์ www.bdmswellness.com หรือสอบถามได้ที่ไลน์ @bdmswellnessclinic

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  

Breaking News

‘ยึดมหาดไทย-ปมชั้น14’เขย่ารัฐบาลแพทองธาร รอดหรือจบเห่

เศรษฐศาสตร์วันหยุด : พาณิชย์ต้องเข้มแข็งกว่านี้ ในการปกป้องอุตสาหกรรมเหล็กไทย

คุยกัน 7 วันหน : ​โดนัลด์ ทรัมป์ - อีลอน มัสก์ จากคนสนิทสู่ศัตรูคู่อาฆาต

สกู๊ปพิเศษ : ชวนคุยกับ ‘พัคโบกอม-คิมโซฮยอน-อีซังอี’ สามนักแสดงมากฝีมือจาก GOOD BOY

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved