เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น โรคต่างๆที่มาตามวัยพร้อมเข้ามาทักทาย ดังนั้น โรคในผู้สูงอายุ จึงเป็นสิ่งที่ยากจะหลีกเลี่ยง
แต่สามารถบรรเทาได้หากได้รับการรักษาและดูแลอย่างถูกวิธี บทความนี้จะพาไปทำความรู้จัก 5 โรคในผู้สูงอายุที่พบได้บ่อยในผู้สูงอายุคนไทย พร้อมแนวทางการรับมือในการดูแลผู้สูงวัยเพื่อรองรับการเป็นสังคมผู้สูงอายุอย่างมีคุณภาพ
โรคความดันโลหิตสูง โรคที่ฮิตที่สุดในวัยสูงอายุ
หนึ่งในลิสต์ของโรคที่พบมากที่สุดในผู้สูงอายุในไทย โดยปัจจัยที่ก่อให้เกิดโรคความดันโลหิตสูงคือ การรับประทานอาหารเค็มเป็นประจำ ไม่ค่อยขยับร่างกายหรือออกกำลังกาย และมีน้ำหนักตัวเกินเกณฑ์มาตรฐานตั้งแต่ช่วงวัยผู้ใหญ่ (40-60 ปี) ดังนั้น เพื่อป้องกันการเกิดโรคนี้ แนะนำว่าเบื้องต้นควรมีการตรวจวัดความดันด้วยตนเองเป็นระยะ และพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายสม่ำเสมอ เนื่องจากโรคนี้จะไม่แสดงอาการชัดเจนในช่วงต้น ส่วนใหญ่เมื่อมีอาการ เช่น ปวดศีรษะตื้อๆ บริเวณท้ายทอยช่วงตื่นนอนตอนเช้า มักจะมีความดันโลหิตสูงค่อนข้างมากแล้ว ซึ่งหากมีตรวจพบในระยะแรกยังมีโอกาสที่ความดันโลหิตจะลดลงได้ โดยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตให้เหมาะสม เช่น การรับประทานผักให้มากขึ้น ลดอาหารเค็ม อาหารรสจัด อาหารแปรรูปซึ่งมีโซเดียมสูง ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม งดบุหรี่และแอลกอฮอล์ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เป็นต้น
โรคเบาหวาน ลดน้ำตาลเพิ่มสุขภาพที่ยั่งยืน
อีกหนึ่งโรคฮิตในกลุ่มผู้สูงวัย โดยปัจจัยที่ก่อให้เกิดโรคนี้คือ พฤติกรรมการใช้ชีวิต และพันธุกรรม วิธีการลดความเสี่ยงคือ ลดการบริโภคแป้งและน้ำตาล โดยเฉพาะที่ผ่านกระบวนการขัดสี เช่น น้ำตาลทรายขาว ปริมาณคาร์โบไฮเดรตที่แนะนำต่อมื้ออย่างง่ายคือ รับประทาน 2 ส่วนจากอาหารทั้งหมด 4 ส่วน และลดการรับประทานจุบจิบระหว่างวันสิ่งสำคัญที่จะช่วยสร้างสมดุลให้กับร่างกายคือการหมั่นขยับร่างกายบ่อยๆ และออกกำลังอย่างสม่ำเสมออย่างน้อย 30 นาที สัปดาห์ละ 5 วัน หรือ 150 นาทีต่อสัปดาห์ และทำต่อเนื่องเป็นประจำ
โรคข้อเสื่อม และกระดูกพรุน
ถัดมาคือโรคข้อเสื่อม และกระดูกพรุน ทั้งสองโรคนี้ความเสี่ยงมักตรงกันข้าม โรคข้อเสื่อมมักเกิดกับผู้ที่มีน้ำหนักตัวมาก และใช้งานร่างกายหนัก ส่วนโรคกระดูกพรุนมักเกิดกับผู้ที่น้ำหนักตัวน้อยไม่ค่อยออกกำลังกาย และอาจมีพันธุกรรมโรคกระดูกพรุน หรือโรคประจำตัวบางโรคที่ทำให้เสี่ยงมากขึ้น วิธีการป้องกันโรคข้อเสื่อมโดยเฉพาะข้อเข่าและข้อสะโพก ควรทำตั้งแต่ในวัยผู้ใหญ่ โดยควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมออกกำลังกายเพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อเพื่อพยุงข้อต่อให้เสื่อมช้าลงและเลี่ยงการทำกิจกรรมที่เพิ่มความเสื่อมให้แก่ข้อ เช่น กรณีข้อเข่า ควรเลี่ยงการนั่งยองๆ คุกเข่า ขัดสมาธิ พับเพียบ เป็นต้น ส่วนโรคกระดูกพรุนนั้น ป้องกันได้โดยการออกกำลังกายสม่ำเสมอรับประทานอาหารที่มีแคลเซียมและวิตามินดีสูง และสามารถตรวจคัดกรองโรคกระดูกพรุนได้เมื่อถึงวัยที่เหมาะสม โดยผู้หญิงแนะนำตรวจคัดกรองเมื่ออายุ 65 ปี เพศชายที่อายุ 70 ปี หรืออาจเร็วกว่านั้นขึ้นกับโรคประจำตัวและความเสี่ยง
โรคสมองเสื่อม เรื่องที่คนใกล้ตัวต้องใส่ใจ
ปัจจุบันมีผู้ป่วยสูงอายุเป็นโรคสมองเสื่อมสูงขึ้น เนื่องจากมีอายุยืนยาวมากขึ้น ผู้สูงอายุ หรือผู้ดูแลควรหมั่นสังเกตอาการที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เช่น มีความจำระยะสั้นที่ถดถอยลงหลงทิศทาง ความสามารถในการจัดการหรือวางแผนถอยลง พฤติกรรมเปลี่ยนแปลงไป มีปัญหาด้านการใช้ภาษา นึกคำศัพท์ที่ใช้เป็นประจำไม่ออกเป็นต้น การตรวจพบโรคสมองเสื่อมแต่เนิ่นๆ จะช่วยให้การรักษาได้ผลดีกว่า และช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตแก่ผู้ป่วยและผู้ดูแลได้ วิธีป้องกันไม่ให้เกิดโรคสมองเสื่อม คือการให้ผู้สูงอายุได้บริหารสมอง และทำกิจกรรมต่างๆ ที่ตนเองถนัด รวมถึงการ
ออกกำลังกาย การผ่อนคลายจิตใจทำให้อารมณ์แจ่มใส พักผ่อนให้เพียงพอ และรักษาโรคประจำตัวให้เหมาะสม
โรคซึมเศร้าและโรควิตกกังวลโฟกัสความสุขของคนที่เรารัก
ผู้สูงอายุมักจะมีความวิตกกังวลง่าย เนื่องจากสุขภาพร่างกายที่ไม่แข็งแรงเหมือนเดิมมีการเปลี่ยนทางในครอบครัวและทางสังคม การเป็นที่ยอมรับ ความกังวลเรื่องเศรษฐานะ อาจทำให้เสี่ยงต่อโรควิตกกังวลหรือซึมเศร้าได้ง่าย วิธีการสังเกตว่าผู้สูงอายุมีปัญหาเรื่องอารมณ์หรือความวิตกกังวลหรือไม่ อาจสังเกตจากการนอนหลับ หากนอนไม่หลับ ตื่นบ่อยกลางดึก หรือนอนมากกว่าปกติ มีความหงุดหงิดฉุนเฉียวง่าย อารมณ์ไม่คงที่เบื่ออาหาร หรือบางครั้งอาจมีอาการหลงลืมบ่อย แนะนำให้มาพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยอาการต่อไป เพราะสุขภาพใจที่ดีย่อมส่งผลให้สุขภาพกายดีขึ้น และมีคุณภาพชีวิตที่ดีเช่นกัน ความสุขง่ายๆ ในวัยสูงอายุคือ การไม่เจ็บไม่ปวด ได้รับ
ความรักความเข้าใจ ได้เห็นคนที่รักมีความสุขกายสบายใจ เพราะวัยสูงอายุเป็นวัยแห่งการได้ทบทวนความสุขในชีวิตที่ผ่านมาและมีความสุขกับเวลาที่เหลืออยู่
ด้าน ผศ.พญ.ฐิติมา ว่องวิริยะวงศ์ ความชำนาญพิเศษ อายุรศาสตร์ผู้สูงอายุ โรงพยาบาลศิริราช เปิดเผยว่า จากปัจจัยเสี่ยงที่อาจนำไปสู่การเกิดโรคต่างๆ เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา การดูแลผู้สูงอายุให้มีสุขภาพกายใจที่แข็งแรงจึงไม่ใช่เรื่องง่ายประกอบกับประเทศไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มรูปแบบ ดังนั้น การเตรียมความพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงด้านต่างๆ ให้ครอบคลุมทุกมิติ ทั้งด้านการรักษา ตลอดจนสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการดูแลผู้ป่วยที่สูงวัยอย่างเหมาะสมจึงเป็นเรื่องจำเป็น
“ในบางสถานการณ์ที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงการเจ็บป่วยได้ การเรียนรู้และเข้าใจวิธีการดูแลผู้ป่วยสูงวัยจึงเป็นสิ่งที่สำคัญและไม่ควรมองข้าม โรงพยาบาลศิริราช ได้เล็งเห็นความสำคัญในการจัดการกับสภาวะของโรคที่มากับผู้สูงวัยและตระหนักถึงสร้างระบบการดูแลผู้สูงอายุ โดยเฉพาะการเตรียมความพร้อมด้านสถานพยาบาลเพื่อรองรับผู้ป่วยในกลุ่มดังกล่าวในช่วงที่ต้องการพักฟื้นร่างกายหลังจากเข้ารับการรักษาและพ้นจากการเจ็บป่วยในระยะเฉียบพลัน จึงได้ริเริ่มแนวคิดการก่อตั้ง “ศูนย์วิทยาการเวชศาสตร์ผู้สูงอายุศิริราช” เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้ป่วยในกลุ่มผู้สูงอายุที่สามารถมีสถานที่ฟื้นฟูร่างกายให้กลับมาแข็งแรงและกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ ทั้งยังเป็นการช่วยลดระยะเวลาที่ต้องอยู่ในโรงพยาบาลนานเกินไปโดยศูนย์ฯ ดังกล่าวจะกลายเป็นโมเดลที่จะสร้างมาตรฐานให้สังคมไทยหันมาใส่ใจในสุขภาวะของผู้สูงอายุอย่างถูกวิธี และเป็นต้นแบบขององค์ความรู้ด้านการดูแลผู้ป่วยสูงอายุเพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับผู้สูงอายุอย่างยั่งยืนอีกด้วย” ผศ.พญ.ฐิติมา กล่าว
สำหรับ “ศูนย์วิทยาการเวชศาสตร์ผู้สูงอายุศิริราช” อยู่ในระหว่างการดำเนินการก่อสร้าง ประชาชนทั่วไปและผู้ที่สนใจสามารถร่วมสมทบทุนบริจาคสร้าง “ศูนย์วิทยาการเวชศาสตร์ผู้สูงอายุศิริราช” ผ่านศิริราชมูลนิธิ (ศิริราชเพื่อผู้สูงวัย) ตามจิตศรัทธา ได้ที่ ธนาคารกรุงเทพ เลขที่บัญชี 901-7-06044-4,ธนาคารไทยพาณิชย์ เลขที่บัญชี 016-4-57906-4, ธนาคารกสิกรไทย เลขที่บัญชี 063-3-16546-7 บริจาคผ่านเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ AIS DTAC และ True โดยกด *984*100 # โทร.ออกร่วมบริจาคครั้งละ 100 บาท และบริจาคออนไลน์ ผ่าน https://si-eservice.mahidol.ac.th/donation เพื่อเป็นพลังบุญอันยิ่งใหญ่ ในการร่วมสร้างสังคมผู้สูงวัยที่มีคุณภาพให้บรรลุตามวัตถุประสงค์อย่างเป็นรูปธรรมต่อไป
ทั้งนี้ สามารถติดตามความเคลื่อนไหวของศูนย์วิทยาการเวชศาสตร์ผู้สูงอายุศิริราชได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ
https://www.facebook.com/SirirajAcg และงานประชาสัมพันธ์และกิจการพิเศษ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล หรือโทร. 02-4197646-8 (ในวันและเวลาราชการ)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี