พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขณะทรงดำรงพระอิสริยยศสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เมื่อครั้งเสด็จฯ หมู่บ้านกูแบสีรา เมื่อปี 2544
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรนิทรรศการโครงการพัฒนาพื้นที่บ้านกูแบสีราอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ณ มัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี อำเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี ในโอกาสนี้ พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายวันสุกรี แวะมามะ นายอำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี นายดอนิง กาหลง ผู้นำชุมชนหมู่บ้านกูแบสีรา และราษฎรบ้านกูแบสีรา เฝ้าฯรับเสด็จอย่างใกล้ชิด ทรงมีพระราชปฏิสันถารกับอดีตนายอำเภอเมืองปัตตานี ที่เคยถวายงานโครงการในพระราชดำริฯ เมื่อ 20 ปีที่แล้วอย่างเป็นกันเองและไม่ถือพระองค์ พระสุรเสียงแสดงให้เห็นถึงพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงห่วงใยในทุกข์สุขของราษฎรเสมอมา
จากพื้นดินน้ำท่วมขังในฤดูฝนไร่นาเสียหายเก็บเกี่ยวผลผลิตไม่ได้ตามฤดูกาล สัตว์เลี้ยงตายยกคอกขายไม่ได้ ราษฎรไร้ที่อยู่อาศัย ถนนหนทางภายในหมู่บ้านถูกน้ำท่วมขัง เคราะห์ร้ายในฤดูแล้งขาดแคลนน้ำกินน้ำใช้ แต่วันนี้บ้านกูแบสีราหมู่บ้านเล็กๆ ในตำบลกอลำ อำเภอยะรังจังหวัดปัตตานี กลายเป็นพื้นดินที่สมบูรณ์ พืชผลนานาพันธ์ุเขียวขจีเต็มท้องทุ่ง น้ำท่าอุดมสมบูรณ์มีกินมีใช้อย่างเพียงพอในครัวเรือน สมดังคำว่า “ข้าวอยู่ในนา ปลาอยู่ในน้ำ”
ความทุกข์แสนสาหัสของชาวกูแบสีราหมู่บ้านในตำบลกอลำ อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี ได้สิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 28 กันยายน 2544 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งยังทรงดำรงพระอิสริยยศ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร โดยเสด็จสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จพระราชดำเนินแปรพระราชฐานไปประทับ ณ พระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ จังหวัดนราธิวาส เพื่อทรงเยี่ยมราษฎรพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และทรงรู้ว่าราษฎร ณ หมู่บ้านแห่งนี้ได้รับความทุกข์ยากแร้นแค้น มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ด้อยคุณภาพทุกชีวิตเหมือนถูกตัดขาดจากโลกภายนอก เพราะบ้านกูแบสีราเป็นหมู่บ้านเล็กๆ มีราษฎรอยู่เพียงไม่กี่หลังคาเรือน เป็นชาวไทยมุสลิมทั้งหมด ครั้นความทราบยังฝ่าละอองธุลีพระบาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎร ทรงศึกษาข้อมูลและทรงสอบถามถึงชีวิตความเป็นอยู่ โดยเสด็จฯขึ้นไปบนบ้านของนายดอเลาะ บือแน ชาวมุสลิม ทำให้ทรงรับทราบปัญหาด้วยภาษายาวีผ่านล่ามว่า ราษฎรที่นี่ขาดแคลนน้ำดื่ม และเมื่อถึงฤดูฝนก็ประสบปัญหาน้ำท่วมขัง เพราะไม่มีคูน้ำช่วยในการระบายน้ำ จึงพระราชทานคำแนะนำ และแนวทางในการแก้ไขปัญหาให้หน่วยงานราชการทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ช่วยกันบูรณาการแก้ไขปัญหาทั้งระบบพร้อมทั้งทรงรับโครงการพัฒนาพื้นที่บ้านกูแบสีราไว้เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ
นายวันสุกรี แวะมามะ นายอำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี ย้อนภาพในอดีต ว่ากูแบสีราเป็นหมู่บ้านที่ยากจนที่สุดใน จ.ปัตตานี เพราะสภาพพื้นที่เป็นที่ราบลุ่ม ดินเป็นดินร่วนปนทราย และมีความเป็นอยู่ที่แร้นแค้นอย่างมาก ในช่วงฤดูฝนก็จะเกิดน้ำท่วมขัง นาข้าว พืชผักและไม้ผลได้รับความเสียหาย
เพื่อสานต่อแนวพระราชดำริ คือ การพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของราษฎร สามารถดำเนินชีวิตอย่างมีความสุขยั่งยืนบนความพอเพียงพออยู่พอกิน ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง จึงได้ผสานกำลังร่วมกันแก้ไขปัญหาทั้งระบบ ทำให้ราษฎรมีที่อยู่อาศัย และที่ทำการเกษตร โดยไม่ประสบปัญหาน้ำท่วมขัง และมีน้ำใช้ในการอุปโภคบริโภคอย่างพอเพียง รวมถึงส่งเสริมอาชีพในการทำงานศิลปาชีพ ทำให้ราษฎรมีรายได้เสริม มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ยังประโยชน์แก่ราษฎรในพื้นที่บ้านกูแบสีรามาจนถึงปัจจุบันนี้
ผ่านมาแล้ว 20 ปี ด้วยน้ำพระราชหฤทัยที่ทรงห่วงใยพสกนิกรทุกหมู่เหล่าโดยมิได้ทรงแบ่งแยกเชื้อชาติศาสนา ทำให้ทุกวันนี้ชาวหมู่บ้านกูแบสีราจากหมู่บ้านเล็กๆ ที่ยากจนที่สุดในจังหวัดปัตตานี มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นสามารถทำนาได้ปีละ 2 ครั้ง จากทำได้เพียงแค่ปีละหนึ่งครั้ง ข้าวให้ผลผลิต 500-700 กิโลกรัมต่อไร่ ปลูกพืชผักปลอดสารพิษตามศาสตร์พระราชาส่งขายตามตลาดและพื้นที่ต่างๆ ส่งผลให้แต่ละครัวเรือนมีรายได้จากการทำนาและขายผักมากถึง 180,000 บาทต่อปี
ภาพแห่งความซาบซึ้งใจได้จารึกอยู่ในหัวใจของชาวกูแบสีราอีกครั้ง โดยเมื่อวันที่ 27 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปพระราชทานรางวัลการทดสอบการอัญเชิญพระมหาคัมภีร์อัลกุรอานระดับประเทศ ครั้งที่ 16 ประจำปี 2566 ณ มัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี อำเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี ระหว่างทอดพระเนตรนิทรรศการโครงการพัฒนาพื้นที่บ้านกูแบสีราอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ อยู่นั้นทรงมีพระราชปฏิสันถารกับอดีตนายอำเภอเมืองปัตตานี ที่เคยถวายงานโครงการในพระราชดำริฯ เมื่อ 20 ปีที่แล้วอย่างเป็นกันเองและไม่ถือพระองค์ พระสุรเสียงนั้นตอกย้ำให้เห็นถึงพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงห่วงใยในทุกข์สุขของราษฎรเสมอมา
นางรอปิโอ๊ะ บือแน บุตรสาวของนายดอเลาะ บือแน ราษฎรที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินขึ้นไปทรงเยี่ยมบนบ้าน ย้อนอดีตความซาบซึ้งใจอันแจ่มชัดเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ผ่านล่ามภาษายาวี ว่าตอนนั้นเธออายุ 40 ปี วินาทีที่เห็นในหลวง ซึ่งขณะนั้นทรงดำรงพระอิสริยศสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินขึ้นมาทรงพูดคุยกับพ่ออย่างไม่ถือพระองค์ เธอปลื้มปีติและประทับใจอย่างไม่รู้ลืม เพราะไม่เคยมีเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินพระองค์ไหนเสด็จพระราชดำเนินมาถึงที่นี่มาก่อนเลย
นับเป็นบุญของพสกนิกรชาวไทยอย่างแท้จริง ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเอาพระทัยใส่ในทุกข์สุขของราษฎรด้วยพระราชหฤทัยห่วงใยที่จะทรงขจัดความเดือดร้อนทั่วทุกหนแห่งให้หมดสิ้นไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี