หากเอ่ยชื่อ ธันยลักษณ์ พรหมมณี หรือ ธันย่า เธอคือแขกคนพิเศษระดับ A-listers ของแวดวงสายแฟชั่นที่ทุกคนต่างคุ้นเคยกับการเป็นนักสะสมงานศิลปะบนผืนผ้าทั้งไทยและต่างประเทศ ผู้สร้างปรากฏการณ์แฟชั่นนิสต้าชาวไทยระดับแนวหน้านั่งฟอร์นโรว์ร่วมกับแฟชั่นนิสต้าคนดังระดับท็อปในงานระดับอินเตอร์ทั้งปารีสแฟชั่นวีคและมิลานแฟชั่นวีค และบทบาทหนึ่งในชีวิตของสาวธันย่าผู้พรั่งพร้อมที่พร้อมจะทุ่มเทแรงกายแรงใจเพื่อสร้างสุขให้เกิดขึ้นกับตนและแบ่งปันสุขนั้นให้แก่ผู้อื่นโดยปราศจากเงื่อนไข เพื่อสร้างสมดุลให้กับชีวิต นำธรรมะมาประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวันสู่ความสุขอันประณีต ในแบบฉบับของตนเอง
“ชีวิตของธันย่ามีหลายบริบท มีบริบทเพื่อสังคมการทำงาน มีมุมส่วนตัวที่รักงานศิลปะบนผืนผ้า การเป็นผู้ส่งเสริมและให้ความสำคัญในการอนุรักษ์ผ้าไหมไทยในบทบาททูตอัตลักษณ์ไหมไทยมีมุมที่อยากพัฒนาความรู้สู่ปัญญา ธันย่ามองว่าแต่ละคนมีมุมมองความคิด มีชีวิต มีความชอบในสิ่งที่ชอบแตกต่างกันไป ในช่วงที่โควิดกำลังระบาดหนัก ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกแทบจะหยุดนิ่ง ทุกคนต้องอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ ทำให้หลายคนอยู่กับความคิดของตนเอง ต้องเรียนรู้อยู่กับทุกข์ให้เป็น แสวงหาความสุขในความทุกข์ให้ได้ เพื่อก่อสติเกิดปัญญาลดความเครียด ลดความทุกข์ ส่วนตัวธันย่าชอบพัฒนาหาความรู้สร้างโอกาสให้ตัวเอง ธันย่าได้มีโอกาสเรียนหลักสูตรประกาศนียบัตรชั้นสูงการเสริมสร้างสังคมสันติสุข รุ่นที่ 11 ของสถาบันพระปกเกล้า ได้เจอกับเพื่อนร่วมรุ่นจากหลากหลายวงการกว่า 90 คน ซึ่งในรุ่นนั้นมีนักศึกษาที่หลากหลาย นับถือศาสนาต่างๆ กัน ไม่ว่าจะเป็น พระพุทธศาสนาศาสนาอิสลาม ศาสนาคริสต์ ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู ศาสนาซิกข์ และยังมีนักศึกษาร่วมรุ่นที่เป็นพระสงฆ์ไปเรียนด้วย
จากการเข้าร่วมหลักสูตรนี้ ทำให้ตระหนักว่า เราอาจจะเคยมองคนละมุม มีอุดมการณ์ที่แตกต่างกัน มีศาสนาที่แตกต่างกัน และด้วยพลังแห่งศรัทธานี้นำอุดมการณ์นั้นมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน สร้างโอกาสความเข้าใจในความแตกต่างเพื่อเติบโต ส่งเสริมของกันและกันและใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันในวิถีแห่งสันติสุข เช่น ก่อนการลงพื้นที่เราต้องศึกษาอย่างเข้าใจลักษณะความเป็นมาของชุมชนว่ามีวิถีชีวิต มีความศรัทธา มีหลักศาสนาอะไร หรือมีประเด็นอ่อนไหวเรื่องอะไร เราก็จะได้เห็นวิธีการว่าในแต่ละศาสนาเขามีวิธีในการเข้าถึงคนในศาสนาของเขาอย่างไร มีวิธีเชื่อมโยงชุมชนที่ก่อให้เกิดความศรัทธาและความดีเจริญงอกงามได้อย่างไร สิ่งที่ธันย่าได้คำตอบคือไม่ว่าจะศาสนาใดทุกคนต่างต้องการความสุข ความสงบ มีสันติสุขในการอยู่ร่วมกัน”
เชื่อว่าทุกศาสนาดี เพราะ ทุกศาสนาสอนให้คนเป็นคนดี การปฏิบัติตนให้ตั้งมั่นอยู่ในหลักคำสอนของศาสดาหรือผู้นำศาสนาจะนำมาซึ่งความสงบสุข
“ธันย่ามีแนวปฏิบัติ พลังแห่งความเรียบง่าย รักษาศีล 5 เป็นสิ่งที่ทำได้ง่ายที่สุด ตื่นเช้ามาเจริญสติเพื่อเตรียมพร้อมจิตใจของตัวเอง ยามที่เราต้องออกไปเผชิญสิ่งต่างๆ ที่อาจจะทำให้เราจิตใจขุ่นมัวได้ มีความเมตตากรุณาต่อเพื่อนมนุษย์ เช่น ถ้าเราขับรถอยู่แล้วมีรถอีกคันมาปาดหน้า หากเราไม่มีสติก็อาจจะยอมไม่ได้ ต้องเอาคืน ก็อาจทำให้เกิดการทะเลาะวิวาท เกิดอุบัติเหตุ แต่ถ้าเรามีสติ เราก็จะเตือนตัวเองได้ มองว่าอีกคันเขาคงรีบมากจริงๆ เท่านี้ความสงบสันติสุขก็เกิดขึ้นได้โดยเริ่มที่ตัวเรา หรือการมองทุกสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยความเข้าใจ ไม่ประมาทในการกระทำ เป็นหลักเตือนใจ ก็ทำให้เราทุกข์น้อยลงได้
อย่างการเป็นพุทธบริษัทที่ดี ก็ทำได้หลายรูปแบบ ด้วยจิตเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์ ก็สามารถช่วยเหลือและเป็นกำลังสนับสนุนให้ผู้อื่นช่วยกันทำนุบำรุงพระศาสนาได้ ซึ่งมีหลากหลายรูปแบบ สวดมนต์เจริญจิตภาวนา ฝึกการนั่งสมาธิรักษาศีล การทำบุญตักบาตร ทอดกฐิน ผ้าป่า สละทรัพย์สร้างโบสถ์ วิหาร ศาลาการเปรียญ รวมไปถึงการการมอบทุนการศึกษาสำหรับพระสงฆ์ เพื่อเป็นการปลูกหน่อพระพุทธศาสนาให้เจริญงอกงาม วิถีชาวพุทธการได้เข้าวัดทำบุญ การได้ทำทาน ช่วยขัดเกลาจิตใจให้ไม่ยึดติด สร้างสุขแบบละเงื่อนไข น้อมพระธรรมเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ โดยในช่วงโควิดที่ผ่านมา ในยามที่เกิดวิกฤต วัดและพระ คือหนึ่งในสถานที่ที่พึ่งพิงของประชาชน การได้ไปทำบุญและเห็นพระท่านนำสิ่งของที่ผู้คนนำไปถวาย แบ่งปันให้ประชาชน เป็นสิ่งที่ธันย่าเห็นแล้วรู้สึกปีติสุขใจ เพราะนั่นคือการให้ที่ปราศจากขอบเขตอย่างแท้จริง”
จากการตระหนักรู้ถึงการให้ในยามวิกฤต นำมาซึ่งแนวคิดในการสนับสนุนด้านการศึกษาเพื่อเป็นการให้ที่ยั่งยืน โดยมุ่งเป้าที่พระภิกษุสงฆ์และวัด
“ธันย่ามีแนวคิดว่าเผื่อวันใดที่เกิดวิกฤตอีก พระท่านจะเป็นผู้มีทั้งสติและปัญญา และเข้าใจความต้องการของมนุษย์ปุถุชนในแต่ละยุค จากการที่วันนี้เรามีพระรูปที่หนึ่งเป็นพึ่ง แล้วถ้ารูปที่หนึ่งไม่อยู่แล้วเราก็จะมีรูปที่สอง รูปที่สาม สี่ ห้ามาทดแทน มาเป็นผู้นำจิตในวันที่ฆราวาสประสบความทุกข์ หวังว่าท่านจะมาเป็นผู้นำจิตของเพื่อนมนุษย์ไปในทางที่ดี เพราะยามที่เราเจอวิกฤต จิตใจเราอาจจะอ่อนแอมันมีแนวโน้มง่ายมากที่เราจะโดนหลอกในวิถีต่างๆ ที่จะดึงเราไปในทางเสื่อม การพัฒนาศีลธรรมแห่งความสุขและความทุกข์โดยไม่แสวงหา จึงเป็นเหตุผลที่ธันย่าเลือกทำสิ่งนี้”
สนับสนุนการเผยแผ่พระพุทธศาสนาโดยส่งเสริมการศึกษาแก่พระภิกษุที่กำลังศึกษาในระดับปริญญาโท ตลอดหลักสูตร โดยมี พระปราโมทย์ วาทโกวิโท รับเป็นธุระในการคัดเลือกนักศึกษาสงฆ์ผู้รับทุน
“การมอบทุนในระดับปริญญาโท ธันย่ามองว่าระดับปริญญาตรี เป็นการศึกษาพื้นฐานการใช้ชีวิต แต่ปริญญาโท เป็นการเรียนที่สามารถนำมาวิเคราะห์ชีวิต ส่วนปริญญาเอกเป็นการเรียนเพื่อนำมาสังเคราะห์ชีวิต ธันย่ายังมองว่าเราพัฒนาคุณภาพชีวิตตัวเราเอง เราคือคนที่เคยได้รับโอกาส ได้รับการสนับสนุนมาก่อน ธันย่าตระหนักถึงการพัฒนาโอกาสที่ได้รับ จึงเข้าใจดีว่าการได้รับโอกาสเป็นสิ่งสำคัญ ธันย่าเองไม่ใช่คนเก่งอะไร แต่เราได้รักษาโอกาสให้แสดงความสามารถจนประสบความสำเร็จ ธันย่าจึงอยากมีส่วนในการมอบโอกาสให้ผู้อื่นด้วยเช่นกัน การได้ช่วยเหลือคนอื่นทำให้เราอนุญาตให้ตัวเองมีความสุข สุขที่เห็นแววตาที่เป็นประกายของผู้รับ เราก็มีความปีติไปด้วยเช่นกัน”
ท้ายที่สุดในฐานะพุทธศาสนิกชนคนหนึ่ง ธันย่า บอกว่า อยากเห็นผู้คนในประเทศไทยและผู้คนในโลกมีรอยยิ้มให้กันมากขึ้น อยากให้ใจดีและใจเย็นต่อเพื่อนมนุษย์เรียนรู้ซึ่งกันและกัน สร้างแนวคิดแบบมีส่วนร่วม เพื่อป้องกันความขัดแย้ง ก่อนนำไปสู่ความรุนแรง
“ธันย่ารู้สึกว่าวันนี้ความสุขและรอยยิ้มหายไป ประเทศไทยเป็นที่เลื่องลือในหมู่ชาวต่างชาติว่าเป็น “Land of smiles” เป็น “ประเทศแห่งรอยยิ้ม” ซึ่งการที่คนคนหนึ่งจะยิ้มได้ ต้องมีความสุขจากข้างใน หรือ Inner Peace ธันย่าเชื่อมั่นว่าศาสนาจะมีส่วนช่วยให้ผู้คนกลับมายิ้มได้ ไม่ว่าคุณจะนับถือศาสนาอะไรก็ตาม เพราะทุกศาสนาสอนให้ทุกคนทำดี ปฏิบัติดีต่อกัน มีความเอื้ออารีมีเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์แบบมีส่วนร่วม สิ่งเหล่านี้จะนำเราไปสู่ความสันติสุขได้ และทำให้เรายิ้มให้กันได้มากขึ้น”
และนี่คือ ความสุขอันประณีต หลักการดำเนินชีวิตของ ธันยลักษณ์ พรหมมณี สุขที่คิดเพื่อให้โดยแท้จริง แบบไม่มีเงื่อนไข สุขที่เข้าใจทุกข์ของเพื่อนมนุษย์โดยถ่องแท้ สุขที่เกิดจากการลงมือทำด้วยใจบริสุทธิ์ เกิดเป็นสุขประณีตในใจของผู้หญิงคนหนึ่งที่มีจิตใจเพื่อส่วนรวมสู่สันติภาพสากล
ในโอกาสนี้ทีมข่าว “แนวหน้า วาไรตี้” ขอแสดงความยินดีกับ “ธันย่า - ธันยลักษณ์ พรหมมณี”ในโอกาสได้รับโล่เชิดชูเกียรติ ประเภทบุคคลผู้ให้การสนับสนุนหลักสูตรสันติศึกษา จาก ศ.ดร.พระเมธีวัชรบัณฑิต ผู้อำนวยการวิทยาลัยพุทธศาสตร์นานาชาติและผู้อำนวยการหลักสูตรสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ในงาน วันสันติภาพสากล เมื่อช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี