ทุเรียนเมืองนนท์มีรสชาติที่ไม่เหมือนทุเรียนจากพื้นที่อื่นๆของไทย เพราะดินเมืองนนท์ น้ำเมืองนนท์ และอากาศในเมืองนนท์ มีความแตกต่างจากพื้นที่อื่น จึงทำให้ทุเรียนนนท์มีความแตกต่างจากทุเรียนของเมืองอื่นๆ แล้วที่สำคัญคือมีน้อยลงทุกปี เพราะฉะนั้นต่อให้มีเงินก็ใช่ว่าจะหาซื้อได้ทุกคน
ไลฟ์ วาไรตี สัปดาห์นี้ ดร.เฉลิมชัย ยอดมาลัย นำคุณไปสนทนากับชาวสวนทุเรียน จังหวัดนนทบุรี คุณหนึ่งฤทัย สังข์รุ่ง ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 6 ต.ไทรม้า ถึงความโดดเด่นของรสชาติทุเรียนเมืองนนท์แท้ๆ รวมถึงผลไม้ต่างๆ ที่มีให้รับประทานได้ตลอดปี
● เรียนถามครับ ปกติทุเรียนเมืองนนท์จะออกมาให้ได้รับประทานกันในช่วงเดือนไหนมากที่สุดครับ
คุณหนึ่งฤทัย : ช่วงกลางเดือนเมษายนค่ะ โดยทุเรียนจะแก่จัดในช่วงเมษายนถึงมิถุนายน ก็ประมาณ 3 เดือนเท่านั้นค่ะ ดังนั้น ในช่วงเวลานี้จึงเรียกว่าช่วงของทุเรียนนนท์ ซึ่งจะแตกต่างจากการให้ผลของทุเรียนจากจันทบุรี ระยอง รวมถึงทุเรียนจากภาคใต้ค่ะ คนที่จะได้รับประทานทุเรียนนนท์ โดยเฉพาะก้านยาว จึงต้องจองตั้งแต่ทุเรียนออกดอก หากไม่ได้จองแล้ว โอกาสที่จะได้รับประทานก็จะน้อยมาก เพราะทุเรียนก้านยาวของนนท์มีจำนวนไม่มากนัก ยิ่งปัจจุบ้นสวนทุเรียนในนนท์เหลือน้อยลงก็ยิ่งทำให้ผลผลิตน้อยลงไปเรื่อยๆ
● ในแต่ละปี ทุเรียนเมืองนนท์ มีมากแค่ไหนครับ ช่วยประมาณให้ทราบด้วยครับ
คุณหนึ่งฤทัย : เอาแค่เฉพาะในเขตหมู่ 6 ไทรม้านะคะ ก็มีประมาณ 2,500 ลูกค่ะ ส่วนสวนทุเรียนในพื้นที่อื่นๆ ในนนท์ก็มีไม่มากนักเพราะสวนทุเรียนเหลือน้อยลงมากในปัจจุบัน
● ทุเรียน 2,500 ผลในไทรม้า ถือว่ามีจำนวนมากหรือน้อยเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาครับ
คุณหนึ่งฤทัย : ก็ถือว่าปีนี้ให้ผลเยอะมากกว่าปีที่แล้วนะคะ นี่คิดเพียงเฉพาะเขตหมู่ 6 ไทรม้าเท่านั้นนะคะ ต้องบอกว่าปีนี้ทุเรียนให้ผลมากน่าพอใจค่ะ
● พื้นที่สวนทุเรียนในไทรม้ามีประมาณกี่ไร่ครับ
คุณหนึ่งฤทัย : ปัจจุบันเหลือเพียง 82 ไร่เท่านั้นค่ะ ลดลงไปเยอะมากเพราะพื้นที่สวนถูกขายไปทำบ้านจัดสรรเยอะมาก ชาวสวนทุเรียนก็เหลือน้อยลง บางสวนไม่มีใครรับหน้าที่ดูแลต่อ เพราะคนรุ่นใหม่บางคนไม่ทำอาชีพชาวสวนทุเรียนแล้ว เขาบอกว่ามันเหนื่อยมาก ดูแลทุเรียนยากมากด้วย ทำงานอื่นสบายกว่า ได้เงินมากกว่า
● เมื่อสักครู่บอกว่าปีนี้ไทรม้ามีทุเรียนมากกว่าปีก่อน แล้วถ้าหากในปีที่ทุเรียนออกผลน้อยๆ จะมีประมาณสักกี่ผลครับ
คุณหนึ่งฤทัย : ถ้าออกลูกน้อยก็จะเหลือแค่หลักร้อยเท่านั้นค่ะ
● สาเหตุอะไรทำให้ปีนี้ทุเรียนในไทรม้า ออกผลมากครับ
คุณหนึ่งฤทัย : เพราะว่าอากาศช่วงปลายปี 2565 ค่อนข้างดีเอื้อต่อการออกดอกออกผลของทุเรียน ทำให้ทุเรียนที่เริ่มให้ผลในปีนี้ออกมาค่อนข้างเยอะ และผลก็ติดดี ไม่ร่วงหล่นไปมากเหมือนในปีที่อากาศไม่ค่อยเอื้ออำนวย จะเห็นได้ว่าช่วงปลายปีที่แล้วนั้น อากาศเย็นกว่าปีก่อนแล้วช่วงฤดูฝนก็มีฝนที่มากกว่าปีก่อน ทำให้เป็นผลดีต่อการติดดอกออกผลของทุเรียนค่ะ
● แสดงว่าปีนี้ต้นทุเรียนที่เพิ่งให้ผลเป็นปีแรกก็ให้ผลดกด้วยใช่ไหมครับ
คุณหนึ่งฤทัย : ก็ให้ผลดีพอประมาณค่ะ เมื่อไปรวมกับผลจากต้นเก่าที่ให้ผลมาประมาณ 3-4 ปีแล้ว ก็นับว่าให้ผลโดยรวมมากกว่าปีก่อนประกอบกับในเขตไทรม้านั้น เราพยายามรณรงค์ให้ชาวสวนทุเรียนเก็บรักษาสวนไว้ เพื่อให้ทุเรียนไทรม้าคงอยู่ต่อไป แล้วเราก็ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานการปกครองในชุมชน โดยเฉพาะการอนุรักษ์สวนทุเรียนนนท์ และทุเรียนนนท์พันธุ์แท้ เช่น ก้านยาวแท้ของนนท์ ชาวสวนบางกลุ่มก็ให้การสนับสนุนและเข้าร่วมโครงการกับเรา ก็ทำให้น่าจะเชื่อได้ว่าทุเรียนนนท์จะไม่หมดไปจากเมืองนนท์
● ผมสังเกตเห็นว่าเปลือกทุเรียนสองผลนี้หนาบางต่างกันค่อนข้างมาก ช่วยอธิบายให้ทราบว่าทำไมผลนี้เปลือกหนามากกว่าอีกผลหนึ่งครับ
คุณหนึ่งฤทัย : ต้นทุเรียนที่เพิ่งออกผลครั้งแรก ชาวสวนเรียนว่าทุเรียนสอนเป็น ดังนั้นเปลือกจึงจะหนากว่าทุเรียนที่ให้ผลมาแล้ว 3-4 ปีทุเรียนสอนเป็นคือทุเรียนสาว ผลที่ออกมานั้นจะมีเปลือกหนา และรสชาติของเนื้อทุเรียนจะไม่จัดเท่ากับทุเรียนที่ออกผลมาแล้ว 3 ปีขึ้นไป โดยทุเรียนที่ให้ผลมานานกว่าจะมีรสชาติจัดกว่าทุเรียนสาว และสีของเนื้อทุเรียนก็จะต่างกัน ทุเรียนสอนเป็นจะมีสีของเนื้อทุเรียนอ่อนกว่าทุเรียนที่ให้ผลมานานกว่า สรุปคือทุเรียนที่ให้ผลมาแล้ว 3-4 ปี จะมีเปลือกบางกว่าและรสชาติของเนื้อทุเรียนก็จะจัดกว่า หวานมันกว่า และสีของเนื้อทุเรียนจะเหลืองจัดกว่า ดังนั้นราคาทุเรียนสองชนิดนี้จึงต่างกัน ทุเรียนสาวราคาจะถูกกว่าทุเรียนต้นเก่าค่ะ
● ราคาต่างกันมากไหมครับ
คุณหนึ่งฤทัย : ราคาที่หน้าสวนต่างกันค่ะ เพราะชาวสวนจะเน้นคุณภาพของทุเรียนมาก ไม่อยากให้เสียชื่อ ดังนั้น เมื่อซื้อกับชาวสวนโดยตรง เขาจะบอกเลยว่าผลไหนคือทุเรียนสอนเป็น และผลไหนคือทุเรียนต้นที่ออกผลมาแล้ว 3-4 ปี สำหรับทุเรียนสอนเป็นจะมีราคาถูกกว่ากิโลกรัมละประมาณ 100-200 บาท เพราะว่ามีเปลือกหนากว่า และรสชาติยังไม่จัดเท่าทุเรียนจากต้นเก่า
● ราคาทุเรียนที่ขายในปีนี้ ตกกิโลกรัมละกี่บาทครับ
คุณหนึ่งฤทัย : ราคากิโลกรัมละ 1,200 บาทค่ะ สำหรับหมอนทองนะคะ พันธุ์อื่นๆ ก็ราคาแตกต่างกันไป แต่หากเป็นก้านยาวจะแพงมากที่สุด คือราคาประมาณ 5 พันบาทต่อกิโลกรัม
● ราคานี้เป็นของพันธ์ุไหนครับ หมอนทอง ใช่ไหมครับ เพราะได้ข่าวว่าก้านยาวมีราคาแพงกว่านี้มาก
คุณหนึ่งฤทัย : เป็นราคาของหมอนทองกับพันธุ์อื่นๆ ค่ะ ส่วนก้านยาวจะแพงกว่า ขายกันที่ราคากิโลกรัมละ 5 พันบาทเป็นอย่างน้อย ราคาของก้านยาวจะขึ้นอยู่กับจำนวนปริมาณของผลทุเรียนในแต่ละปีด้วย แต่ก็ไม่ต่ำกว่า 5 พันบาทต่อกิโลกรัมแน่ๆ ค่ะ เพราะก้านยาวในนนท์นั้นเหลือน้อยมาก และผลผลิตในแต่ละปีก็ไม่มากมายนัก ราคาจึงสูงกว่าพันธุ์อื่น ๆ
● ชาวสวนทุเรียนเมืองนนท์รวมตัวกันเป็นกลุ่มเป็นก้อนแน่นแฟ้นแค่ไหนครับ หรือแต่ละชุมชนก็จะขายสินค้าของตัวเองเท่านั้น
คุณหนึ่งฤทัย : เราพยายามเชิญชวนให้ชาวสวนทุเรียนนนท์มารวมตัวกัน แล้วมาร่วมกันคิด ร่วมกันผลักดันให้ทุเรียนเมืองนนท์มีพัฒนาการที่ดีขึ้น เราพยายามเรียกร้องให้ชาวสวนทุเรียนไม่ทิ้งอาชีพ และให้มีลูกหลานสืบสานอาชีพต่อไป เพราะเราต้องการให้ทุเรียนนนท์อยู่คู่กับเมืองนนท์ตลอดไป เพราะทุเรียนของนนท์มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัด ตัวอย่างที่เห็นชัดในปีนี้คือ เราชาวสวนทุเรียนนนท์จากพื้นที่ต่างๆ เช่น บางใหญ่ บางรักน้อย บางกร่าง มารวมตัวกันจัดงานทุเรียนเมืองนนท์ ที่วัดบางนา โดยได้รับความเมตตาจากท่านเจ้าอาวาส ท่านให้ใช้พื้นที่วัดเพื่อจัดงาน นอกจากชาวสวนทุเรียนจะนำผลผลิตของสวนมาจำหน่ายในราคาที่ย่อมเยาแล้ว ยังมีผลไม้อื่นๆ ของจังหวัดนนท์มาออกร้านค้าขายด้วย ถือว่าเป็นการรวมตัวของชาวสวนผลไม้ในเขตจังหวัดนนท์ที่น่าสนับสนุนให้ทำกิจกรรมแบบนี้ต่อไปทุกๆ ปีค่ะ เพราะชาวสวนผลไม้ ได้มีโอกาสมาพบเจอกัน นำของมาขาย แล้วได้ขายโดยตรงกับลูกค้า โดยไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลาง ทำให้สามารถขายสินค้าได้ในราคาที่ถูกกว่าซื้อหาตามท้องตลาดทั่วไป หรือในห้างสรรพสินค้า
● มีคำถามว่า หากต้องการจะได้รับประทานทุเรียนก้านยาวแท้ๆ ของเมืองนนท์ ต้องทำอย่างไรครับ เพราะไม่สามารถหาซื้อได้จากท้องตลาดทั่วไป
คุณหนึ่งฤทัย : ต้องจองโดยตรงกับเจ้าของสวนทุเรียนค่ะ โดยไปจองเมื่อถึงช่วงที่ทุเรียนออกดอก เมื่อชาวสวนเห็นว่าทุเรียนออกดอกก็จะเปิดให้จอง โดยต้องจองตั้งแต่ช่วงต้นฤดูที่ทุเรียนผลิดอก แล้วก็จะยืนยันการจองกันอีกทีเมื่อทุเรียนเริ่มติดผล ส้วนใหญ่จะเปิดให้จองในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ บางสวนเปิดให้จองโดยผ่านเว็บไซต์ของสวนบางสวนต้องไปจองโดยตรงที่สวน จองแล้วถ่ายรูปเป็นหลักฐานกับต้นที่จองเลยนะคะ หากสนใจจะจองผลทุเรียนของนนท์ โดยเฉพาะก้านยาวนนท์ สามารถเข้าไปดูในเว็บไซต์กลุ่มอนุรักษ์ทุเรียนนนท์ หมู่ 6 ไทรม้าได้ค่ะ
● เปลี่ยนประเด็นไปคุยเรื่องการดูแลทุเรียนครับ ดูแลยากมากแค่ไหนครับ ต้องดูแลอย่างไรบ้างครับ บางคนซื้อต้นทุเรียนไปปลูกแล้ว แต่ปรากฏว่าไม่รอด บางคนซื้อไป 10 ต้น ปรากฏว่าไม่รอดสักต้นครับ
คุณหนึ่งฤทัย : การดูแลต้นทุเรียนนั้น จะว่ายากก็ยาก จะว่าง่ายก็ง่ายนะคะ ก่อนอื่นต้องรู้จักนิสัยของเขาค่ะ คนที่รู้ถึงหลักการเลี้ยงดูต้นทุเรียนได้ถูกวิธีก็จะได้กินผลทุเรียนแน่นอนค่ะ แต่หากดูแลผิดวิธีก็มักจะปลูกแล้วไม่รอด การปลูกทุเรียนต้องใส่ใจมาก ต้องดูแลเป็นพิเศษ ต้องให้ใจกับเขาเป็นอันดับหนึ่ง เพราะทุเรียนนั้นปลูกให้เติบโตดีๆ นั้น นับว่าเป็นเรื่องค่อนข้างยาก ต้องประคบประหงมเขาดีๆ และต้องปลูกให้ถูกวิธีด้วย ต้องดูว่าดินที่ปลูกเป็นดินอะไร อยู่ในพื้นที่เขตไหน ดินเหนียวมากเกินไปหรือไม่ การปลูกทุเรียนให้ดี ต้องยกเนินดินขึ้นมา เพราะทุเรียนไม่ชอบน้ำขัง หากเจอน้ำขังก็ไปไม่รอด เพราะฉะนั้น ใครที่ปลูกทุเรียนโดยขุดหลุม ส่วนมากไม่รอดสักราย เพราะน้ำขังรากเน่า จึงต้องทำเป็นเนินดินก่อนปลูก ต้นทุเรียนมีนิสัยชอบที่ชื้น แต่ไม่ชอบที่แฉะ ไม่ชอบที่น้ำขังแน่นอน ชอบที่โปร่งโล่งเย็นสบาย ไม่ชอบอากาศร้อนจัดๆ ฉะนั้น ต้นทุเรียนจะยืนอยู่เดี่ยวๆ ในช่วงที่เขายังเป็นเด็กไม่ได้ ต้องมีพื้นอื่นบังร่มบังเงาให้บ้าง จนเมื่อเขาโตได้ที่แล้ว ก็ค่อยเอาต้นไม้ที่บังเงาให้เขาออกไปต้นไม้บังเงาให้ทุเรียนในยามที่เขายังไม่โตเต็มที่คือพวกทองหลาง มังคุด เป็นต้น
● พูดถึงไม้บังเงาให้ทุเรียน แล้วกล่าวไปถึงมังคุด แสดงว่าเมืองนนท์ก็มีมังคุดด้วยใช่ไหมครับ
คุณหนึ่งฤทัย : ต้องบอกตรงๆ ว่าเมืองนนท์มีผลไม้หลากหลายมาก มีให้รับประทานตลอดปี โดยแต่ละหน้า แต่ละฤดูก็จะมีผลไม้ต่างๆ ออกผลให้รับประทาน เช่น กระท้อน มะม่วงพื้นเมืองพันธุ์ยายกล่ำ ส้มโอ กล้วย ชมพู่มะเหมี่ยว มะเฟือง มะยงชิด มังคุด เป็นต้น สำหรับมะม่วงพันธุ์ยายกล่ำนั้น เราขึ้นทะเบียน GI เป็นผลไม้ประจำถิ่นของนนท์ไปแล้วค่ะความพิเศษของมะม่วงชนิดนี้คือ เมื่อสุกแล้วมีความหอมมาก เนื้อมะม่วงเนียนไม่มีเสี้ยน ชาวนนท์จะกินมะม่วงพันธ์ุนี้โดยใช้มีดเฉือนลงไปจนถึงติดเมล็ดมะม่วง แล้วใช้ช้อนตักเนื้อขึ้นมารับประทาน เนื้อเนียน หอม อร่อยมาก ส่วนทุเรียนนนท์จะมีหลายหลากพันธุ์ ทั้งพันธุ์เบาและพันธุ์หนัก พันธุ์เบาก็เช่น กระดุม เม็ดในยายปราง ชะนี และตระกูลกบทั้งหลาย แล้วก็พันธุ์หนักก็ได้แก่ ก้านยาว หมอนทอง ค่ะ ปัจจุบันหลายพื้นที่ในเขตเมืองนนท์เป็นพื้นที่สีเขียว ไม่อนุญาตให้สร้างโรงงาน ดังนั้น จึงยังมีเขตการเกษตรอีกพอสมควร เราจะพยายามเชิญชวนให้ชาวสวนผลไม้เมืองนนท์ทำอาชีพชาวสวนต่อไป เพื่อรักษาเอกลักษณ์ของผลไม้เมืองนนท์เอาไว้ให้นานตราบนาน
● ที่เมืองนนท์มีปัญหาคนจีนเข้ามาเหมาสวนทุเรียนไหมครับ
คุณหนึ่งฤทัย : ไม่มีค่ะ เราพยายามไม่ให้เกิดการเหมาสวนค่ะ แล้วชาวสวนทุเรียนนนท์ก็ไม่ยินยอมค่ะ เราต้องการควบคุมคุณภาพผลไม้โดยเฉพาะทุเรียนนนท์ให้ดีที่สุด เราจึงดูแลเอง ขายเองค่ะ ไม่ให้เกิดการเหมาสวนค่ะ
● ได้ข่าวว่าจีนปลูกทุเรียนในประเทศของเขามากขึ้น เรื่องนี้เป็นกังวลต่อชาวสวนเมืองนนท์ไหมครับ
คุณหนึ่งฤทัย : ก็ได้ยินข่าวนะคะ แต่เราก็มั่นใจว่าดินของเมืองนนท์แตกต่างจากดินของเมืองจีน ดังนั้นทุเรียนนนท์ก็ต้องปลูกที่เมืองนนท์ ใครจะนำทุเรียนนนท์ไปปลูก ก็คงไม่ให้ผลผลิตเหมือนกับทุเรียนในเมืองนนท์แต่เราก็ต้องพัฒนาผลผลิตของเราให้ดียิ่งๆ ขึ้นไปทุกปีค่ะ เราต้องพัฒนาตนเอง และพัฒนาสินค้าของเราให้ดีให้อยู่คู่เมืองนนท์ ทุเรียนนนท์จะออกผลไม่ตรงกับทุเรียนของเมืองอื่นๆ ในไทย ทุเรียนนนท์จะออกผลช้ากว่า และสวนทุเรียนเมืองนนท์ยังเป็นสวน ไม่ใช่ไร่ ผิดกับที่จังหวัดอื่นๆ ที่เป็นไร่ ทุเรียนนนท์ยังปลูกบนท้องร่อง มีคูน้ำอยู่ติดกับร่องที่ปลูก วิถีการทำสวนทุเรียนเมืองนนท์ในวันนี้ ยังคงไม่ต่างไปจากรุ่นพ่อแม่ปู่ย่าตายายมากนัก เรายังมีการใช้แครงตักน้ำจากคูแล้วรดต้นทุเรียน ซึ่งจะต่างจากไร่ทุเรียน เพราะไร่จะไม่มีคูน้ำและการยกร่องปลูกทุเรียน
● ก่อนจะลากันในวันนี้ รบกวนถามถึงการจองทุเรียนก้านยาวอีกครั้งครับ ทำอย่างไรจึงจะจองได้ครับ
คุณหนึ่งฤทัย : สามารถจองได้โดยตรงที่สวน เมื่อถึงวันกำหนดเปิดให้จอง หรือดูจากเว็บไซต์ของสวนทุเรียนเมืองนนท์ได้ จองก่อนได้ก่อนไม่มีการลัดคิว หรือแซงคิวค่ะ เราให้บริการเสมอเหมือนกันทุกคน ไม่มีการใช้อภิสิทธิ์ ย้ำว่าจองก่อน ได้รับประทานก่อน ต้องรีบจองนะคะ ของดีมีจำนวนจำกัดค่ะ ชาวสวนจะคัดทุเรียนคุณภาพให้เท่านั้นค่ะ บางที่ทุเรียนหนึ่งต้นมีผลที่มีคุณภาพดีจริงๆ ไม่กี่ผล เช่น 4-5 ผลเท่านั้น ชาวสวนจะพิถีพิถันเลือกของดีให้ลูกค้าเท่านั้น ของไม่ได้ ไม่ให้ลูกค้าเด็ดขาดค่ะ เราชาวสวนทุเรียนนนท์ต่างช่วยกันเก็บรักษาสวนทุเรียนของบรรพบุรุษของเราไว้ และพยายามชักชวนให้ลูกหลานเห็นคุณค่าของสวนทุเรียนเมืองนนท์ อยากให้ลูกหลานช่วยกันเก็บรักษาสมบัตินี้ไว้ แล้วช่วยกันพัฒนาให้ทุเรียนนนท์มีคุณภาพดียิ่งๆ ขึ้นไป เมื่อเรามีของดีแล้ว เราต้องรักษาและทำนุบำรุงให้ดีมากๆ ขึ้นไปเรื่อยๆ มีคนบอกว่าทุเรียนเมืองนนท์แพงยิ่งกว่าทอง ซึ่งเราเห็นแล้วว่าเป็นความจริง เราจึงต้องช่วยกันรักษาไว้ให้อยู่คู่กับเมืองนนท์
คุณสามารถรับชมรายการไลฟ์ วาไรตีรายการที่ให้ทั้งสาระและความรู้ ออกอากาศทุกวันเสาร์ เวลา 14.05-14.30 น. ทางโทรทัศน์ NBT ช่องหมายเลข 2 และชมรายการย้อนหลังได้ที่ YouTube ไลฟ์ วาไรตี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี