ศ.พญ.ธันยวีร์ ภูธนกิจ
ศ.พญ.ธันยวีร์ ภูธนกิจ ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ได้รับการประกาศเกียรติคุณจาก สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ให้ได้รับรางวัลนักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ ประจำปี 2567 ในสาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์ จากผลงานวิจัยที่อาจารย์ทุ่มเทศึกษาอย่างต่อเนื่องเป็นองค์ความรู้ใหม่ด้านคลินิกเกี่ยวกับการดูแล รักษา และป้องกันการติดเชื้อไวรัสเอชไอวีในเด็กและเยาวชน
ศ.พญ.ธันยวีร์ เผยว่า รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับรางวัลนักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ สาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์ สิ่งสำคัญกว่ารางวัลที่ได้รับก็คือการทำให้เรื่องราวเกี่ยวกับโรคเอดส์ที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสเอชไอวี (HIV - Human Immunodeficiency Virus) ได้รับการเผยแพร่เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบข้อมูลที่ทันสมัยและตระหนักรู้ว่า การติดเชื้อเอชไอวีในปัจจุบันมีแนวทางในป้องกัน และรักษาที่ก้าวหน้าไปอย่างมาก โดยหวังว่าจะช่วยทำให้คนทั่วไปได้เข้าใจและรับทราบว่า ปัจจุบันผู้อยู่ร่วมกับเชื้อเอชไอวี เมื่อได้รับการรักษาที่ถูกต้องด้วยยาต้านไวรัส จะไม่เจ็บป่วยเป็นโรคเอดส์ ไม่สามารถแพร่เชื้อไวรัสให้กับคนอื่นๆ รวมถึงมีสุขภาพดี ไปโรงเรียน ทำงาน มีครอบครัวมีบุตร อายุยืนยาวได้ เมื่อ
เข้าใจและยอมรับในประเด็นนี้แล้ว หวังว่าการตีตราหรือเลือกปฏิบัติต่อผู้อยู่ร่วมกับเชื้อเอชไอวีในสังคม จะลดลงได้
“องค์ความรู้ในปัจจุบัน อย่างเช่น เด็กอยู่ร่วมกับเชื้อเอชไอวี เมื่อได้ทานยาต้านไวรัส สามารถควบคุมไวรัสในร่างกายได้ภายในระยะเวลา
6 เดือนหลังเริ่มยา หลังจากนั้นยังต้องกินยาต้านไวรัสต่อเนื่องทุกวันเพื่อควบคุมไวรัสไว้ ไม่ให้มาทำลายเซลล์ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย เด็กที่อยู่ร่วมกับเชื้อเอชไอวีตั้งแต่วัยทารก สามารถเติบโตเป็นผู้ใหญ่ มีครอบครัวได้ โดยไม่ส่งต่อเชื้อให้คู่สามีภรรยาหรือบุตร”
ศ.พญ.ธันยวีร์ เล่าย้อนไปถึงช่วงปี พ.ศ.2539-2545 ที่อาจารย์เริ่มเรียนด้านกุมารแพทย์และเริ่มสนใจทำงานวิจัยเกี่ยวกับการป้องกันและรักษาเด็กและเยาวชนที่อยู่ร่วมกับเชื้อเอชไอวี ณ ช่วงเวลานั้น การติดเชื้อเอชไอวี ถือเป็นโรคที่รุนแรง เนื่องจากยังไม่มียารักษา ผู้ป่วยเสียชีวิตในเวลาอันสั้น จากโรคติดเชื้อฉวยโอกาสที่เกิดตามหลังภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง เวลานั้นประเทศไทยมีเด็กที่ติดเชื้อเอชไอวีจำนวนมาก โดยเฉพาะเด็กทารกที่ได้รับเชื้อจากแม่สู่ลูกรายใหม่ ปีละหลายพันคน จึงได้มาทำการศึกษาวิจัยทางคลินิก กล่าวคือ การนำความรู้จากงานวิจัยพื้นฐานด้านไวรัสวิทยาภูมิคุ้มกันวิทยา เภสัชวิทยา และระบาดวิทยามาต่อยอดทำงานวิจัย นำยาต้านไวรัสสูตรต่างๆ มาประยุกต์ใช้ในการรักษาเด็กอยู่ร่วมกับเอชไอวีในประเทศไทย โดยมีแรงบันดาลใจจากการร่วมงานวิจัยกับเครือข่ายนักวิจัยใน สหรัฐอเมริกาและกลุ่มประเทศแถบยุโรป ที่มีการวิจัยพัฒนาที่ก้าวหน้า รวมทั้งได้ทำวิจัยร่วมกับองค์การเภสัชกรรม โดยการใช้ยาต้านไวรัสที่ผลิตได้เองในประเทศไทย ทำให้เด็กอยู่ร่วมกับเชื้อเอชไอวี สามารถเข้าถึงยาได้ทั่วประเทศ รวมทั้งพัฒนาสูตรยาต้านไวรัส จากที่ต้องรับประทานวันละหลายครั้ง หลายเม็ด จนในปัจจุบันเป็นยาต้านไวรัสเม็ดรวม รับประทานวันละครั้ง ทำให้สามารถใช้ได้ง่าย ประสิทธิภาพดี สามารถใช้ได้กับเด็กในไทยและประเทศกำลังพัฒนาอื่นๆ ได้สะดวกยิ่งขึ้น
“เด็กอยู่ร่วมกับเชื้อเอชไอวี หลายคน ที่หมอดูแลมาตั้งแต่เล็ก ตอนนี้อายุ 30 กว่าแล้ว บางคนทำงาน บางคนมีครอบครัวมีลูก เป็นความ
ภาคภูมิใจที่เรามีส่วนช่วยวิจัยพัฒนายาต้านไวรัสและแนวทางการรักษาใหม่ๆ ทำให้โรคที่เราเคยคิดว่ารักษาไม่ได้ เคยเป็นที่รังเกียจ ปัจจุบันสามารถรักษาได้ และเด็กสามารถเติบโตขึ้นมาเป็นเยาวชนที่มีอนาคตที่ดีได้”
การรักษาที่ ศ.พญ.ธันยวีร์ ได้ร่วมวิจัยพัฒนาและเก็บรวบรวมข้อมูลกับเครือข่ายทีมวิจัยต่างๆ นอกจากจะได้รับการนำไปใช้ในแนวทางการรักษาเด็กในประเทศไทยแล้ว สูตรยาต่างๆ ที่อาจารย์ได้ทำการวิจัยพัฒนาร่วมกับหน่วยงานต่างๆ มาอย่างต่อเนื่องและยาวนาน ยังได้รับการยอมรับจากองค์การอนามัยโลก(WHO) และนำไปใช้ในประเทศอื่นๆด้วย สอดคล้องกับเป้าหมายระดับนานาชาติเรื่องของการยุติโรคเอดส์ซึ่ง ตั้งเป้าไว้ในปี พ.ศ.2573 ว่า ผู้ได้รับเชื้อเอชไอวีรายใหม่จะต้องน้อยลงผู้ที่อยู่ร่วมกับเชื้อเอชไอวีก็จะมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และอัตราเสียชีวิตจะต่ำลงไปอีกมาก
“อีกเรื่องที่สำคัญคือเรื่องของการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีในสมัยก่อน หากหญิงตั้งครรภ์อยู่ร่วมกับเชื้อเอชไอวี โอกาสที่ลูกจะได้รับเชื้อด้วยนั้นมีสูงถึงร้อยละ 25-30 แต่ปัจจุบันการรักษาด้วยยาต้านไวรัสให้กับหญิงตั้งครรภ์ ทำให้โอกาสที่ลูกจะได้รับเชื้อด้วย ต่ำกว่าร้อยละ 1 เท่านั้น ซึ่งเป็นข้อมูลที่อยากเผยแพร่ให้ทราบกันในภาคประชาสังคม เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องต่อครอบครัวของผู้อยู่ร่วมกับเชื้อเอชไอวี เพื่อให้สามารถอยู่ร่วมกับคนในสังคมได้ไม่แตกต่างจากผู้ป่วยจากโรคอื่นๆ ลดการตีตราและเลือกปฏิบัติ” ศ.พญ.ธันยวีร์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี