หลายคนที่ได้ไปชมโขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ซึ่งจัดแสดงเป็นประจำทุกปี (ยกเว้นในบางปีที่งดการแสดงเนื่องจากมีเหตุจำเป็น) โดยแสดงมาเกือบ 20 ปีแล้ว และการแสดงโขนรามเกียรติ์ ตอนล่าสุดคือกุมภกรรณทดน้ำ ซึ่งเพิ่งลาโรงไปเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม
เมื่อกระแสความนิยมชมโขนรามเกียรติ์เฟื่องฟูขึ้นในสังคมไทย เนื่องมาจากพระมหากรุณาธิคุณในสมเด็จพระพันปีหลวง ก็ทำให้เกิดความตื่นตัวด้านการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมและการแสดงนาฏศิลป์ชั้นสูงอีกชนิดหนึ่งตามมา นั่นคือ หนังใหญ่
มีคำกล่าวว่าโขนในราชสำนักนั้นมีต้นกำเนิดมาจากการแสดงหนังใหญ่ เพราะหนังใหญ่ถือเป็นมหรสพหลวงชนิดหนึ่งที่มีหลักฐานว่าแสดงในราชสำนักกรุงศรีอยุธยามาตั้งแต่สมัยพระเจ้าอู่ทองแล้วสืบต่อมาจนถึงสมัยกรุงธนบุรี และกรุงรัตนโกสินทร์ โดยในสมัยสมเด็จพระเจ้าอู่ทอง ปรากฏหลักฐานเรื่องหนังใหญ่อยู่ในกฎมณเฑียรบาล และในการสมโภชช้างเผือก แล้วมีการแสดงสืบต่อเรื่อยมาแล้วก็ยังมีหลักฐานว่าในรัชกาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เล่นหนังใหญ่เพื่อฉลองการรับพระแก้วมรกต ครั้งมาถึงยุคกรุงรัตนโกสินทร์ ก็มีหลักฐานการแสดงหนังใหญ่ปรากฏตั้งแต่ครั้งรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช
โดยแรกเริ่มนั้นหนังใหญ่แสดงในราชสำนัก เพราะเป็นมหรสพหลวง แต่ในกาลต่อมาได้แพร่หลายไปยังนอกวัง แล้วชาวบ้านที่มีความรู้ในการแสดงหนังใหญ่ก็นำไปแสดงเป็นมหรสพพื้นบ้าน ดังมีหลักฐานว่าในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีการสร้างตัวหนังใหญ่ และเล่นหนังใหญ่ที่วัดขนอน ราชบุรี แต่ก็พบหลักฐานว่าในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ก็มีหนังใหญ่ที่วัดพลับพลาชัย เพชรบุรี
ดังที่ได้กล่าวว่า ในสมัยโบราณนั้นหนังใหญ่คือมหรสพหลวง มักแสดงเรื่องรามเกียรติ์ โดยในการแสดงตอนสำคัญๆจะใช้ตัวหนังมากถึง 600 ตัว ตัวหนังใหญ่แบ่งเป็นสองชนิด คือหนังกลางวัน และหนังกลางคืน หนังกลางวัน ตัวหนังมีสีสันมากถึง 5 สี (เบญจรงค์) โดยสีทองใช้ทองคำเปลวปิดลงไป เชิดในเวลากลางวัน ส่วนหนังกลางคืน มีสีดำขาวเท่านั้น ใช้เชิดในเวลาค่ำ
ตัวหนังใหญ่จะแบ่งย่อยได้อีกคือ หนังเล็ก ขนาดสูงไม่เกิน 60 เซนติเมตร แสดงในโรงที่มีจอหนังกว้างไม่เกิน 4 เมตร ใช้แสดงในงานจุดดอกไม้ไฟ หรือระทา
ต่อมาคือตัวหนังกลาง ขนาดตั้งแต่ 90-130 เซนติเมตร มักมีประจำวัดและวังต่างๆ และสุดท้ายคือหนังใหญ่ฉบับหลวง จะทำตัวหนังใหญ่ที่สุดเท่าที่จะหาหนังวัว หนังควายมาทำได้ ใช้ประดับในวังหลวง ส่วนหนังใหญ่ของวังหลวงก็จะต่างจากวังหน้า เพราะมีอิสริยยศ อิสริยศักดิ์ไม่เท่าเทียมกัน
Mr.Flower ขอชวนเชิญคุณๆ ร่วมกันอนุรักษ์หนังใหญ่ และร่วมกันสนับสนุนให้หนังใหญ่อยู่คู่กับแผ่นดินไทยสืบต่อไป โดยการชวนคุณๆ ไปร่วมทริปชมและสนับสนุนหนังใหญ่ วัดขนอนในช่วงต้นปีใหม่ 2567 ที่กำลังจะมาถึงนี้โดยกำหนดไปชมหนังใหญ่วัดขนอนวันเสาร์ที่ 6 มกราคม 2567 หากคุณสนใจร่วมทริปอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทยโปรดติดต่อโทรศัพท์ หมายเลข091-7233615
ขอเชิญชวนร่วมกันอนุรักษ์มรดกวัฒนธรรมของไทยให้อยู่สืบต่อไป เพื่อเป็นมรดกของลูกหลานไทยในอนาคต
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี