ดื่มด่ำรสชาติความสำราญแบบจัดเต็ม กับ ‘Beer and Food Pairing Festival 2023’ อีเวนต์สุดยิ่งใหญ่ส่งท้ายปี ที่เปิดประสบการณ์การจับคู่เครื่องดื่มกับอาหารไทยอย่างไร้ขีดจํากัด ส่งท้ายด้วยศิลปินระดับตำนาน ‘แอ๊ด คาราบาว’ ที่ขับขานเพลงเพื่อชีวิต สร้างความประทับใจแบบไม่รู้ลืม
บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ กลุ่มคาราบาว จัดงาน Matichon Beer & Food Pairing Festival 2023 เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2566 เวลา 11.00 -15.30 น. ณ โรงเบียร์เยอรมันตะวันแดงพระราม 3 เพื่อร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลแห่งความสุขในช่วงปลายปี 2566
โดยได้เชิญเชฟระดับประเทศ ได้แก่ เชฟจารึก ศรีอรุณ อาจารย์ประจำหลักสูตรเทคโนโลยีการประกอบอาหารและการบริการ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต และ Top 5 TOP CHEF Thailand 2023 และ เชฟเป้ - ธีรนัย จินดานุภาจิตต์ (กุ๊กขี้เมา) ยูทูบเบอร์อาหารสายฮาชื่อดังของไทย และเจ้าของร้านอาหารกุ๊กขี้เมา มาร่วมรังสรรค์เมนูอาหารสุดเอ็กซ์คลูซีฟ จับคู่กับเบียร์ 4 รสชาติ ได้แก่ Weizen Beer (เบียร์ไวเซ่น), Lager Beer (เบียร์ลาเกอร์), Dunkel Beer (เบียร์ดุงเกล), และ Rose Beer (เบียร์โรเซ่) เพื่อเสริมความอร่อย ซึ่งกำลังเป็นเทรนด์ยอดนิยมในบ้านเรา หลังจากที่หลายคนมักคุ้นในการจับคู่เมนูอาหารกับไวน์กันมาแล้ว
เชฟจารึก เล่าว่า การ Pairing นับเป็นการเรียกให้ดูหรูหราขึ้นเท่านั้น ทว่าแท้จริงแล้วคือการกินคู่กัน โดยเฉพาะการจับคู่เบียร์กับอาหารไทย ทั้งการรับประทานกับเพื่อนฝูง อยู่ในร้านอาหาร หรือแม้แต่อยู่ในบ้าน เรียกได้ว่าเบียร์กับอาหารไทยเป็นอะไรที่เข้ากันได้ดี โดยเมนูที่เชฟจารึกนำมาเสนอในงานนี้ มีหลักการโดยเริ่มจากการเลือกเมนูอาหารก่อน ซึ่งอาหารไทยเป็นอาหารรสเผ็ดร้อนจากพริกและเข้มข้นจากเครื่องแกง ดังนั้น การจับคู่กับเบียร์จึงเหมาะสมที่สุด เพราะทำให้ดื่มแล้วลื่นคอ เสริมรสของอาหารให้ดีขึ้น
จากหลักการข้างต้น จึงเป็นที่มาของ เมนูปูไข่ดองน้ำปลากวน ปูดองตัวใหญ่ ราดด้วยน้ำยำที่ให้รสเผ็ดร้อนกลมกล่อม พร้อมชูรสสัมผัสอาหารทะเลได้อย่างแท้จริง เมื่อทานคู่กับ Weizen Beer (เบียร์ไวเซ่น) สีเหลืองทองสดชื่น จึงช่วยดึงรสเค็มและรสหวานจากอาหารทะเลออกมาได้เป็นอย่างดี ส่วน เมนูหอยท้ายเพลาต้มสุกกับเครื่องต้มยำ เสน่ห์ของจานนี้คือเป็นหอยที่หาทานได้เพียงปีละครั้ง และต้องสั่งตรงจากจังหวัดสตูลโดยเฉพาะ เสิร์ฟคู่กับ Rose Beer (เบียร์โรเซ่) ด้วยความหอมนุ่มนวลและความสดชื่นจากราสเบอร์รี่ ตัดกับรสชาติของอาหารทะเลได้อย่างลงตัว เป็นเมนูปิดท้ายของการ Pairing ระหว่างอาหารไทยกับเบียร์ในครั้งนี้
“เมื่อทานคู่กับอาหารไทยทั้ง 4 เมนู ไม่ว่าจะเป็นรสชาตินุ่มนวลหรือรสชาติเผ็ดร้อนจัดจ้าน บอกเลยว่ามันเข้ากันได้ดีทั้ง 2 รูปแบบ ซึ่งการที่เรามาวันนี้นับเป็นบทพิสูจน์ให้เห็นว่า อย่างน้อยจำนวนกลุ่มคนเล็กๆ ที่มาจะมีความคิดใหม่ว่า เบียร์เหมาะกับการทานคู่กับอาหารไทยมากที่สุด”
ด้าน เชฟเป้ - ธีรนัย จินดานุภาจิตต์ หรือ กุ๊กขี้เมา เล่าเสริมว่า การจับคู่ (Pairing) ของเบียร์กับอาหารไทยมีมานานและถือเป็นวัฒนธรรมไปแล้ว โดยเมนูที่นำเสนอในงานวันนี้นับเป็นอาหารง่ายๆ เริ่มด้วย เมนูไก่บ้านตุ๋นตะไคร้ ซึ่งนำไก่บ้านมาตุ๋นให้เนื้อสัมผัสนุ่มละลาย ตัดด้วยรสชาติเผ็ดของน้ำจิ้มกระเทียมดอง เสิร์ฟคู่กับ Lager Beer (เบียร์ลาเกอร์) ที่มีความนุ่ม ดื่มแล้วรู้สึกสดชื่น ถูกปากคนไทย พร้อมช่วยชูอาหารประเภทเนื้อให้เข้ากันได้ดี
ในส่วนของเมนูที่ 2 ที่เชฟเป้เป็นผู้รังสรรค์จะเข้มข้นมากขึ้น โดยเสิร์ฟ เมนูหมูฮ้องสูตรภูเก็ต สามชั้นชิ้นใหญ่ ตุ๋นกับเครื่องเทศจีน รสชาติกลมกล่อมอร่อย รสสัมผัสนุ่มละมุน ตัดกับน้ำจิ้มซีฟู้ด ยิ่งทานคู่กับ Dunkel Beer (เบียร์ดุงเกล) ที่หมักบ่มนาน 28 วัน จึงมีรสหวานเจือรสขมจางๆ ของมอลต์ที่คั่วจนหอม เหมาะกับอาหารประเภทเนื้อ หรือจะจับคู่เข้ากับของหวานก็เข้ากันอย่างไม่น่าเชื่อ
“ผมเลือก 2 ตัวนี้มา เพราะคนบ้านเราส่วนหนึ่งมักกินเบียร์กับของทอด และนั่นทำให้รู้สึกว่าอยากเปิดโลกของการกินเบียร์กับของตุ๋นว่ามีความเข้ากันอย่างไม่น่าเชื่อ บวกกับวัฒนธรรมบ้านเรามีการกินเบียร์คู่กับอาหารไทยหลากหลายชนิด และด้วยรสชาติของอาหารไทยที่มีความเข้มข้น เมื่อทานคู่กับเบียร์จึงช่วยตัดรสชาติได้เป็นอย่างดี”
นอกเหนือจากรสชาติของความอร่อยจากเชฟชื่อดังระดับประเทศแล้ว ภายในงาน ‘Beer and Food Pairing Festival 2023’ ยังได้รับเกียรติจาก ไก่ - สุกฤษฏิ์ ผ่องคำพันธุ์ ผู้ร่วมก่อตั้งร้าน Jim's Burgers มาร่วมสร้างสีสันและถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการจับคู่อาหารกับเบียร์แบบจัดเต็มอีกด้วย
สุกฤษฏิ์ เผยว่า แท้จริงแล้วศาสตร์การจับคู่อาหาร (Food Paring) มีมานาน เช่นเดียวกับการจับคู่อาหารกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งเป็นศาสตร์และศิลป์ที่ช่วยดึงเอกลักษณ์ออกมาได้อย่างดี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องรสชาติอาหาร หรือแม้กระทั่งรสชาติของเครื่องดื่มอย่างเบียร์ ซึ่งบนโลกนี้มีเบียร์หลากหลายชนิด จึงพร้อมผลักดันให้คนไทยมีโอกาสได้ลิ้มลองที่หลากหลาย เพื่อเป็นทางเลือกให้ผู้บริโภค
ขณะเดียวกัน ในฐานะผู้บริโภคมองว่าเป็นสิ่งที่ดี เนื่องจากเมื่อมีสินค้าใหม่เข้ามาก็จะเกิดการแข่งขัน และพัฒนาการสร้างสรรค์เบียร์ที่รสชาติเป็นเอกลักษณ์ เพื่อเป็นทางเลือกสุดละเมียด ซึ่งงาน ‘Beer and Food Pairing Festival 2023’ นับเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ว่า ศาสตร์การจับคู่อาหารไทยกับเบียร์สามารถผสมผสานจนเกิดเป็นรูปแบบการรับประทานที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น รวมถึงทำให้กลุ่มนักดื่มหรือสายกินที่มองหาประสบการณ์สุดพิเศษได้สัมผัสอย่างลงตัว
“งานนี้ถือเป็นการเปิดโลกการจับคู่อาหารกับเบียร์ ทำให้คนรู้จักตลาดนี้มากขึ้นจริงๆ เพราะที่ผ่านมาหากเดินเข้าไปในร้านสะดวกซื้อ หรือที่ไหนก็ตาม เราเจอแต่ Lager Beer เต็มไปหมด ผมหวังว่างานนี้จะส่งผลให้สามารถผลักดันทั้งผู้เล่นหน้าใหม่ หรือแม้กระทั่งผู้เล่นหน้าเดิมมาลงแข่งขันในตลาดนี้อีกครั้ง เชื่อว่าเป็นอีกตลาดที่น่าจะสำเร็จได้ เพราะมีผู้บริโภครออยู่เยอะมาก”
นอกจากเมนูสุดเอ็กซ์คลูซีฟจากเชฟระดับแนวหน้า กิจกรรมครั้งนี้ยังเสิร์ฟอาหารเลิศรสจากโรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง กว่า 6 เมนู ไม่ว่าจะเป็น กุ้งเรือนแก้ว, ขาหมูทอดตะวันแดง, กะหล่ำปลีทอดน้ำปลา, เกาเหลาเย็นตาโฟทรงเครื่อง, ปลากะพงทอดน้ำปลา และข้าวผัดปู พร้อมเพลิดเพลินเติมความรื่นรมย์ภายใต้บรรยากาศแห่งความสนุก ด้วยดนตรีจากโรงเบียร์ฯ เต็มรูปแบบ สร้างความสุขและความสนุกอย่างเต็มอิ่ม
ก่อนเข้าสู่ช่วงท้ายของงาน ยังมีกิจกรรมสนุกๆ แจกรางวัลมากมาย โดยมีสัญลักษณ์ที่ซ่อนใต้เก้าอี้ หากใครหาเจอก็รับของรางวัลสุดพิเศษไปได้เลย ปิดท้ายด้วยศิลปินระดับตำนาน ‘แอ๊ด คาราบาว’ ที่ขับขานเพลงเพื่อชีวิต สร้างบรรยากาศแห่งความสุข เคล้าอาหารเลิศรสและเครื่องดื่ม สร้างความประทับใจแบบไม่รู้ลืม
‘Beer and Food Pairing Festival 2023’ นับเป็นอีเวนต์ที่เปิดประสบการณ์ด้านการจับคู่อาหารไทยกับเบียร์ ทั้งรังสรรค์เมนูสุดโปรดกับเบียร์รสชาติต่างๆ อย่างไร้ขีดจำกัด รวมถึงเพิ่มมูลค่าของวัฒนธรรมไทยให้สูงมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญสามารถสร้างรายได้ให้กับประเทศ ซึ่งจะนำมาสู่เศรษฐกิจที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ตอกย้ำให้เห็นถึงความนิยมและการยอมรับในศักยภาพของอาหารไทย ในฐานะ Soft Power ของประเทศต่อไป
#BeerandFoodPairingFestival2023 #FoodPairing #อาหาร #ซอฟต์พาวเวอร์ #SolfPower
-(016)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี