Landscape with Wall 1952
นักท่องเที่ยวที่เยือน Cantonal Museum of Fine Arts Lausanne คงคุ้นเคยกับผลงานของศิลปินสวิสมาระดับหนึ่งแล้ว แต่ที่นี่ไม่เพียงมีงานของศิลปินสวิส ยังมีงานแนวแปลกของศิลปินฝรั่งเศสจำนวนหนึ่งด้วยนั่นคือ งานของ Jean Philippe Arthur Dubuffet หรือชื่อที่คนทั่วไปรู้จักคือ Jean Dubuffet ทำไมถึงเรียกว่าศิลปะแนวแปลกก็เพราะ เขาเป็นผู้ก่อตั้งศิลปะแนว Art Brut ซึ่งเป็นคำฝรั่งเศสหรือที่เป็นภาษาอังกฤษคือ Raw Art หรือ Rough Art หลายคนคงสงสัยว่าศิลปะแนว Art Brut คืออะไร และแตกต่างจากแนวทางศิลปะทั่วไปอย่างไร
Art Brut หรือ Outsider Art คำที่ถูกกำหนดขึ้นในปี 1972 เพื่อใช้เป็นชื่อหนังสือของ Roger Cardinal นักวิพากษ์ศิลป์นี้มีความหมายว่า ศิลปะที่เรียนรู้เองโดยขาดประสบการณ์ และมีความแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับโลกศิลปะที่มีแบบแผน ศิลปะแนวนี้มักอยู่เหนือจินตนาการ และได้รับการสนับสนุนทางการตลาดอย่างล้นหลามในปี 1993 ณ นครนิวยอร์ก คำนี้ยังเป็นคำที่ Jean Dubuffet อธิบายถึงศิลปะที่เขารังสรรค์ขึ้นนอกเหนือไปจากแนวทางศิลปะที่มีแบบแผน อาทิ งานผู้ป่วยจิตเวชจิตวิญญาณ หรือฤษี การที่ความสนใจในผู้ลี้ภัย คนวิกลจริต ผู้ป่วยได้รับความนิยมเป็นผลมาจากหนังสือของ Dr.Walter Morgenthaler ที่ตีพิมพ์ในปี 1921 ในชื่อ A Psychiatric Patient as Artist หลังจากนั้นอีกปีบทความที่ชื่อ Artistry of the Mentally Ill ของ Hans Prinzhorn ยิ่งกระตุ้นความสนใจให้กับเหล่าศิลปินโดยเฉพาะ Max Ernst และ Jean Dubuffet ทั้งนี้อาจเป็นเพราะเขาไม่ใช่ศิลปินที่ได้ร่ำเรียนจากวิทยาลัยอย่างเป็นเรื่องราว
Antonin Artaud
Jean Dubuffet เกิดที่ Le Havre แคว้นนอร์มังดี ฝรั่งเศส ในครอบครัวผู้ขายส่งไวน์จึงมีเศรษฐานะค่อนข้างดี เขาย้ายไปปารีสเพื่อเข้าเรียนที่ Academie Julian ในปี 1918 แต่เรียนไปได้เพียงแค่ 6 เดือนก็รู้สึกเบื่อหน่ายและไม่เข้ากันกับรสนิยมของตัวเองเลยหันมาศึกษาศิลปะเอง ในช่วงเวลานั้น เขายังให้ความสนใจกับศิลปะอื่นๆ อาทิ ดนตรี และบทกวีด้วย เขาได้มีโอกาสเดินทางไปอิตาลีและบราซิลก่อนที่จะกลับ Le Havre ในปี 1925 และแต่งงานครั้งแรก รวมทั้งเริ่มกิจการค้าไวน์เฉกเช่นเดียวกับบิดา เขาหวนกลับมาสร้างงานศิลปะอีกครั้งในปี 1934 โดยเน้นวาดภาพเหมือนเสียเป็นส่วนใหญ่ก่อนที่จะหยุดงานและกลับไปดำเนินธุรกิจค้าไวน์อีก
ปี 1942 เขาหวนกลับมาทำงานศิลปะอีกครั้งโดยเน้นเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตประจำวัน อาทิ รถใต้ดินปารีส โดยสร้างงานตามแนวทางศิลปะแบบ Fauvism และ De Brucke แม้ในช่วงแรกงานของเขาไม่เป็นที่สนใจ แต่ในปี 1945 เมื่อผลงานของเขาได้จัดแสดงร่วมกับ Jean fautrier ที่กรุงปารีส งานของเขากลับได้รับความสนใจมาก เขาเริ่มใช้สีน้ำมันผสมกับดิน ทราย ถ่านหิน แก้ว ซีเมนต์ ลวด สร้างสรรค์งานบนผืนผ้าใบซึ่งเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นในวงการศิลปะส่งผลให้เขากลายเป็นศิลปินคนแรกที่ของ School of Paris
Antonin Artaud detail
นับจากเขาค้นพบวิธีการใช้วัสดุใหม่ๆ ในการสร้างสรรค์ผลงาน เขาก็เริ่มวาดภาพเหมือนของเพื่อนศิลปินกันเองด้วยแนวทางที่ต่อต้านจิตวิทยาและต่อต้านตัวบุคคล
ปี 1946 เขานำผลงานไปร่วมจัดแสดงกับ Pierre Matisse ผลงานที่แหวกแนวของเขานี้ประสบความสำเร็จอย่างมากในตลาดศิลปะสหรัฐฯ ทั้งนี้ อาจเป็นเพราะ Matisse เป็นศิลปินและตัวแทนขายภาพที่มีอิทธิพลมากในสหรัฐฯในช่วงเวลานั้นด้วย ผลงานของเขาได้รับการจัดแสดงในระดับเดียวกันกับ Picasso, Braque และRouault เลยทีเดียว หลังประสบความสำเร็จอย่างงดงาม ปี 1962 เขาเริ่มสร้างงานที่เน้นสีแดง ขาว ดำและฟ้ามากขึ้น จนปลายทศวรรษที่ 1960 เขาก็หันมาสร้างงานจิตรกรรม และงานไวนิล เขาเสียชีวิตจากโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังที่ปารีสในปี 1985
นักท่องเที่ยวที่ได้มีโอกาสสัมผัสผลงานของ Dubuffet ใน Cantonal Museum of Fine Arts Lausanne จะเห็นว่าวิธีการที่เขาสร้างสรรค์งานแปลกประหลาดมาก หลังจากที่เขาเริ่มต้นอย่างผิดพลาดหลายครั้ง เขาเริ่มหันเหจากการสร้างสรรค์งานแบบปกติด้วยความรู้สึกอึดอัด เขาเลยใช้วัสดุหลากหลายผสมกับสีน้ำมันให้กลายเป็นเนื้อครีมหนาและสร้างสรรค์ภาพเหมือนของ Antonin Artaud ซึ่งไร้บุคลิกภาพของผู้ถูกวาดแต่กลับมุ่งเป้าไปที่การต่อต้านปัจเจกนิยมแทน นักท่องเที่ยวหลายคนคงงงว่า ผลงานเหล่านี้มีชื่อเสียงและขายได้หรือ แต่ก็คงยอมรับว่าศิลปะผู้นี้เฉลียวฉลาดจริงๆ ที่สามารถสร้างชื่อได้จากความสร้างสรรค์ที่แสนแปลกประหลาด
Attentive face 1952
Landscape with Wall detail
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี