โรคเส้นเลือดขอด เป็นโรคใกล้ตัวแต่หลายคนอาจละเลย เพราะคิดว่าไม่ใช่โรคร้ายแรง หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่รักษา อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง เช่น แผลที่ขา โรคผิวหนังอักเสบบริเวณขาโรคหลอดเลือดดำโป่งพองแตก ภาวะลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำ จนอาจนำไปสู่การเสียชีวิต
นพ.พฤฒิพงศ์ กาวิรส
นายแพทย์พฤฒิพงศ์ กาวิรส ศัลยแพทย์เฉพาะทางด้านหลอดเลือดโรงพยาบาลเวชธานี อธิบายว่า เส้นเลือดขอด(Varicose Veins) คือหลอดเลือดดำบริเวณใกล้ชั้นผิวหนัง ที่ขยายตัวเป็นเส้นเลือดคดเคี้ยวและนูนออกมาคล้ายลักษณะตัวหนอน เนื่องจากมีเลือดมาสะสมมากจนเห็นเป็นเส้นเลือดสีเขียวหรือม่วงเข้ม สามารถเกิดขึ้นได้กับหลายส่วนของร่างกาย เช่น บริเวณหลอดอาหาร มดลูก ช่องคลอด เชิงกราน และช่องทวารหนัก แต่โดยส่วนใหญ่
มักเป็นที่ขาหรือเท้า
ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดเส้นเลือดขอด คือ เพศ กรรมพันธุ์ อาชีพ กิจวัตรประจำวันหญิงตั้งครรภ์และโครงสร้างหลอดเลือด ซึ่งอาการที่พบได้ทั่วไปคือ อาการเจ็บหรือรู้สึกหนักขา, เป็นตะคริวช่วงกลางคืน,บวม ตึง แสบร้อน, รู้สึกเจ็บมากขึ้นเมื่อนั่งหรือยืนเป็นเวลานาน, คันรอบๆ เส้นเลือดเส้นใดเส้นหนึ่งหรือหลายเส้น, อาจมีเลือดออกจากเส้นเลือดที่บิดนูน, อาการปวดในเส้นเลือดบริเวณที่ผิวหนังเปลี่ยนเป็นสีแดง, เส้นเลือดแข็งหรือเปลี่ยนสี มีอาการอักเสบของผิวหนัง หรือบางรายอาจเกิดอาการอักเสบรุนแรงจนเกิดแผลได้
การรักษาเส้นเลือดขอดขึ้นอยู่กับอาการและความรุนแรงที่เกิดขึ้น โดยแพทย์เฉพาะทางจะพิจารณาตามความเหมาะสม โดยแบ่งตามการรักษาได้ดังนี้ 1.การรักษาด้วยยาลดการอักเสบของหลอดเลือดดำ หรือ การใส่ถุงน่องเส้นเลือดขอดเพื่อให้เลือดภายในหลอดเลือดดำไหลกลับคืนสู่หัวใจได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นแต่ทั้ง2วิธีนี้จะช่วยบรรเทาอาการเท่านั้นไม่สามารถรักษาให้หายได้
2.การฉีดสารเคมี หรือฉีดโฟม เข้าสู่เส้นเลือดดำ (Sclerotherapy) เพื่อให้เส้นเลือดฝ่อและตีบ เหมาะสำหรับการรักษาเส้นเลือดขอดขนาดเล็กๆ 2-3 มิลลิเมตร หรือเส้นเลือดขอด ที่ยังคงเป็นอยู่หลังจากผ่าตัด
3.การใช้เลเซอร์ความร้อนหรือคลื่นวิทยุความถี่สูง (Radio Frequency) โดยใช้หลักการรักษาด้วยการใส่สายขนาดเล็กใส่เข้าไปในหลอดเลือดดำแล้วอาศัยพลังงานจากเลเซอร์หรือคลื่นวิทยุความถี่สูงที่ทำให้เส้นเลือดขอดฝ่อไป โดยจะต้องมีการประเมินความพร้อมของร่างกาย งดน้ำ
และอาหาร 6-8 ชั่วโมง ก่อนผ่าตัด ซึ่งจะใช้ระยะเวลาในการผ่าตัดเล็กประมาณ 30-45 นาทีแผลมีขนาดเล็กประมาณ 2 มิลลิเมตรหลังจากนั้นแพทย์จะมีการนัดติดตามอาการภายใน 1-2 สัปดาห์
4.การใช้กาวประสานเส้นเลือด (VenaSealTM closure ststem ; ann-butyl-2-cyanoacrylate(n-BCA) based formula) โดยใช้หลักการรักษาด้วยการใส่สายขนาดเล็กใส่เข้าไปในหลอดเลือดดำแล้วหยอดของเหลวใสที่มีคุณสมบัติเหมือนกาวเข้าไปประสานหลอดเลือดดำทำให้ตีบตันและฝ่อไปเอง โดยเป็นการรักษาที่ทันสมัยที่สุดและสามารถทำการผ่าตัดโดยไม่ต้องดมยาสลบหรือไม่จำเป็นต้องงดน้ำและอาหาร 6-8 ชั่วโมงก่อนผ่าตัด ซึ่งจะใช้ระยะเวลาในการผ่าตัดเล็กประมาณ 30-45 นาทีแผลมีขนาดเล็กประมาณ 2 มิลลิเมตร(รูเข็ม) หลังจากนั้นแพทย์จะมีการนัดติดตามอาการภายใน 1-2 สัปดาห์
5.การผ่าตัด ในผู้ป่วยที่มีเส้นเลือดขอดขนาดใหญ่ ต้องประเมินความพร้อมของร่างกายก่อนนัดมาผ่าตัด งดน้ำและอาหาร 6-8 ชั่วโมงก่อนผ่าตัด ใช้เวลาในการผ่าตัดประมาณ 1-2 ชั่วโมง หลังผ่าตัดจะพันขาด้วย Elastic Bandage จากนั้นแนะนำให้ใส่ถุงน่องชนิดพิเศษต่อ และแพทย์จะนัดติดตามอาการ 1-2 สัปดาห์
การป้องกันเส้นเลือดขอด ควรหลีกเลี่ยงการยืนหรือนั่งเป็นเวลานานให้เปลี่ยนอิริยาบถบ่อยๆ หลีกเลี่ยงการสวมเสื้อผ้า กางเกง ถุงเท้า หรือถุงน่องที่รัดมากๆ เพราะจะทำให้เลือดไหลเวียนได้ไม่สะดวก ไม่ใส่รองเท้าส้นสูงเป็นเวลานานควรออกกำลังกายเป็นประจำ ทำให้กล้ามเนื้อขาแข็งแรง การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น รวมทั้งควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี