ปฏิเสธไม่ได้ว่า “โรคอ้วน” เป็นภัยคุกคามทางสุขภาพระดับโลกและประเทศไทยก็เช่นกัน โดยแนวโน้มได้มีการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง องค์การอนามัยโลก (WHO) มีรายงานว่า ในปีพ.ศ.2559 ความชุกของปัญหาน้ำหนักเกินและโรคอ้วนในผู้ใหญ่เท่ากับ 39% หรือมากกว่า 1.9 พันล้านคนซึ่งสอดคล้องกับประเทศไทยที่พบว่าคนไทยอายุ 15 ปีขึ้นไป มีภาวะน้ำหนักเกินและอ้วนมากกว่า 1 ใน 3 และคนไทยยังมีภาวะโรคอ้วนสูงเป็นอันดับ 2รองจากมาเลเซีย จากประเทศอาเซียนทั้งหมด 10 ประเทศอาเซียน ที่สำคัญ “โรคอ้วน” ยังเป็นสาเหตุให้เจ็บป่วยและเสียชีวิตก่อนวันอันควรจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (Non-communicable Diseases : NCDs) อาทิ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคตับ โรคหัวใจโรคข้อเข่าเสื่อม โรคมะเร็ง โรคเกี่ยวกับถุงน้ำดี ภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศและภาวะหายใจลำบากและหยุดหายใจขณะหลับ ฯลฯ และนำไปสู่ปัญหาสุขภาพจิต เช่น ความเครียด ความวิตกกังวล ภาวะซึมเศร้า เป็นต้น
ศ.นพ.สุเทพ อุดมแสวงทรัพย์ศัลยแพทย์โรคอ้วน โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย กล่าวว่า ในฐานะที่ ศูนย์รักษ์พุง หรือคลินิกโรคอ้วน โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย มีภารกิจหลักในการให้บริการบำบัดรักษาและป้องกันโรคอ้วนแบบครบวงจร ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการดูแลป้องกันโรคอ้วน ควบคู่ไปกับการรักษาโรคอ้วนอย่างถูกวิธี จึงเป็นที่มาของการจัดกิจกรรมเดิน-วิ่ง ร้อยโลรวมใจต้านภัยโรคอ้วน หรือ 100KG Obesity Run 2024 ณ ลานจามจุรี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นี้โดยมี บริษัท โนโว นอร์ดิสค์ ฟาร์มา(ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้สนับสนุนร่วมกับภาคีเครือข่ายต่างๆ เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนทุกเพศทุกวัยออกกำลังกายป้องกันโรคอ้วน และสร้างความตระหนักรู้ในการดูแลสุขภาพด้วยการออกกำลังกายให้แก่ประชาชนทั่วไป จากการศึกษาวิจัยของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด(Harvard University) ในปี พ.ศ.2556 พบว่า ผู้ใหญ่ที่ออกกำลังกายเป็นประจำเป็นเวลาอย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคอ้วนได้ถึง 30-50% เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่ได้ออกกำลังกายอีกด้วย
ดังนั้น วิธีป้องกันโรคอ้วนที่ได้ผลคุ้มค่ามากที่สุดคือ การเสริมสร้างสุขภาพให้แข็งแรงมีสุขอนามัยที่ดี ได้แก่ การรับประทานอาหารที่หลากหลายให้คุณค่าทางอาหารสูง แต่ให้พลังงานต่ำร่วมกับการออกกำลังกายสม่ำเสมอ ซึ่งการวิ่งถือเป็นการออกกำลังกายที่ดีวิธีหนึ่งในการรักษาภาวะน้ำหนักเกิน ช่วยลดปริมาณไขมันที่สะสมในช่องท้องและใต้ผิวหนัง อีกทั้งยังช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ ที่มากับโรคอ้วนได้อีกด้วย
ทั้งนี้ จากข้อมูลสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) ปีพ.ศ. 2560 รายงานว่าการวิ่งเหยาะๆ หรือ เดินเร็ว เป็นการเผาผลาญไขมันได้ดีที่สุด แต่ที่สำคัญจะต้องวิ่งหรือเดินเร็วให้ได้อย่างน้อย30 นาทีติดต่อกันโดยไม่หยุดพัก เนื่องจากการวิ่งเหยาะๆ หรือการเดินเร็วเป็นการใช้ความหนักในการออกกำลังกายไม่มาก (low intensity) ทำให้ได้ระยะทางไกลกว่าการวิ่งเร็ว และยังเผาผลาญไขมันได้มากกว่าแป้ง เพราะไขมันจะถูกเผาผลาญก็ต่อเมื่อวิ่งต่อเนื่องนานถึง 30 นาที ขณะที่การวิ่งเร็วๆ แต่ไม่ถึง 30 นาที แล้วต้องหยุด จึงลดไขมันไม่ได้
กิจกรรม “เดิน-วิ่ง ร้อยโลรวมใจต้านภัยโรคอ้วน หรือ 100KG Obesity Run 2024” ในครั้งนี้ มีผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรมกว่า 200 คนซึ่งศูนย์รักษ์พุง โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์สภากาชาดไทย ได้จัดขึ้นเพื่อสร้างความตระหนักรู้ถึงปัญหาและสถานการณ์โรคอ้วนในปัจจุบัน โดยสร้างการรวมตัวสำหรับผู้ที่มีน้ำหนักตัวมากกว่า 100 กิโลกรัม ได้เข้าร่วมกิจกรรม เช่นเดียวกันกับผู้ที่มีน้ำหนักตัวไม่ถึง100 กิโลกรัม ก็สามารถเข้าร่วมกิจกรรมได้เช่นกันแต่หากจะต้องลงทะเบียนแบบกลุ่มและจะต้องมีน้ำหนักรวมกันมากกว่าหรือเท่ากับ 100 กิโลกรัม โดยผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะต้องเดิน-วิ่งเป็นระยะทางอย่างน้อย 2 กิโลเมตร ภายในงานยังมีเวทีแบ่งปันความรู้เรื่องโรคอ้วนและนิทรรศการด้านสุขภาพ ทั้งนี้ตลอดกิจกรรมยังอยู่ภายใต้การดูแลของทีมแพทย์อย่างใกล้ชิด
ที่ผ่านมา บริษัท โนโว นอร์ดิสค์ ฟาร์มา (ประเทศไทย) เป็นบริษัท นวัตกรรมเวชภัณฑ์ชั้นนำที่มุ่งมั่นในการคิดค้นนวัตกรรมการรักษาโรคอ้วนเพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีของคนไทยมาอย่างต่อเนื่อง โดยตระหนักดีว่าโรคอ้วนเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญ พร้อมสนับสนุนและให้ความร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตรและภาคีเครือข่ายต่างๆ รวมถึงการจัดกิจกรรมเดิน-วิ่ง ร้อยโลรวมใจต้านภัยโรคอ้วน ในครั้งนี้ด้วย เพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับโรคอ้วน และส่งเสริมให้คนไทยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ เพื่อลดความเสี่ยงของโรคอ้วน
ผู้สนใจติดตามข่าวสารศูนย์รักษ์พุง ได้ที่ https://www.facebook.com/ChulaBMI?mibextid=ZbWKwL หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02-2564000 ต่อ 71205 ทุกวันอังคาร-ศุกร์ เวลา 08.30-15.30 น. (ยกเว้นวันหยุดราชการ)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี