ย้อนกลับไปเมื่อสิบปีก่อน หากสามีไม่ได้จุดประกายว่าภรรยามีพรสวรรค์ด้านการออกแบบ วันนี้วงการแฟชั่นไทยคงจะไม่มีชื่อ หนู-สุดาภรณ์ แมทธิวส์ ในฐานะดีไซเนอร์หน้าใหม่อย่างแน่นอน แต่จะเรียกเธอว่าดีไซเนอร์หน้าใหม่ ก็เห็นจะไม่ถูกนัก เพราะประสบการณ์ด้านแฟชั่นและการออกแบบของเธอคนนี้ไม่น้อยเลย รายชื่อแฟชั่นเฮ้าส์ที่เธอเคยร่วมงานด้วยนั้นก็มีชื่อเสียงระดับต้นๆ ของนิวยอร์ก แต่เธอก็ละทิ้งและเลือกที่จะกลับมาสร้างสรรค์ผลงานให้แฟชั่นนิสต้าสาวไทยได้สวมใส่ชุดสวย เรียบหรู ในแบบฉบับของตัวเองกับแบรนด์ ‘Nhoo Matthews’
ดีไซเนอร์สาว เล่าให้เราฟังว่า ตั้งแต่เด็กรู้ตัวเองเป็นคนชอบวาดรูป เพื่อนๆ มักจะให้วาดการ์ตูนใส่เสื้อผ้าสวยๆ อยู่เสมอ แต่สิ่งที่เธอรู้สึกมาตลอดว่างานศิลปะจะยึดเป็นอาชีพจริงได้อย่างไร จนกระทั่งแต่งงานและย้ายไปอยู่นิวยอร์ก สามีคือผู้ที่จุดไฟด้านการออกแบบให้เธออีกครั้ง เธอจึงทดสอบพรสวรรค์ของตัวเองด้วยการไปลงเรียนหลักสูตรระยะสั้น Design Sketching ที่ Parsons School of New York และได้ค้นพบตัวเองว่านี่แหละคือตัวตนของเธอที่แท้จริงที่สุด เมื่อหาตัวเองเจอและรู้ว่า “ดีไซเนอร์” คืออาชีพที่ใช่ ก็ไม่รอช้าเดินหน้าต่อด้วยเข้าเรียนด้านแฟชั่นดีไซน์อย่างจริงจัง ในสาขา Fashion Design ที่ Fashion Institute of Technology (F.I.T) ซึ่งเป็นสถาบันที่สอนด้านแฟชั่นอันดับต้นๆ ของสหรัฐอเมริกา ในแต่ละปีรับนักศึกษาเพียงไม่กี่ร้อยคนเท่านั้น
“มีความสุขกับการที่เราได้มองผู้หญิงสักคนหนึ่งแล้วคิดว่า ถ้าเขาสวมเสื้อแบบนี้ กระโปรงแบบนี้แล้วเขาจะสวยขึ้น การได้จับเนื้อผ้าแล้วเห็นภาพว่าเราจะเอาผ้าไปทำอะไร มันเป็นสิ่งที่อยู่ในหัวของเรามาตลอด แต่ตอนนั้นเหมือนว่าเรายังเด็ก หนูก็คิดว่ามันจะเป็นอาชีพได้จริงๆ หรือ แต่พอได้มาเรียนแฟชั่นดีไซน์อย่างจริงจัง เราก็เริ่มเห็นตัวเองว่าสามารถทำมันได้"
ก่อนจบการศึกษานักเรียนแฟชั่นดีไซน์ของ F.I.T ทุกสาขาจะต้องจัดนิทรรศการแสดงผลงานของตัวเอง เพื่อแข่งขันกันว่านักเรียนในแต่ละสาขาใครจะได้นักเรียนที่มีผลงานดีเด่นในสาขานั้นๆ ซึ่งมีผู้เชี่ยวชาญในวงการแฟชั่นนิวยอร์กมาเป็นผู้ตัดสิน ซึ่ง หนู-สุดาภรณ์ หรือที่เพื่อนๆ เรียกขานว่า หนู แมทธิวส์ นักเรียนไทยเพียงของคนเดียวของรุ่นนั้น ได้รับรางวัลชนะเลิศจากสาขา Art Specialization ด้าน Portfolio Collections, Best Design Concept ประจำปี Fall 2005 ไม่เพียงเท่านั้นเธอยังได้รับรางวัลรองชนะเลิศ การประกวดการออกแบบยูนิฟอร์มให้กับ Air France จาก All Japan Fashion Teachers Association ด้วย
หลังเรียนจบ หนู แมทธิวส์ เก็บเกี่ยวประสบการณ์ด้านแฟชั่น ด้วยการไปฝึกงานกับเสื้อผ้าแบรนด์ดังของนิวยอร์กอย่าง Tahari, Cynthia Rowley ก่อนจะได้ไปทำงานในตำแหน่ง Freelance assistant designer ให้กับบริษัท Garan Inc. บริษัทในเครือของ Berkshire Hathaway ของ Warren Buffet ต่อด้วยตำแหน่ง Technical Designer ให้กับ Notations Inc. ก่อนจะก้าวสู่ตำแหน่งดีไซเนอร์อย่างต็มตัวที่ August Silk ในเครือของ High Fashion.
“ในแต่ละที่ก็มีการทำงานที่ต่างกัน การที่เราอยู่ในจุดเล็กๆ แต่ทำให้เราได้เห็นการทำงานที่เป็นมืออาชีพจริงๆ แม้จะไม่นานที่ร่วมงานกับบริษัทเสื้อผ้าเหล่านั้น แต่ก็เป็นประสบการณ์ที่คุ้มค่า และทำให้หนูได้ค้นพบว่าตัวเองอยากเป็นดีไซเนอร์ที่ออกแบบเสื้อผ้าสไตล์ไหน หนูก็เลยเลือกที่ลาออกจากงานเพื่อกลับไปเรียนด้านการออกแบบตัดเย็บเสื้อผ้าชั้นสูงหรือ Haute Couture พร้อมกับเรียนออกแบบเสื้อผ้า Eveningwear, Patternmaking และ Tailoring เพื่อเสริมความรู้การทำเสื้อผ้าให้เฉพาะทางยิ่งขึ้นไปอีก เพราะหนูอยากจะทำชุดออกงาน ชุดเจ้าสาว เป็นชุดที่เราต้องใช้เวลาในการทำงาน ต้องทุ่มเท ต้องใส่ใจ คือมองเมื่อไรก็รู้สึกดีเสมอ ระหว่างที่เรียนหนูก็ไปขอฝึกงานด้าน Patternmaking ที่ Zac Posen และที่ Marchesa ทั้งสองแห่งนี้เป็นแบรนด์ดังมากและเป็นแบรนด์โปรดของตัวเอง ทำให้มีโอกาสได้ทำงานร่วมกับดีไซเนอร์เก่งๆ ได้มีส่วนในการทำคอลเลคชั่นที่ได้นางแบบ นักแสดงฮอลีวู้ดดังๆ สวมใส่”
มองดูแล้วเส้นทางสู่การเป็นดีไซเนอร์ของ หนู แมทธิวส์ ที่นิวยอร์กก็ค่อนข้างไปได้สวย หากจะสร้างแบรนด์ของตัวเองก็ไม่ใช่เรื่องยาก แต่เธอก็เลือกที่จะกลับมาสร้างฝันของตัวเองที่เมืองไทย ด้วยเหตุผลว่า อยากทำงานที่ตัวเองรัก แวดล้อมไปด้วยครอบครัวและเพื่อน ที่รัก อีกอย่างหนึ่งเธอเชื่อว่า ปัจจุบันนี้สาวไทยใส่ใจกับการแต่งกายมากขึ้น เสพแฟชั่น และมีรสนิยมในการแต่งตัวที่เป็นตัวของตัวเองมากขึ้น แบรนด์ “Nhoo Matthews” จึงเกิดที่เมืองไทยในปี 2012 โดยชื่อแบรนด์ก็มีที่มาจากครั้งที่อยู่นิวยอร์กเพื่อนๆ ต่างชาติ คุ้นเคยกับการเรียกขานเธอด้วยชื่อเล่นที่ง่ายๆ และนามสกุลของสามีชาวอเมริกัน โดยสตูดิโอกำลังจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในต้นปีหน้าที่ สุขุมวิท 13
“ตั้งแต่กลับมาหนูก็วางแนวทางคอลเลคชั่นให้เป็นเอกลักษณ์แบรนด์เรามากที่สุด ตัวหนูเองวางแบรนด์ Nhoo Matthews ไว้ว่าเราเป็น Private Designer เพราะอยากให้ลูกค้าที่มาใช้บริการรู้ว่าเขาคือคนพิเศษ เหมือนกับที่ดาราฮอลลีวู้ดย่องเข้ามาตัดชุดกับดีไซเนอร์ในนิวยอร์ก เราจะดูแลลูกค้าอย่างใส่ใจที่สุด สตูดิโอที่กำลังจะเปิดไม่ใด้เป็นแค่โชว์รูม แต่ลูกค้าที่เข้ามาจะได้เห็นว่าเราทำงานอย่างไร พิถีพิถันแค่ไหน ด้วยความเป็น Private มากๆ ดังนั้น เวลาที่ลูกค้าจะมาหาต้องมีการนัดหมายล่วงหน้ากันก่อน ซึ่งเราก็ได้รับการตอบรับที่ดี คือหนูให้เวลากับแบรนด์ ค่อยๆ positioning ตัวเอง ค่อยๆ เติบโตขึ้นเรื่อยๆ มันทำให้เราทำงานอย่างมีความสุขด้วย”
ไม่เพียงแต่สร้างแบรนด์ Nhoo Matthews เท่านั้น อีกหนึ่งสิ่งดีไซเนอร์คนนี้ทำควบคู่กันไปคือการเปิดคอร์ส Fashion Workshop with Nhoo Matthews ซึ่งเปิดรับลูกศิษย์รุ่นจิ๋วตั้งแต่ 8 ขวบขึ้นไป และผู้ใหญ่ที่มีความสนใจและมีความฝันอยากจะเป็นดีไซเนอร์เช่นเธอด้วย
“ก็เริ่มจากคนใกล้ชิดที่เขาเห็นผลงาน ก็มาขอให้เปิดคอร์สสอน ยอมรับว่าตอนแรกก็ลังเลว่าเราจะสอนได้หรือ แต่เมื่อคิดแล้วว่า การที่เรานำความรู้และประสบการณ์ของเราทั้งหมดที่มีมาแบ่งปัน ช่วยให้คนอีกหลายคนได้ค้นพบตัวเอง หรือต่อยอดความรู้ให้คนอื่นๆ ได้ทำในสิ่งที่เขาใฝ่ผันได้เร็วขึ้น เราเองก็รู้สึกดีและมีความสุขไปอีกแบบ คอร์สที่สอนอยู่ก็มีตั้งแต่เบสิคเริ่มต้นไปจนถึงขั้นแอดวานซ์กันเลยทีเดียว เป็นการย่อหลักสูตรจาก F.I.T. มา บวกกับประสบการณ์ทำงานในวงการแฟชั่นจากนิวยอร์ก ฉะนั้นคนที่มาเรียนกับ หนู แมทธิวส์ จะได้รู้เลยว่าคนที่จะเป็นมืออาชีพเขาต้องทำอย่างไร แต่ต้องบอกก่อนว่าหนูสอนกลุ่มเล็กๆ จำกัดจำนวนในแต่ละคอร์ส เพราะอยากจะเต็มที่กับนักเรียนทุกคน ตอนนี้ก็มีลูกศิษย์มาเรียน 2-3 รุ่นแล้ว ใช้สถานที่สอนชั่วคราวแถวราชเทวี คิดว่าถ้าสตูดิโอเรียบร้อย ก็จะย้ายไปทำเวิร์คช้อปที่นั่น เพราะอยากให้คนที่มาเรียนเขาได้อยู่ในบรรยากาศของการทำงานแฟชั่นที่แท้จริงด้วยคะ”
สำหรับสาวๆ ที่กำลังมองหาดีไซเนอร์คู่ใจ หรือสนใจอยากเรียนรู้ด้านแฟชั่นดีไซน์แบบมืออาชีพ ลองเข้าไปพูดคุยหรือชมผลงานของ “Nhoo Matthews” ได้ที่ www.nhoomatthews.com www.facebook.com/nhoomatthews.atelier และ www.facebook.com/fwsnhoomatt
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี