ในระยะนี้ยังถือว่าอยู่ในช่วงวันสำคัญของพุทธศาสนิกชน คือวันมาฆบูชา วันที่พุทธศาสนิกชนทั่วโลกต่างร่วมกันทำบุญ ทำความดี ทำจิตใจให้ผ่องแผ้วขาวสะอาด เพื่อน้อมถวายเป็นพุทธบูชาแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระโคตมสัมมาสัมพุทธเจ้า
ดังนั้น สัปดาห์นี้ Mr.Flower จึงขอนำเสนอเรื่องราวจากการที่ได้นำคุณผู้อ่านหนังสือพิมพ์แนวหน้ากลุ่มหนึ่งไปกราบนมัสการสังเวชนียสถาน (อีก) สองแห่ง คือสถานีเสด็จดับขันธปรินิพพาน ณ สาลวโนทยาน เมืองกุสินารา รัฐอุตตรประเทศ อินเดีย และอีกแห่งหนึ่งคือ สถานที่ประสูติของเจ้าชายสิทธัตถะณ เมืองลุมพินีวัน เขตเชื่อมต่อระหว่างกรุงกบิลพัสดุ์ กับกรุงเทวทหะ ซึ่งปัจจุบันอยู่ในเขตประเทศเนปาล
ส่วนที่ต้องเขียนว่าไปกราบนมัสการสังเวชนียสถาน (อีก) สองแห่ง ก็เพราะว่าเมื่อปลายเดือนธันวาคม 2566 ได้นำสมาชิกไปกราบนมัสการสังเวชนียสถานมาแล้ว
สองแห่งคือ สถานที่ทรงแสดงปฐมเทศนาธัมเมกขสถูป ณ ป่าอิสิปตนมฤคทายวันเมืองสารนาถ นครพาราณสี รัฐอุตตรประเทศและสถานที่ทรงตรัสรู้ ณ โพธคยา เมืองกายาหรือที่คนไทยเรียกว่าพุทธคยา รัฐพิหาร
วันนี้ขออนุญาตบอกเล่ารายละเอียดงานนมัสการ และสมโภชพระบรมสารีริกธาตุ ณ วัดไทยกุสินารา เฉลิมราชย์ ต่อจากสัปดาห์ที่แล้ว โดยงานนี้จัดต่อเนื่องมาจนปัจจุบันเป็นปีที่ 15 โดยงานได้จัดขึ้นเมื่อวันที่ 21-24 กุมภาพันธ์ 2567
สำหรับพิธีการสำคัญคือการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ จากพระมหาธาตุเฉลิมราชย์ศรัทธา ในวัดไทยกุสินารา เฉลิมราชย์ขึ้นราชรถบุษบก โดยในขบวนมีเครื่องราชสักการะที่ถวายเป็นพุทธบูชาจากพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี และพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ โดยขบวนอัญเชิญเครื่องราชสักการะจัดเป็นขบวนที่งดงาม มีผู้คนเข้าร่วมในงานนี้ประมาณ 2 พันคน ซึ่งยังไม่นับผู้ชมอีกหลายพันคนที่เฝ้าชมอยู่ระหว่างทางจากวัดไทยกุสินารา เฉลิมราชย์ ไปยังสาลวโนทยาน สถานที่เสด็จดับขันธปรินิพพาน ในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ ส่วนวันที่24 กุมภาพันธ์ ขบวนเครื่องราชสักการะเคลื่อนไปถวายนมัสการยังมกุฏพันธนเจดีย์สถานที่ถวายพระเพลิงพระบรมราชสรีรางคารของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งอยู่ห่างจากสาลวโนทยานประมาณ 1 กิโลเมตร
ขอเล่าให้ฟังถึงความงดงามของขบวนอัญเชิญเครื่องราชสักการะว่าเริ่มต้นขบวนด้วยขบวนช้าง ตามด้วยขบวนนางรำ และตามด้วยขบวนราชรถบุษบก ตามด้วยขบวนเสลี่ยงของพระเถรานุเถระชั้นผู้ใหญ่ และตามด้วยขบวนเสลี่ยงของเหล่าผู้ร่วมอัญเชิญเครื่องราชสักการะอีกประมาณ 45 เสลี่ยง สองข้างฝั่งทางล้วนเต็มไปด้วยผู้คนทั้งชาวไทย และชาวอินเดีย และนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีโอกาสได้ชมขบวนที่แสนงดงามนี้
ในการนี้ สมเด็จพระมหาธีราจารย์ (ปสฤทธ์ เขมังกโร) เจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ทรงมอบหมายให้พระพรหมเสนาบดี เจ้าอาวาสวัดปทุมคงคา เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ส่วนแม่งานนี้คือพระวิเทศวชิรญาณ วิ.(สมพงษ์ ญาณธีโร) เจ้าอาวาสวัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ เป็นประธานจัดงานสายบรรพชิต ส่วนฝ่ายคฤหัสถ์มีประธานร่วมจัดงานคือ นายพงศ์ฤทธิ์ ศรีสมิท และนายทองเปลว ศิริพรพิทักษ์
พระวชิรญาณ วิ. บอกว่า การจัดงานนี้ก็เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาแด่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระสมณโคตม และเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ชั้นสูงทุกพระองค์
ปีนี้งานนมัสการและสมโภชพระบรมสารีริกธาตุ ณ วัดไทยกุสินารา เฉลิมราชย์ ผ่านพ้นไปอย่างสมพระเกียรติและสำเร็จเรียบร้อยทุกประการ ปีหน้าจะพาคุณๆ ไปร่วมงานบุญใหญ่นี้ด้วยกันอีก หากสนใจจะร่วมเดินทางกับ Mr.Flower โปรดติดต่อล่วงหน้าที่ 091-7233615
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี