ประเทศไทยได้เข้าสู่ช่วง “ฤดูร้อน” เป็นที่เรียบร้อย ช่วงเวลานี้นับเป็นช่วงเวลาสำคัญของผู้รักสัตว์เลี้ยงที่ต้องดูแลเพื่อนตัวน้อยๆ อย่างใกล้ชิด ยิ่งในปี 2567 กรมอุตุนิยมวิทยา ประเมินว่าอุณหภูมิจะสูงขึ้นในรอบหลายปี โดยมีโอกาสพุ่งสูงถึง 44.5 องศาเซลเซียส นั่นจึงมีความเสี่ยงต่อสุขภาพของสัตว์เลี้ยงแสนรักโดยเฉพาะกลุ่มคนเลี้ยงสัตว์ “เอ็กโซติก” (Exotic Pet) หรือสัตว์แปลกที่จะต้องดูแลเอาใจใส่เป็นพิเศษ ไม่ต่างจากสุนัข และแมว
สำหรับการเลี้ยงสัตว์แปลก หรือ Exotic Pet นั้น ปัจจุบันถือว่าเป็นอีกหนึ่งเทรนด์การเลี้ยงสัตว์ที่ค่อยๆ ขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในระยะหลัง 2-3 ปีมานี้ จะเห็นว่าคนรุ่นใหม่หลายคนหันมาให้ความสนใจเลี้ยงสัตว์แปลกที่หายาก และมีราคาสูง เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแน่นอนว่าในการเลี้ยงจำเป็นต้องหาวิธีมาดูแลเป็นพิเศษ เพราะว่าในช่วงหน้าร้อนสัตว์เลี้ยงของหลายคนอาจมีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะ “ฮีทสโตรก” (Heatstroke) หรือภาวะลมแดดได้ง่าย โดยอาการของโรคจะมีความแตกต่างกันไปตามชนิด หรือประเภทของสัตว์
ประเภทของการเลี้ยงสัตว์แปลก หรือ Exotic Pet ในปัจจุบันสามารถแบ่งออกเป็น 6 ประเภทหลัก ประกอบด้วย 1.กลุ่มสัตว์เลื้อยคลาน เช่น อีกัวน่า กิ้งก่า มังกรเครา งู หรือเต่า 2.กลุ่มสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ เช่น กบลูกศรพิษ กบโกไลแอท กบแคระแอฟริกัน กบนา กบมะเขือเทศ มาดากัสการ์ กบแอฟริกันบูลฟร็อก หรือซาลาแมนเดอร์ 3.กลุ่มสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง เช่น ด้วง หรือแมงมุมทารันทูล่า 4.กลุ่มสัตว์ปีก เช่น นกคอกคาเทลนกแก้วมาคอว์ นกเหยี่ยว หรือนกยูง 5.กลุ่มปลาแปลก เช่น ปลาปักเป้าฟาฮากา หรือปลาเทพา และ 6.กลุ่มสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เช่น กระต่ายเฟอเรท แฮมสเตอร์ สุนัขจิ้งจอก แรคคูน แพรีด็อกเมียแคท บุชเบบี้ หรือชูการ์ไกลเดอร์
ประเภทของสัตว์แปลกข้างต้น แต่ละชนิดล้วนมีความต้องการการดูแลสุขภาพร่างกายที่แตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น “กระต่าย” ซึ่งเป็นสัตว์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ถือเป็นสัตว์ที่ค่อนข้างเซนซิทีฟกับความร้อนมาก เนื่องจากกระต่ายไม่มีต่อมเหงื่อและจะระบายความร้อนออกจากร่างกาย โดยการหายใจหรือการแลกเปลี่ยนความร้อนที่บริเวณใบหู
ดังนั้น เมื่ออากาศร้อนจนเกินไปจะทำให้เลือดในร่างกายกระต่ายมีอุณหภูมิที่สูงขึ้น กระต่ายอาจจะมีอาการอ่อนแรงน้ำลายไหลชักหมดสติและอวัยวะภายในถูกทำลายได้ โดยอาการที่เจ้าของสามารถสังเกตได้ นั่นคือกระต่ายจะเริ่มมีน้ำลายไหล และถ้าเป็นหนักมากขึ้นเรื่อยๆ จะเกิดภาวะอ่อนแรง ยืนไม่ไหวและมีอาการชักเกร็ง
เช่นเดียวกับนกประเภทต่างๆ ซึ่งนับว่าเป็นสัตว์ที่มีความอ่อนไหวต่ออากาศร้อนได้ง่าย เพราะหากอากาศร้อนมากก็อาจมีโอกาสที่นกจะเสียชีวิตได้ เช่นเดียวกับกระต่าย โดยเมื่ออากาศร้อนมากๆ นกจะมีอาการหายใจเร็ว และอ้าปากหายใจจากนั้นก็จะมีอาการซึมแล้ว เกาะคอนไม่อยู่ และมีความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตได้
ส่วนสัตว์อีกประเภทนั่นคือสัตว์เลื้อยคลาน เช่น เต่า รู้หรือไม่ว่ากระดองเต่าสามารถดูดซึมความร้อนได้ดีกว่าสัตว์เลื้อยคลานประเภทอื่น แต่ถ้าอยู่กลางแดดนานๆ ก็มีโอกาสที่อวัยวะภายในจะได้รับผลกระทบจากความร้อนที่เพิ่มสูงขึ้น โดยผู้เลี้ยงสามารถสังเกตอาการได้ นั่นคือ เต่าจะมีน้ำลายไหล และเกิดอาการอ่อนแรง
นสพ.เชาวพันธ์ ยินหาญมิ่งมงคล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสัตว์แอนิมอลสเปซ สัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลสัตว์เลี้ยง แนะนำว่า วิธีการดูแลป้องกันโรคสำหรับสัตว์เลี้ยงในช่วงหน้าร้อนนี้ว่า หลักๆ แล้วไม่ควรนำสัตว์เลี้ยงออกไปเดินตากแดด หรือถ้าเลี้ยงในบ้านก็ต้องมีการเปิดหน้าต่างให้อากาศระบายถ่ายเทได้ดี เช่น ถ้าใครที่เลี้ยงกระต่าย แนะนำว่าในช่วงที่ร้อนมากๆ ก็ควรเปิดแอร์ เพื่อป้องกันการเกิดฮีทสโตรก ส่วนนกต้องจัดวางกรงให้อยู่ในพื้นที่อากาศถ่ายเท ไม่ตากแดด โดยอาจอยู่ใต้ร่มไม้ที่มีแสงแดดส่องผ่านเล็กน้อยได้ เช่นเดียวกับสัตว์ประเภทเต่า ควรจัดสถานที่เลี้ยงให้มีร่มเงาให้สัตว์สามารถหลบแดดได้ และอาจเปิดสปริงเกอร์ ช่วยพ่นไอน้ำในช่วงที่อากาศร้อนมากๆ เพื่อลดอุณหภูมิความร้อนลงได้
ผู้ที่สนใจข้อมูลของสัตว์เลี้ยงแปลก หรือ Exotic Pet สามารถติดตามได้ภายในงาน “PET Expo Thailand 2024” จะมีขึ้นในระหว่างวันที่ 9-12 พฤษภาคม 2567 ณ ฮอลล์ 5-8 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยสามารถติดตามข่าวสาร และดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.petexpothailand.net หรือ เฟซบุ๊ก Petexpoclub และช่องทางทวิตเตอร์ @PetexpoclubTH1 หรือแอดไลน์เพื่อติดตามทุกความเคลื่อนไหวของงานได้ที่ @petexpoclub
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี