วันศุกร์ ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ผู้หญิง
รู้เรื่องยากับเภสัชจุฬาฯ : ท้องร่วง ท้องเสีย ปัญหาสุขภาพช่วงฤดูร้อน (ตอน 2)

รู้เรื่องยากับเภสัชจุฬาฯ : ท้องร่วง ท้องเสีย ปัญหาสุขภาพช่วงฤดูร้อน (ตอน 2)

วันจันทร์ ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2567, 07.15 น.
Tag : ท้องร่วง ท้องเสีย
  •  

สัปดาห์ก่อนได้พูดคุยเรื่องอาการท้องเสีย ซึ่งเป็นโรคที่พบบ่อยในฤดูร้อน และพูดถึงยาที่นิยมใช้ในกรณีท้องเสียไป 2-3 ตัว ได้แก่ ผงน้ำตาลเกลือแร่ (ORS) เพื่อชดเชยน้ำและเกลือแร่ที่เสียไป ยาหยุดถ่ายซึ่งที่จริง หากไม่จำเป็นแล้วจะไม่แนะนำให้ใช้ เพราะทำให้การระบายออกของเชื้อก่อโรคช้าลง และอาจทำให้ท้องผูก รวมถึงยาผงถ่านคาร์บอนที่ออกฤทธิ์ดูดซับสารพิษ ที่มีข้อควรระวังในการกินใกล้กันกับยาอื่น เนื่องจากยาจะไปขัดขวางการดูดซึมของยาอื่นที่กินในเวลาใกล้กัน

แต่สำหรับคนที่มีประสบการณ์ท้องเสีย ก็อาจจะมีข้อสงสัยเพิ่มเติม เพราะอาจจะเคยใช้ยาหลากหลายกลุ่มมากกว่าที่กล่าวมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็น ยากลุ่มดูดซับสารพิษที่ไม่ใช่ผงถ่านคาร์บอน หรือยาช่วยปรับสมดุลของเชื้อจุลินทรีย์ในลำไส้ ยาแก้คลื่นไส้อาเจียน เป็นต้น 


ดังนั้นสัปดาห์นี้จึงจะขอมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับยาต่างๆ เพิ่มเติม 

กลุ่มแรกคือ ยากลุ่มดูดซับสารพิษที่ไม่ใช่ผงถ่านคาร์บอน ตัวที่นิยมใช้ในประเทศไทยและมีจำหน่ายเข้าถึงได้ง่ายจากร้านยา ได้แก่ Dioctahedral Smecite ซึ่งมีทั้งแบบผงสำหรับกระจายตัวในน้ำก่อนกิน หรือแบบยาน้ำแขวนตะกอนพร้อมดื่ม ราคาตกซองละ 25-35 บาทถือว่ามีราคาค่อนข้างแพง เพราะท้องเสีย 1 ครั้ง อาจต้องใช้ 3-5 ซอง กลไกการออกฤทธิ์ของยานี้ยังไม่ทราบแน่ชัดยาอาจช่วยดูดซับสารพิษหรือจุลินทรีย์ที่เป็นสาเหตุของอาการท้องเสีย อาจมีผลต่อการหลั่งเยื่อเมือกในลำไส้ ช่วยลดการอักเสบที่เกิดขึ้น โดยยานี้สามารถใช้ได้ในเด็กอายุตั้งแต่ 2 ขวบขึ้นไป ถึงแม้ยาจะมีความปลอดภัยสูงแต่ก็มีข้อควรระวังเกี่ยวกับอาการไม่พึงประสงค์ที่เกิดขึ้น อาทิ คัน ท้องผูก เป็นต้น

กลุ่มต่อมา คือยาช่วยปรับสมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้ ทั้งนี้ขณะท้องเสียอาจมีภาวะไม่สมดุลของจุลินทรีย์เกิดขึ้น ยาที่มีการสั่งจ่ายบ่อยได้แก่ ยาที่มีตัวยาสำคัญเป็นเชื้อ Saccharomyces Boulardii ยานี้เป็นยาในกลุ่ม probiotics ช่วยปรับสมดุลและกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน มีข้อบ่งใช้ในการรักษาอาการท้องร่วงเฉียบพลันจากการติดเชื้อทั้งในผู้ใหญ่และเด็ก ป้องกันและรักษาอาการลำไส้อักเสบและท้องร่วงจากการใช้ยาปฏิชีวนะเป็นเวลานาน รวมถึงโรคที่เกี่ยวกับลำไส้อักเสบอื่นๆ ด้วย ยาชนิดนี้มีทั้งแบบผงและแคปซูล และมีอาการข้างเคียงที่พบได้บ่อยคือ ท้องอืด ลมพิษ ผื่น ท้องผูก มีไข้ เป็นต้น

ส่วนยารักษาตามอาการอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นร่วมกับอาการท้องเสีย เช่น ยาแก้ปวดเกร็งในช่องท้อง และลำไส้ ยากลุ่มนี้จะออกฤทธิ์หลัก โดยการช่วยคลายกล้ามเนื้อเรียบ ในกระเพาะและลำไส้ จึงสามารถบรรเทาอาการปวดเกร็งในช่องท้องได้ ตัวที่นิยมใช้ ก็คือ Hysocine Butylbromide และ Mebeverine บางท่านอาจได้รับอาการไม่พึงประสงค์ที่พบบ่อยจากยากลุ่มนี้คือ อาการท้องผูก ปากแห้ง เป็นต้น 

อีกกลุ่มหนึ่งคือ ยาแก้คลื่นไส้อาเจียน ตัวที่นิยมใช้และหาซื้อได้จากร้านยา คือ Domperidone ซึ่งมีทั้งแบบเม็ดและน้ำ แต่แบบน้ำอาจหาซื้อได้ค่อนข้างยากกว่า ยานี้ใช้ตามอาการโดยกินก่อนอาหารอย่างน้อย 30 นาที แม้ว่าคนทั่วไปจะใช้ยานี้สามารถใช้ได้อย่างปลอดภัย แต่ก็มีข้อห้าม/ข้อควรระวัง/อาการไม่พึงประสงค์ที่อาจเกิดขึ้นที่สำคัญมากเช่นกัน ได้แก่ การทำให้เกิดภาวะหัวใจเต้นผิดปกติ ที่สำคัญมากคือในผู้ป่วยที่กำลังใช้ยาอย่างอื่นอยู่สำหรับรักษาโรคประจำตัวหรือโรคติดเชื้อใดๆ ก็ตามก็ควรตรวจสอบปัญหายาตีกันกับยานี้ก่อน เพราะยานี้ตีกับยาอื่นได้หลายชนิดและก่อให้เกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ เช่น ยานี้อาจไปตีกับยาบางชนิดที่ใช้รักษาโรคหัวใจผิดจังหวะยาปฏิชีวนะบางกลุ่ม ยารักษาโรคซึมเศร้า และยาจิตเวชบางตัว เป็นต้น เมื่อพิจารณาข้อมูลหลายอย่างแล้วยานี้จึงควรเป็นยาที่ก่อนใช้ผู้ใช้ยาจะต้องให้ข้อมูลและปรึกษาเภสัชกรอย่างละเอียด

โดยสรุป ยาที่สามารถใช้ได้ในกรณีท้องเสียมีหลากหลายชนิด อย่างไรก็ตาม เมื่อมีภาวะท้องเสีย ยาชนิดแรกที่ควรใช้คือผงน้ำตาลเกลือแร่ ในกรณีที่อยากใช้ยาอื่นร่วมด้วยเพื่อลดความรุนแรงของอาการท้องเสียหรือทำให้อาการท้องเสียหายเร็วขึ้นหรือบรรเทาอาการบางอย่างก็สามารถทำได้ แต่ก่อนการใช้ยาควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนทุกครั้งเพื่อความปลอดภัย

รศ.ภญ.ดร.ณัฏฐดา อารีเปี่ยม และ รศ.ภก.ดร.บดินทร์ ติวสุวรรณ

คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • รู้เรื่องยากับเภสัชจุฬาฯ : ท้องร่วง ท้องเสีย ปัญหาสุขภาพช่วงฤดูร้อน รู้เรื่องยากับเภสัชจุฬาฯ : ท้องร่วง ท้องเสีย ปัญหาสุขภาพช่วงฤดูร้อน
  •  

Breaking News

รัสเซียเดือด! ถล่มเมืองหลวงยูเครนด้วยขีปนาวุธ-โดรนสังหาร 4 ชีวิต

ปะทะเดือด! 'ทรัมป์-มัสก์'โพสต์ซัดกันยับ ขู่ตัดสัญญารัฐบาล-เรียกร้องถอดทรัมป์

ChatGPTตอบคำถามสุดร้อนแรง ใครควรกำจัดก่อนระหว่าง'คนขายชาติ'กับ'อริราชศัตรู?'

นักวิชาการ มธ.เตือนผลพวงเลวร้าย‘สงคราม’ ชี้ไม่ใช่แค่เรื่องอารมณ์-ความรู้สึก

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved