●● การปรับ ครม. เศรษฐา 1/1 ดูประหนึ่งจะผ่านพ้นไปด้วยความราบรื่น ผู้ที่ได้รับความไว้วางใจก็มีทีท่าพึงพอใจกันทั่ว จู่ๆ ก็มีหนังสือ รมว.ปานปรีย์ พหิทธานุกร ขอลาออกจากตำแหน่งรมว.ต่างประเทศและตำแหน่งอื่นๆ ที่ได้รับมอบหมาย ภายในพรรคไม่ถือว่าเป็นวิกฤตแต่กับพับบลิคกลายเป็นอาฟเตอร์ช็อก เห็นว่าท่านอดีตรมต. มีผลงานต่อเนื่องและภาพลักษณ์ที่คนชื่นชมตำแหน่งรองนายกฯ ที่ถูกปลดสำคัญไฉน, 1) มี PRESTIGE และ SENIORITY เหนือกว่า รมต., 2) มีอำนาจบริหารครอบคลุมไปถึงหน่วยงานอื่นๆ นอกสังกัดได้, 3) สำคัญยิ่งเป็นรองนายกฯรายงานตรงต่อนายกฯ ไม่ต้องผ่าน... ส่วนที่ท่านอดีตรมว. อาจจะคิดว่าการนี้เป็นความประสงค์ของนายกฯ ซึ่งไม่ใช่แน่ เพราะเราทราบจากแหล่งข่าวระดับสูงว่า ท่านปานปรีย์ เป็นรายชื่อ รมต.ในโควตาของนายกฯ ในรัฐบาลเศรษฐา 1 โดยท่านต้องโน้มน้าวให้เห็นความจำเป็นที่ท่านนายกฯ ต้องเดินทางล็อบบี้ให้ไทยกลับคืนบนเวทีโลก จำเป็นต้องมี รมต.ต่างประเทศที่มีคุณสมบัติยอมรับโดยอารยประเทศ อีกทั้งดูไม่เป็นการเมืองเกินไป...
●● สัปดาห์ที่แล้วเขียนเรื่องอดีตนายกฯ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ เชิญ ชีค ยามานี อดีต รมว. พลังงานของซาอุดีฯ ควบตำแหน่งมนตรีองค์กร OPEC มาเยือนไทยในฐานะแขกส่วนตัว... มีผู้ถามว่าท่านชีค ยามานี เนื้อหอมทั่วโลกขนาดนี้ทำไมถึงมาสนิทสนมกับน้าชาติได้เรื่องนี้เมื่อขยายความแล้วทำให้เห็นว่าแม้แต่บนเวทีโลก “CONNECTION” ยังเป็นเรื่องที่มีอยู่จริงและสำคัญยิ่ง ภารกิจตลอดมาของ พล.อ. ชาติชาย จะเกี่ยวข้องกับงานด้านต่างประเทศและพลังงานมาโดยตลอด ดังนั้นในการเดินทางไปยุโรปประชุมเกี่ยวกับงานเหล่านี้ ทำให้มีโอกาสรู้จักคุ้นเคยกับท่านชีค และบังเอิญท่านชีค ชอบการพักผ่อนที่ประเทศสวิสมาก ส่วนน้าชาติเองใช้เวลาคลุกคลีในสวิสตั้งแต่หนุ่ม ทั้งติดตามถวายการรับใช้เจ้านายไทย และน้าชาติเองก็มีบ้านชาเล่ย์ในสวิสด้วย ครั้งหนึ่ง ชีค ยามานี ปรึกษาน้าชาติว่าท่านอยากจะส่งบุตรสาวเข้าเรียน รร.บอร์ดดิ้งสกูลอันเลื่องชื่อของสวิส น้าชาติเลยอาสาว่า “โนพร็อบเบลม”เพราะตนรู้จักกับครูใหญ่ดีจะดำเนินการให้เรียบร้อยตั้งแต่นั้นมาความสัมพันธ์ดังกล่าวกลายเป็นมิตรแท้ลึกซึ้ง เป็นแง่มุมว่าในยุคที่น้ำมันขาดแคลนทั่วโลกประเทศไทยกลับมีน้ำมันใช้อย่างเพียงพอ และบางลอตในราคามิตรภาพด้วย...
●● นับเป็นข่าวที่น่ายินดีเมื่อ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลก ครั้งที่ 1/2567 เมื่อเดือนก่อน ซึ่งที่ประชุมฯได้มีมติเห็นชอบ (ร่าง) เอกสารการนำเสนอแหล่งมรดกทางวัฒนธรรม สงขลา และชุมชนที่เกี่ยวเนื่องริมทะเลสาบสงขลา ภายใต้ชื่อ Songkhla and itsAssociated Lagoon Settlements เข้าสู่บัญชีรายชื่อเบื้องต้น (Tentative List) ของศูนย์มรดกโลกประกอบด้วยแหล่งมรดกทางวัฒนธรรม จำนวน4 พื้นที่ ได้แก่ 1) เมืองโบราณพังยาง เมืองโบราณพะโคะ และเมืองโบราณสีหยัง, 2) เมืองโบราณสทิงพระ, 3) เมืองป้อมค่ายซิงกอร่า ณ เขาแดงและแหลมสน, 4) เมืองเก่าสงขลา บ่อยาง, ในพื้นที่4 อำเภอของ จ.สงขลา คือ อ.ระโนด อ.สทิงพระ,อ.สิงหนคร และ อ.เมือง ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวได้แสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรมด้านสถาปัตยกรรมที่มีการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกับอารยธรรมอื่นๆ ตามเส้นทางการค้าทางทะเลเลียบแนวชายฝั่ง หลักฐานทางโบราณคดีของชุมชนในอดีต…การขอรับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลก ส่งเสริมเศรษฐกิจการท่องเที่ยว ยกระดับการอนุรักษ์ …นับเป็นเรื่องที่ดีงามยิ่ง...
●● ข่าวเศร้า…ขอแสดงความเสียใจในการจากไปของ สุวลักษณ์ วงศ์เทศ แมสคอมมช.รหัส 15 กำหนดสวดถึง 8 พ.ค.และฌาปนกิจ 9 พ.ค.17.00 น. ณ วัดด่านสำโรง อ.เมือง จ.สมุทรปราการ…เพื่อนๆ ไปไว้อาลัยกันด้วย !!...●●
บารอนเนส
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี