นายวิกรานต์ ศุภมงคล กรรมการผู้จัดการใหญ่  บริษัท ทูเอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด เผยความคืบหน้าโครงการก่อสร้างอาคารจอดรถยนต์ของท่าอากาศยานใหญ่ ว่า ​“บริษัท ทูเอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด ได้รับสัญญาอนุญาตให้ประกอบกิจการโครงการการบริหารจัดการอาคารจอดรถ ณ ท่าอากาศยานหาดใหญ่ สัญญาระหว่างบริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) AOT กับบริษัท ทูเอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด ตั้งแต่เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2563 ซึ่งหลังจากการเซ็นสัญญาได้เกิดสถานการณ์วิกฤตโควิด 19 ทำให้โครงการเกิดการล่าช้าและเกิดการชะลอตัวของโครงการก่อสร้างอาคารจอดรถยนต์ แต่ ณ วันนี้ การท่าอากาศยานหาดใหญ่และบริษัท ทูเอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด ได้ประชุมดำเนินการเรื่องการวางแผนการก่อสร้างกันต่อเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แผนงานก่อสร้างจะเริ่มตั้งแต่ต้นปี 2567 โดยมีการประชุมวางแผนงานกับคณะทีมงานของท่าอากาศยานหาดใหญ่และหน่วยงานต่างๆที่มีส่วนเกี่ยวข้องซึ่งได้ข้อสรุปกำหนดระยะเวลาในการก่อสร้างโครงการดังกล่าวแล้วเสร็จภายใน 15 เดือนและให้นับเวลาการก่อสร้างของโครงการตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคม 2567

การท่าอากาศยานหาดใหญ่ยังเล็งเห็นความสำคัญของโครงการและศักยภาพรวมถึงความชำนาญการของบริษัททูเอ็นเตอร์ไพรส์ จึงทำให้โอกาสของบริษัททูเอ็นเตอร์ไพรส์ มีโอกาสในการขยายอาคารจอดรถซึ่งเป็นเฟส 2 ของการท่าอากาศยานสนามบินหาดใหญ่ในอนาคตอันใกล้และบริษัททูเอ็นเตอร์ไพรส์ยังได้รับสัญญาสัมปทานยาวถึง 20 ปีจากบริษัทการ AOT ในการที่จะบริหารจัดการพื้นที่เชิญพาณิชย์เก็บค่าเช่าและค่าจอดรถภายในโครงการอาคารจอดรถยนต์ และยังมีโอกาสได้รับการพิจารณาคุณสมบัติจาก AOT ในการก่อสร้างอาคารจอดรถในสนามบินแม่ฟ้าหลวงจังหวัดเชียงราย สนามบินสุวรรณภูมิ สนามบินอันดามัน(ภูเก็ตเฟส 2) และสนามบินเชียงใหม่แห่งที่ 2 ซึ่งเป็นโครงการในอนาคตอันใกล้นี้อีกด้วย”

และเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับทุกท่าน ผมขอเปิดเผยรายงานการประชุม เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2567เวลา 9:00 น ที่ห้องประชุมณท่าอากาศยานหาดใหญ่ดังนี้

ที่ประชุมได้สรุปงานความคืบหน้าของบริษัททูเอ็นเตอร์ไพรส์ ซึ่งเป็นผู้ได้รับสัญญาอนุญาตให้ใช้ประโยชน์ในที่ดินเพื่อการก่อสร้างประกอบกิจการโครงการบริหารจัดการอาคารจอดรถ ณ ท่าอากาศยานหาดใหญ่  สัญญาที่ ทหญ. TS-1-20/2563 ฉบับ ลงวันที่ 2 พฤศจิกายน 2563 ในวันดังกล่าวมีนางสุมณฑา เพ็ชราภรณ์รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานหาดใหญ่เป็นประธานในที่ประชุมร่วมกับบริษัททูเอ็นเตอร์ไพรส์ ซึ่งรายละเอียดมีการสรุปงานและติดตามความคืบหน้าในการเริ่มแผนงานก่อสร้างตัวอาคารจอดรถที่ท่าอากาศยานสนามบินหาดใหญ่ มีดังนี้

     ย้อนไปวันที่ 5 มีนาคม2567 ที่ผ่านมาบริษัททูเอ็นเตอร์ไพรส์ได้ทำการส่งมอบพื้นที่ที่จะก่อสร้างตัวอาคารและเริ่มนับเวลาก่อสร้างตามแผนที่บริษัททูเอ็นเตอร์ไพรส์ได้ยื่นไว้ 15 เดือนกับการท่าอากาศยานหาดใหญ่แล้วซึ่งคาดการณ์ว่าจะสามารถเปิดใช้บริการได้ในเดือนมิถุนายน 2568 เส้นทางการสัญจรสำหรับการเข้าทำงานและการนำวัสดุอุปกรณ์เข้าพื้นที่ก่อสร้างได้ประสานกับส่วนรักษาความปลอดภัยของการท่าอากาศยานหาดใหญ่และบริษัทฯต้องส่งรายละเอียดรายชื่อทะเบียนรถยานพาหนะที่จะเข้าบริเวณพื้นที่ก่อสร้างและประสานกับบริษัทรักษาความปลอดภัยของการท่าอากาศยานหาดใหญ่

     ในส่วนฝ่ายสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม(สมอ.)ของการท่าฯให้ทางเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยของบริษัททูเอ็นเตอร์ไพรส์ได้เข้ามาประชุมพูดคุยและอบรมกับทางเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานของการท่าฯโดยทำการนัดการอบรมในวันที่ 4 เมษายน 2567 ที่ผ่านมาและให้ประสานการส่งเอกสารต่างๆให้กับการท่าฯโดยตรง ส่วนการขอใช้ไฟฟ้า ประปาและสาธารณูปโภคต่างๆบริษัทการท่าอากาศยานหาดใหญ่ให้บริษัททูเอ็นเตอร์ไพรส์ทำเรื่องขอเข้ามาได้ที่ส่วนซ่อมบำรุงซึ่งงานนี้จะอยู่ในความดูแลกำกับส่วนงานก่อสร้างด้วย

    ในที่ประชุมได้แจ้งว่าการดำเนินการขออนุญาตต่างๆบริษัททูเอ็นเตอร์ไพรส์จะต้องส่งหนังสือถึงผู้อำนวยการการท่าอากาศยานหาดใหญ่ทั้งในส่วนของเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานและการขอน้ำประปาและไฟและอื่นๆ ส่วนการประกันภัยการก่อสร้างให้บริษัททูเอ็นเตอร์ไพรส์ดำเนินการแก้ไขรายละเอียดตามที่ท่าอากาศยานหาดใหญ่ได้มีหนังสือแจ้งมาแล้ว ฝ่ายนิติกรของการท่าฯเน้นย้ำว่าจากแผนการก่อสร้างที่บริษัททูเอ็นเตอร์ไพรส์ ได้ยื่นมาที่ 15 เดือนนั้นเริ่มนับการก่อสร้างโครงการตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคม 2567 และจะดำเนินการก่อสร้างตัวอาคารจอดรถเสร็จครบกำหนดประมาณวันที่ 6 มิถุนายน 2568

    บริษัททูเอ็นเตอร์ไพรส์ได้ทำผังบุคลากรการก่อสร้างพร้อมหมายเลขติดต่อประสานงานทั้งในส่วนของบริษัททูเอ็นเตอร์ไพรส์ ที่ปรึกษาการก่อสร้างและส่วนของบริษัทก่อสร้างยื่นส่งให้กับการท่าอากาศยานหาดใหญ่เป็นเรียบร้อยแล้ว  การกำกับดูแลการก่อสร้างทั้งหมดของการท่าอากาศยานหาดใหญ่นั้นให้ส่วนงานบำรุงรักษาเข้ามาดูแลโดยที่บริษัททูเอ็นเตอร์ไพรส์จะต้องให้ทางที่ปรึกษาการก่อสร้างเข้ามาประชุมแนวทางการดำเนินงานก่อนแล้วส่งแผนการทำงานอย่างละเอียดซึ่งเป็นแผนการทำงานรายอาทิตย์รายเดือนพร้อมทั้งรายงานความคืบหน้าแจ้งมาทางการท่าอากาศยานหาดใหญ่ทราบด้วย

     บริษัททูเอ็นเตอร์ไพรส์มีภารกิจเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการก็คือการดำเนินการก่อสร้างให้เร็วที่สุดเพื่อที่จะสามารถเปิดบริการอาคารจอดรถได้ตามเวลาที่เสนอมาภายใน 15 เดือนคือสิ้นสุดวันที่ 6 มิถุนายน 2568 ซึ่งทุกสิ่งทุกอย่างของแผนงานโครงการดังกล่าวนี่ยังเดินตามสัญญาเดิมที่บริษัททูเอ็นเตอร์ไพรส์ได้เซ็นสัญญากับการท่าอากาศยานไทยจำกัด(มหาชน)AOT สัญญาที่ทหญ.TS-1-20/2563 เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2563 ไม่เปลี่ยนแปลง

    ก่อนปิดการประชุมภายในวันนั้นประธานในที่ประชุมนางนางสุมณฑา เพ็ชราภรณ์ รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานหาดใหญ่ได้กล่าวทิ้งท้ายกับบริษัททูเอ็นเตอร์ไพรส์ไว้ว่า การท่าอากาศยานหาดใหญ่อยากจะเห็นโครงการอาคารจอดรถดังกล่าวเป็นรูปร่างและมีความเชื่อมั่นในศักยภาพของบริษัททูเอ็นเตอร์ไพรส์ ก่อนที่ท่านจะเกษียณและมีผู้ใช้บริการภายในสนามบินสามารถเข้ามาใช้บริการอาคารจอดรถนี้ได้ในเร็ววัน ซึ่งบริษัททูเอ็นเตอร์ไพรส์ก็ได้รับปากยืนยันอย่างชัดเจนว่าโครงการดังกล่าวจะเสร็จตามแผนงานก่อสร้างอย่างแน่นอน

  ก่อนที่บริษัททูเอ็นเตอร์ไพรส์จะได้รับสัญญาของโครงการดังกล่าวนี้ทาง AOT ได้เชิญบริษัทเข้าร่วมประชุมในการทำการพัฒนาโครงการตามแผนนโยบายของ AOT และเนื่องจากคณะกรรมการบอร์ดผู้บริหารของ AOT ได้คัดสรรตามระเบียบของการท่าฯ วิเคราะห์เล็งเห็นประวัติ ผลงาน คุณสมบัติต่างๆ และความสามารถในการพัฒนาโครงการได้อย่างต่อเนื่องของบริษัททูเอ็นเตอร์ไพรส์แล้ว  ซึ่งโครงการนี้มีมูลค่าโครงการระยะเวลา 20 ปีมีมูลค่า 4,221 ล้านบาทในการเรียกเก็บค่าเช่าที่จอดรถและค่าเช่าพื้นที่เชิงพาณิชย์ทั้งหมดซึ่งสอดคล้องกับการขยายตัวของธุรกิจการท่องเที่ยวและรองรับการเพิ่มจำนวนของลูกค้าผู้โดยสารที่จะมาใช้บริการภายในสนามบินที่เดินทางมาที่สนามบินหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา และจังหวัดทางภาคใต้ในบริเวณใกล้เคียงทั้งหมดในอนาคตอันใกล้นี้

    ปัจจุบันบริษัท ทูเอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด ยังได้เสนอตัวพัฒนาโครงการอาคารจอดรถที่สนามบินแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย สนามบินสุวรรณภูมิ  สนามบินอันดามัน(ภูเก็ตเฟส 2) และสนามบินเชียงใหม่แห่งที่ 2 บริษัทประมาณการภาพรวมของแต่ละโครงการมีมูลค่าความเป็นไปได้และคาดการณ์ว่าจะมีรายได้รวมทุกโครงการตามสัญญาในระยะเวลา 20 ปี ไม่ต่ำกว่า 50,000 ล้านบาท จึงทำให้บริษัททูเอ็นเตอร์ไพรส์มีโอกาสการเติบโตต่อเนื่องอย่างไม่หยุดยั้ง และบริษัทฯมีแผนดำเนินงานนำบริษัทเข้าในตลาดหลักทรัพย์ในระยะเวลาอันใกล้นี้อีกด้วย

-(016)