ผลงานที่ได้รับรางวัลช้างเผือก ได้แก่ “ดินแดนแห่งชีวิต” โดย ธีรพล โพธิ์เปี้ยศรี รับเงินรางวัล 1,000,000 บาท รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ “ความหลากหลาย ภายใต้สภาวะที่ถูกครอบงำ” โดย ไชยันต์ นิลบล รับเงินรางวัล500,000 บาท รางวัลคุณหญิงวรรณา สิริวัฒนภักดีได้แก่ “Bond of Friendship (ความผูกพันแห่งมิตรภาพ)” โดย เญอรินดา แก้วสุวรรณ รับเงินรางวัล 400,000 บาท รางวัล CEO AWARD ได้แก่ “เสียงจากป่า 2024” โดย สันติ สีดาราช รับเงินรางวัล 250,000 บาท นอกจากนี้ ยังมีรางวัลรองชนะเลิศ 5 รางวัล รางวัลละ 200,000 บาทประกอบด้วย จักรชัย เพ็ชรปานกัน บุญมีแสงขำ พรสวรรค์ นนทะภา ลดากร พวงบุบผาสุวิวัฒณ์ หวานอารมย์ และรางวัลชมเชยอีก12 รางวัล รางวัลละ 100,000 บาท รวมเงินรางวัลทั้งสิ้น 4,350,000 บาท
ศ.ญาณวิทย์ กุญแจทอง
นายนิติกร กรัยวิเชียร ผู้อำนวยการโครงการส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) และคณะกรรมการตัดสิน กล่าวว่า การประกวดศิลปกรรมช้างเผือก เกิดจากความตั้งใจอันดีของ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเฟ้นหาศิลปินไทยรุ่นใหม่ที่มีทักษะความสามารถทางศิลปะอันโดดเด่น ในการสร้างสรรค์ศิลปะแบบเหมือนจริง (Realistic) และศิลปะรูปลักษณ์ (Figurative Art) โดยยึดถือความเหมือนจริงเป็นแก่นสำคัญเพื่อให้ผลงานศิลปะเหล่านี้เป็นอีกหนึ่งแนวทางที่สำคัญ ในการเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจด้านศิลปะร่วมสมัยให้ขยายไปสู่การรับรู้ของสังคมในวงกว้าง ทั้งนี้ การจัดประกวดศิลปกรรมช้างเผือก เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ปีพ.ศ. 2554 และดำเนินงานต่อเนื่องเรื่อยมาเป็นประจำทุกปี โดยในปี พ.ศ. 2567 นับเป็นการจัดการประกวดครั้งที่ 13 ภายใต้หัวข้อ “ความหลากหลายทางชีวภาพ” เพื่อให้ศิลปินผู้สร้างสรรค์ผลงานศิลปะได้แสดงฝีมือและความคิดสร้างสรรค์ โดยตีความจากโจทย์ ที่กำหนดให้ ซึ่งศิลปินที่เข้าร่วมประกวดแต่ละคน ก็ต่างสร้างสรรค์ผลงานที่น่าสนใจในรูปแบบและแนวทางที่แตกต่างได้อย่างน่าประทับใจ และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี”
รางวัลช้างเผือก
ศาสตราจารย์เกียรติคุณถาวร โกอุดมวิทย์คณะกรรมการตัดสิน กล่าวว่า “ศิลปกรรมช้างเผือกจัดขึ้นเป็นปีที่ 13 ซึ่งเป็นนิทรรศการที่ประสบผลสำเร็จมาก ในแง่ของตัวศิลปินเองก็จะค่อนข้างให้ความสำคัญเพราะเป็นการประกวดในรูปลักษณะที่เป็นศิลปะรูปลักษณ์ ซึ่งแยกออกมาจากการประกวดศิลปกรรมอื่นๆ คือการเน้นภาพที่ดูรู้เรื่องและมีความเข้าใจซึ่งมันก็จะสอดคล้องกับสังคมโดยทั่วไป และที่สำคัญที่สุดคือทางบริษัท ไทยเบฟฯ ได้มอบรางวัลสำหรับชนะเลิศถึง 1,000,000 บาท ซึ่งน่าจะเป็นรางวัลที่สูงที่สุดในการประกวดศิลปกรรมในประเทศไทยในการจัดงานที่ต่อเนื่องกันมาถึง 13 ปี ผมคิดว่าในแง่ของความสัมฤทธิผล คือศิลปินที่ทำงานในเชิงศิลปะรูปลักษณ์หรือ ในด้านทักษะฝีมือและเทคนิค เราถือว่าเป็นการดูแลศิลปินทางอ้อม เพราะบางทีศิลปินอาจจะขายงานไม่ได้แต่ยังพอมีรายได้จากการประกวดที่จะทำให้ศิลปะของเค้าสร้างขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีความยั่งยืน ก็ถือว่าเป็นนิทรรศการที่มีความสำคัญในระดับประเทศ ในส่วนของหัวข้อความหลากหลายทางชีวภาพ เราให้ศิลปินโฟกัสไปที่ธรรมชาติและให้เห็นคุณค่าของสิ่งมีชีวิตรวมถึงการดูแลโลกซึ่งอาจจะเป็นหัวข้อที่กว้างๆ แต่ไม่ยากลำบากนัก”
รางวัลชนะเลิศ
อาจารย์สังคม ทองมี คณะกรรมการตัดสิน กล่าวว่า “ปีนี้หัวข้อความหลากหลายทางชีวภาพเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของสิ่งมีชีวิตในโลกที่มีความหลากหลาย และเป็นเรื่องของสายพันธุ์ เรื่องของระบบนิเวศที่มีความหลากหลายเช่นเดียวกัน หลากหลายทั้งตัวเนื้อหาเรื่องราวของศิลปินที่สะท้อนความรู้สึกนึกคิดออกมาในเรื่องของชีวภาพทั้งหลายบนโลก รูปแบบของตัวงานจะเป็นรูปแบบลักษณะของการแสดงออกเรื่องภาพพิมพ์ งานจิตรกรรม งานเทคนิคสื่อผสมมีการผสมผสานความหลากหลาย เห็นแล้วก็รู้สึกว่าตัดสินยากเหมือนกัน เพราะเป็นงานที่มีคุณภาพมาก ทางคณะกรรมการชุดหนึ่งท่านเลือกจากหลายร้อยรูปจากสไลด์ ความหลากหลายในเทคนิควิธีการ 50 ภาพมีคุณภาพทั้งหมด ทุกงานมีการกลั่นกรอง และการแสดงทัศนะของคณะกรรมการอาจจะเหมือนกันหรือไม่เหมือนกันขึ้นอยู่กับมุมมอง เราใช้กรรมการหลายท่านขั้นตอนจะมีความละเอียดจนกว่าจะถึงรอบชนะเลิศ”
รางวัล CEO Award
นิทรรศการศิลปกรรมช้างเผือก ครั้งที่ 13 จะจัดแสดงผลงาน “ความหลากหลายทางชีวภาพ” ณ ชั้นหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ 16 กรกฎาคม-11 กันยายน 2567 โดยสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ เสด็จพระราชดำเนินมาทรงเป็นประธาน เปิดงานแสดงและพระราชทานรางวัล ในวันที่ 30 สิงหาคม 2567 นอกจากนี้ ผลงานบางส่วนนำไปจัดแสดงให้ชมอีกครั้งในงาน SX2024 ระหว่างวันที่ 27 กันยายน-6 ตุลาคม 2567
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี