สำนักงานจัดหารายได้ สภากาชาดไทย โดย ขรรค์ ประจวบเหมาะผู้อำนวยการสำนักงานจัดหารายได้สภากาชาดไทย บริษัท เฟรชแอร์เฟสติวัล จำกัด นำโดย วินิจ เลิศรัตนชัย ประธานบริษัท พร้อมด้วยอาจารย์วันชัย รวยอารี ผู้ชำนาญการวิเคราะห์แก้ไขฮวงจุ้ย และคณะฯจัดทำ “โครงการสืบสานมรดกทางพุทธศาสน์ ไทย ภูฏาน เฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา” เนื่องในโอกาสมหามงคล ที่พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 72 พรรษา ในปี 2567 และเพื่อร่วมสืบสานมรดกทางพุทธศาสน์ ไทย ภูฏาน ขอเชิญผู้มีจิตศรัทธาเช่าบูชา“มหาสิทธาปัทมสัมภวะ คุรุรินโปเช” พระโพธิสัตว์ใน พุทธศาสนา นิกายมหายาน อันเป็นที่เคารพบูชาของชาวภูฏาน โดยรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายส่วนหนึ่งมอบให้สำนักจัดหารายได้ฯเพื่อโครงการเงินทุนฉุกเฉินเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ สภากาชาดไทย และส่วนหนึ่งมอบให้โครงการจัดสร้างวิหาร มหาสิทธาปัทมสัมภวะ คุรุรินโปเช ณ วัดโกเอนเชอปูน เน ประเทศภูฏาน

ขรรค์ ประจวบเหมาะ ผู้อำนวยการ สำนักงานจัดหารายได้ สภากาชาดไทย กล่าวว่า ด้วยภารกิจของสภากาชาดไทย ที่ปฏิบัติหน้าที่ให้ความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน ผู้ยากไร้ และผู้ประสบภัยพิบัติต่างๆ ตามหลักการกาชาด ภายใต้พันธกิจทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ การบริการทางการแพทย์และสุขภาพอนามัย การบรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัย การบริการโลหิต และการส่งเสริมคุณภาพชีวิต ซึ่งงานแต่ละด้านก็ใช้งบประมาณในแต่ละปีจำนวนมาก ซึ่งทั้งหมดได้มาจากการบริจาคของพี่น้องประชาชน หน่วยงานองค์กรภาครัฐและเอกชน สำนักจัดหารายได้ สภากาชาดไทย ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงในการจัดหารายได้เพื่อนำมาจัดสรรให้กับภารกิจต่างๆ ของสภากาชาดไทย จึงได้มีการจัดทำกิจกรรมต่างๆ เพื่อรณรงค์ให้ผู้มีจิตศรัทธาได้มีส่วนร่วมในการช่วยเหลือประชาชนร่วมกัน

“อย่างที่ทราบกันดีว่าในแต่ละปีประเทศไทยจะมีเหตุภัยพิบัติอยู่บ่อยครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อุทกภัยหรือน้ำท่วม ทำให้พี่น้องประชาชนได้รับความสูญเสีย อย่างเช่นที่ประสบอยู่ขณะนี้คือน้ำท่วมทางภาคเหนือ สำนักบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ ได้ใช้งบประมาณในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมทางภาคเหนือไปแล้วกว่า 50 ล้านบาท และยังต้องมีการช่วยเหลืออย่างต่อเนื่องซึ่งต้องใช้งบประมาณอีกจำนวนมาก สำนักจัดหารายได้ฯ จึงได้จัดตั้งกองทุน โครงการเงินทุนฉุกเฉินเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ สภากาชาดไทย เพื่อให้การเบิกจ่ายงบประมาณมีความคล่องตัวและสามารถนำไปใช้ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้อย่างทันท่วงที ทั้งนี้ต้องการระดมเงินทุนตั้งต้นจำนวน 300 ล้านบาท ซึ่งยังขาดอยู่ประมาณ 100 กว่าล้านบาท จึงจะสามารถดำเนินงานกองทุนนี้ได้

การจัดโครงการสืบสานมรดกทางพุทธศาสน์ ไทย ภูฏาน เฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา โดยคุณวินิจ เลิศรัตนชัย และอาจารย์วันชัย รวยอารี จึงนับเป็นโอกาสมหามงคลที่ชาวไทยจะมีส่วนร่วมในการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการช่วยเหลือพี่น้องชาวไทยด้วยกัน อีกทั้งยังเป็นการสืบสานสัมพันธไมตรีอันดีระหว่างประเทศไทยและประเทศภูฏาน”

วินิจ เลิศรัตนชัย ประธาน บริษัทเฟรชแอร์ เฟสติวัล จำกัด กล่าวว่า “โครงการสืบสานมรดกทางพุทธศาสน์ ไทย ภูฏาน เฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา เป็นพระดำริของ สมเด็จพระราชินีเชอริง ยังดน วังชุก และเจ้าหญิงเคซัง โชเดน วังชุก สมเด็จพระราชชนนีและพระขนิษฐาใน สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกลวังชุก แห่งราชอาณาจักรภูฏาน ที่ทรงมีพระดำริจัดสร้างวิหารประดิษฐานมหาสิทธาปัทมสัมภวะ คุรุรินโปเช ซึ่งนับว่าเป็นโพธิสัตว์องค์สำคัญในพุทธศาสนา นิกายมหายาน อันเป็นที่เคารพบูชาของผู้นับถือนิกายมหายาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวภูฏาน ด้วยความสัมพันธ์อันดีทั้งในระดับราชวงศ์ และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทย ภูฏานที่มีมาอย่างช้านาน อีกทั้งสองประเทศมีศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติเช่นเดียวกัน รวมถึงในปีนี้เป็นปีมหามงคลของประชาชนชาวไทย เนื่องในโอกาสพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 72 พรรษา จึงมีพระประสงค์ที่จะให้ทั้งชาวไทย ชาวภูฏาน ได้มีโอกาสร่วมกันแสดงออกในการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร่วมกันสืบสานพระพุทธศาสนา และเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างสองราชอาณาจักรให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น”

อาจารย์วันชัย รวยอารี ผู้ชำนาญการวิเคราะห์แก้ไขฮวงจุ้ยกล่าวว่า “มหาสิทธาปัทมสัมภวะคุรุรินโปเช เป็นหนึ่งในพระโพธิสัตว์ที่ชาวภูฏานให้ความเคารพนับถืออย่างมาก เป็นผู้เผยแพร่พุทธศาสนานิกายมหายานให้เจริญงอกงามทั้งในทิเบตและภูฏาน หนึ่งในประวัติอันสำคัญของท่านคือ การที่ท่านมาจาริกแสวงบุญอยู่ที่วัดพาโร ทักซัง หรือถ้ำรังเสือซึ่งตั้งอยู่บนหน้าผาเกือบแนวตั้งที่ระดับความสูง 3,000 เมตร เหนือพื้นหุบเขาพาโร สร้างขึ้นรอบๆ ถ้ำทักซัง เซงเกซันดุบ โดยเชื่อว่าท่านเหาะมาจากทิเบตมายังสถานที่นี้และปราบเทพเจ้าท้องถิ่นหรืออีกตำนาน มหาสิทธาปัทมสัมภวะคุรุรินโปเช คือผู้ช่วยชีวิตพระเจ้าจักกยาลโบ จากภูตผีปีศาจที่จับวิญญาณของพระองค์ไว้ ชาวภูฏานจึงเชื่อกันว่าอานิสงส์ของการสวดภาวนาขอพรจาก มหาสิทธาปัทมสัมภวะ คุรุรินโปเชจะทำให้ได้พรทั้งทางโลกและทางธรรม บรรเทาเคราะห์กรรม และความทุกข์ทั้งของตนเองและคนที่เรารัก”

“มหาสิทธาปัทมสัมภวะคุรุรินโปเช” จัดสร้างขึ้นในพุทธศิลป์ผสมผสานไทย-ภูฏาน ประกอบด้วย องค์มหาสิทธาปัทมสัมภวะ คุรุรินโปเช ประทับนั่งท่ามกลางมังกร 9 ตัว ซึ่งมังกร 9 ตัวนี้เกี่ยวพันกับตำนานการเกิดประเทศภูฏาน บริเวณฐานดอกบัวประดับตราประจำราชวงศ์วังชุก ด้านหลังเป็นวิหารจำลองที่ประดิษฐานองค์มหาสิทธาปัทมสัมภวะ คุรุรินโปเช บรรจุมวลศาลศักดิ์สิทธิ์จากศาสนสถานสำคัญจากประเทศภูฏาน จัดสร้าง 2 ขนาด ได้แก่ ขนาดหน้าตัก4 นิ้ว ความสูงรวมฐานหินอ่อน 19 นิ้วจำนวน 108 องค์ บูชาองค์ละ 299,999 บาท และ เหรียญสิทธาปัทมสัมภวะ คุรุรินโปเช ตัวเรือนเนื้อเงินชุบทองชมพู และทองคำขาวโดยองค์พระ ตราประจำราชวงศ์วังชุก และวิหารด้านหลังผลิตจากทองคำบริสุทธิ์ 96.5 หนัก 1 บาท จำนวน 108 องค์ บูชาองค์ละ 199,000 บาท โดยทั้งสองขนาดนี้รายได้หลังหักค่าใช้จ่าย มอบให้สำนักจัดหารายได้ฯ เพื่อโครงการเงินทุนฉุกเฉินเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ สภากาชาดไทย

ทั้งนี้ “โครงการสืบสานมรดกทางพุทธศาสน์ ไทย ภูฏาน เฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา” ได้รับพระกรุณาธิคุณจาก สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เสด็จไปทรงเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เสด็จพระราชดำเนินไปในพิธีพุทธาภิเษก พร้อมด้วยสมเด็จพระราชินีเชอริง ยังดน วังชุก เสด็จพระราชดำเนินเป็นการส่วนพระองค์ร่วมพิธีพุทธาภิเษก ในวันที่ 9 กันยายน 2567 เวลา 09.39 น. ณ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร (วัดโพธิ์) โดยผู้ที่เช่าบูชาสามารถรับองค์พระได้ทันทีหลังเสร็จสิ้นพิธีพุทธาภิเษก

ผู้สนใจเช่าบูชา “มหาสิทธาปัทมสัมภวะ คุรุรินโปเช” สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ บริษัทเฟรชแอร์ เฟสติวัล จำกัด เบอร์ติดต่อ 02-1179634 หรือติดตามข้อมูลจากเพจ freshairfestivalofficial