มิน-ปรมินทร์ เปรื่องเมธางกูร หรือที่ทุกคนถนัดเรียกว่า “มิน ยูซุ” นักธุรกิจหนุ่มรุ่นใหม่ที่ไม่เคยเหน็ดเหนื่อยกับการปลุกปั้นแบรนด์ YUZU GROUP ในนาม บริษัทส้มพาสุข จำกัด เจ้าของเชนร้านอาหารกว่า 12 แบรนด์ โดยเริ่มต้นจาก Yuzu Ramen ที่ สยามสแควร์ เมื่อ 5 ปีที่แล้ว ตามมาด้วยหลากหลายแบรนด์และประเภทอาหาร ไม่ว่าจะเป็นสุกี้ ซูชิ โอมากาเซะ ไก่ทอด ก๋วยเตี๋ยว ข้าวต้ม ฯลฯ และล่าสุด Duri Buri หรือ ทุเรียนบุรี ยึดหัวหาดใจกลางย่านสยามสแควร์ และกระจายไปทั่วย่านสำคัญกลางกรุงอย่าง ทองหล่อ อารีย์ สุขุมวิท อีกทั้ง กำลังมีแผนสยายปีกออกไปทั่วกรุงเทพมหานครและชานเมือง
จุดเริ่มต้น YUZU GROUP ครั้งยังเป็นธุรกิจเล็กๆ สามารถควบคุมคุณภาพและบริหารงานร้านอาหารด้วยตนเอง สู่การขยายงานและเติบโตแบบก้าวกระโดดในเวลานี้
“ร้านแรกของผม Yuzu Ramen คือดีมาก เราเป็นเจ้าแรกของไทยที่ผสมส้ม Yuzu ลงในราเมง ตอนนั้นได้กระแส มีลูกค้าเต็มตลอด ทำให้ผมมีทุนไปทำอย่างอื่นต่อ การผสม Yuzu เกิดจากตอนนั้นผมอยากทำร้านอาหาร แต่จะทำอะไรดีที่ยังไม่มีใครทำ ซึ่งตัวเองเป็นคนชอบกินซุปอยู่แล้ว มีโอกาสได้ไปกินราเมงที่ผสม Yuzu จากหลายที่ ในหลายประเทศ ตอนนั้นเมืองไทยยังไม่มี ก็เลยตัดสินใจทำดีกว่า ซึ่งตอบโจทย์ เพราะคนไทยชอบกินอาหารรสจัด ผมเลยอยากทำราเมงที่รสจัด ขณะที่สมัยก่อนราเมงบ้านเรารสชาติจืด
สาขาแรก ผมเป็นคนบริหารจัดการด้วยตัวเอง ตามมาด้วยสาขา 2 สาขา 3 มิติการบริหารก็ยังไม่ได้เยอะขนาดนี้ ทำมาจนถึงปีที่ 4-5 ก็ยังไหว ยังแบ่งสมอง Mental Bandwidth ได้ (แบนด์วิดทางจิต คือทรัพยากรการประมวลผลสมองอย่างมีสติ เพื่อทํางานที่มีอยู่ให้สําเร็จ) แต่ตอนนี้เราเติบโตแบบก้าวกระโดด มีงานหลายส่วนเพิ่มมากขึ้น จึงต้องมีการวางแผนทรัพยากรคนอย่างมีประสิทธิภาพ และดึงคนเก่งๆ เข้ามาทำงาน เมื่อทุกคนรู้หน้าที่และทำมันอย่างเต็มความสามารถ ผมก็หวังว่าสักวันหนึ่งตัวเองจะถอยออกมาดูในส่วนงานกลยุทธ์ ยังคงลงมือทำเหมือนเดิม แต่เป็นการทำในอีกมิติหนึ่ง” มิน ยูซุ กล่าว
หากเปรียบการทำธุรกิจกับการขึ้นและลงบันได เมื่อถามว่าเขาชอบเดินขึ้นหรือเดินลงบันไดมากกว่า มิน-ปรมินทร์ กล่าวว่า “ผมไม่ได้ชอบการเดินขึ้นหรือเดินลงบันได เพราะถ้าเลือกได้ก็อยากจะนั่งเกี้ยว” จบประโยคเขาหัวเราะ “เพราะรู้สึกว่าตอนเดินลงบันไดก็ต้องคิด หากเดินไม่ดีก็กลัวตกบันได เปรียบกับการทำธุรกิจก็คือ คิดเรื่องความเสี่ยง ซึ่งถ้าเลือกได้ ก็อยากไต่ขึ้นบันไดไปเรื่อยๆ เหมือนกับการเดินขึ้นบันไดของ YUZU GROUP”
ใครๆ ก็รู้ว่าธุรกิจร้านอาหาร เป็นธุรกิจน่านน้ำสีแดง (Red Ocean) ที่มีการแข่งขันมากที่สุด แล้วอะไรทำให้เขาเริ่มต้นธุรกิจดังกล่าว
“พี่สาวผมทำร้านอาหารชื่อ “Nice Two Meat u” อยู่ที่สยามสแควร์ และเห็นว่ามีตึกตรงกันข้าม นี่คือสาเหตุว่าทำไมผมถึงมาทำร้าน “Yuzu Ramen” ที่สยาม ปีแรกมีพี่สาวช่วยแนะนำ ช่วยสอนในเรื่องธุรกิจร้านอาหาร สอนรายละเอียด ที่เน้นย้ำกับผมมาตลอดคือ ลูกค้าสำคัญมากที่สุด เพราะพวกเขามีโอกาสจะไปกินร้านอาหารอื่นซึ่งมีอยู่เยอะแยะมากมาย แต่กลับเลือกมากินที่ร้านเรา
ทุกคนที่เข้ามาในร้านจะต้องรู้สึกประทับใจเท่านั้น ถ้ามีคนกินอาหารไม่หมดนี่ไม่ได้เด็ดขาด ตอนนั้นผมเพิ่งกลับจากเรียนปริญญาโทที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ยังไม่เคยทำธุรกิจ คิดในใจ...อะไรวะแต่ถ้าไม่ใช่เพราะพี่สาวผมในวันนั้น คงไม่มี “มิน ยูซุ”ในวันนี้ เพราะนั่นเป็นสิ่งที่ทำให้ลูกค้ากลับมา ยกตัวอย่างเช่น เขาจะไม่ยอมเลยนะครับ ถ้าลูกค้าทานอาหารไม่หมด จะต้องหาสาเหตุให้ได้ พร้อมกับแนวทางแก้ไขเพื่อไม่ให้เกิดซ้ำอีก พี่สาวพูดและกำชับกับผมว่า มินต้องไปอยู่ร้านตั้งแต่เช้าจรดเย็นนะ ซึ่งผมทำอย่างนั้นอยู่ทั้งปี ตั้งแต่เปิดร้านถึงเที่ยงคืน อยู่ร้านตลอดคอยดูว่าลูกค้าทานหมดไหม ต้องการอะไรเพิ่ม หรือมีคอมเมนต์เกี่ยวกับอาหารและบริการว่าอย่างไรบ้าง แค่รู้สึกสิ่งเดียวกันว่าเรา Stand for อะไร แล้ว
ทุกคนส่งต่อในสิ่งเดียวกัน ถ้าลูกค้าสัมผัสถึงความตั้งใจของทีมที่จะมอบประสบการณ์ดีๆ ณ ห้วงเวลาที่เข้ามาในร้านเราได้ ผมว่าชีวิตเราโคตรมีความหมาย”
ครั้งวิกฤตโควิด-19 โรคอุบัติใหม่ที่ทำเอาทุกร้านอาหารประสบปัญหาและขาดสภาพคล่อง บ้างต้องปิดตัว หาทางออกได้บ้าง-ไม่ได้บ้าง สำหรับเครือ YUZU GROUP ภายใต้การบริหารงานของ มิน-ปรมินทร์ เขาและทีมงานสู้ยิบตาจนผ่านพ้นวิกฤตนั้นมาได้ ด้วยการปลุกพลังทีมให้เชื่อมั่น ต่อสู้ อย่ามองเห็นแต่ปัญหา แต่ให้ช่วยกันหาทางออก
“เปรียบกับการเล่นสกี ตาเราต้องไม่มองแต่ต้นไม้ ตาเราต้องมองทาง ปัญหาคือต้นไม้ที่อยู่เบื้องหน้าเรานั่นละ เหมือนกันกับโควิด เปรียบเป็นกำแพงสูงมากั้นทางออกไว้ เราก็แค่มองหาทางออก บริหารการขายโดยการ Delivery ออกเมนูใหม่ ทำการตลาด คือทำหมด ทั้งมุดใต้ดิน ทั้งปีนกำแพงกันเลยละ แต่สิ่งที่เกิดขึ้น ณ วันนั้น ทำให้ผมและทีมแข็งแรงขึ้นกว่าเดิมเยอะ บุคลากรรอบตัวผมมีความเป็นผู้นำมากขึ้น เราต้องหาทางออกไปให้ได้ ทุกคนในทีมต้องช่วยกันทำอะไรเพิ่มเติมอีกหลายอย่าง แค่รู้สึกสิ่งเดียวกันว่าเรา Stand for อะไร แล้วทุกคนส่งต่อในสิ่งเดียวกัน ถ้าลูกค้าสัมผัสถึงความตั้งใจของทีมที่จะมอบประสบการณ์ดีๆ ณ ห้วงเวลาที่เข้ามาในร้านเราได้ ผมว่าชีวิตเราโคตรมีความหมาย”
ทุกผู้ประกอบการร้านอาหาร ผมว่าเราอยู่ในมหาสมุทรเดียวกัน โดยทุกคนเป็นเหมือนเรือ เรือใครเจ๋งที่สุด วิ่งผ่านคลื่นลมแรงไปได้ ผมว่าปีนี้ (2567) สภาพเศรษฐกิจมีความท้าทาย เราก็แค่ต้องทำเรือของเราให้แข็งแรง ต้องปรับตัวให้ทัน ทุกอย่างที่เกิดขึ้นผมไม่โทษปัจจัยภายนอก แต่จะโทษปัจจัยภายใน เพราะว่าข้างใน ถ้าเรารอดก็รอด เหมือนตอนวิกฤตโควิดที่ต้องประกอบเรือให้แข็งแรง”
กับคำถามทิ้งท้าย “มิน ยูซุ” ใช้หลักอะไรในการเปิดตัวแบรนด์ใหม่ และขยายสาขาร้านอาหารที่มีความหลากหลาย แถมยังเปิดแบบไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ท่ามกลางเศรษฐกิจ ณ วันนี้ ที่ไม่มีอะไรแน่นอน
“อย่างแรกคือผมชอบหรือเปล่า ทีมเราชอบหรือเปล่า ถ้าชอบ แล้วเรามี Passion หรือเปล่า อยากทำมันทุกวันหรือเปล่า หลักของผมมีอยู่แค่นี้เอง ถ้าไม่อยากทำมันทุกวัน ก็ไม่ทำ ถ้าคิดว่าทำแล้วไม่มีความสุข ไม่สนุก ก็ห้ามทำเด็ดขาด ล่าสุดถึงเป็น Duri Buri หรือ ทุเรียนบุรี แบรนด์น้องใหม่ล่าสุดของ YUZU GROUP ที่เพิ่งเปิดตัวขึ้นใหม่ ที่ ชั้น 1 สยามสแควร์วัน กำเนิดขึ้นจากความต้องการเชิดหน้าชูตาทุเรียน ผลไม้ที่ได้ชื่อว่าเป็นราชา หรือ The King of Fruits ของประเทศไทย เกิดเป็นผลิตภัณฑ์ทุเรียนที่มีความร่วมสมัย
ผมเชื่อว่าถ้าไม่ใส่ความร่วมสมัยลงไป ทุเรียนจะไปไม่ได้ไกลกว่าการเป็นผลไม้พื้นถิ่น ทั้งที่มันเป็นผลไม้ที่มีผู้ชื่นชอบ และได้รับความนิยมสูงสุดจากทั้งคนไทยและต่างชาติ ผมปรารถนาให้คนต่างชาติเวลาที่เขานึกถึงทุเรียน ต้องนึกถึง Duri Buri เป็นชื่อแรก หรือทุกครั้งเวลาเขาอยากกินทุเรียน อยากลองกินทุเรียน หรือผลิตภัณฑ์อะไรก็ตามจากทุเรียน จะต้องเข้ามาลองที่ Duri Buri อยากให้ที่นี่เป็น Durian Scene in Thailand สร้างภาพลักษณ์ใหม่ แต่ไม่ใช่รสชาติใหม่ รสชาติยังคงเป็นรสชาติเดิม แต่สร้างภาพ สร้างความเข้าใจใหม่เกี่ยวกับทุเรียน มันไม่ได้มีแค่เนื้อทุเรียน แต่ทุเรียนยังนำไปทำผลิตภัณฑ์อะไรอื่นได้หลากหลาย เช่น เบเกอรี่ ไอศกรีม ทำทุเรียนอบแห้ง หรือเอาไปใส่เป็นส่วนผสมของอะไรก็อร่อยไปเสียทั้งหมด
อยากให้ทั่วโลกเวลาพูดถึงทุเรียนแล้วเหมือนพูดถึงคาเวียร์ ไม่ว่าคนชอบหรือไม่ชอบคาเวียร์ แต่เมื่อพูดถึงคนจะคิดว่าพรีเมียม เป็นวัตถุดิบของการเฉลิมฉลองในโอกาสพิเศษ แล้วทุเรียนล่ะ ทำไมคนคิดแบบนั้นไม่ได้ ในเมื่อผลไม้ชนิดนี้ของไทยเรามีชื่อเสียง มีคุณสมบัติที่ดีและมีประโยชน์มากมาย ผมอยากทำให้ทุเรียนเป็นแบบนั้น อยากทำทุเรียนให้เหมือนกับคาเวียร์บนเวทีโลก” มิน ยูซุ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี