การทำงานที่ต้องใช้คอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน หรือการเล่นมือถือติดต่อกันหลายชั่วโมง พฤติกรรมเหล่านี้อาจทำให้เป็นโรคพังผืดข้อมือกดทับเส้นประสาท (Carpal
Tunnel Syndrome) ซึ่งมักพบได้บ่อยในกลุ่มคนวัยทำงาน หรือคนที่ชอบเล่นมือถือ หากไม่ได้รับการรักษาที่เหมาะสม อาการอาจรุนแรงขึ้นและอาจนำไปสู่การสูญเสียความสามารถในการใช้มือได้อย่างถาวร
แพทย์หญิงวิชชุรีย์ เวชชากุล ศัลยแพทย์กระดูกและข้อเฉพาะทางด้านมือ โรงพยาบาลเวชธานี กล่าวว่า โรคพังผืดข้อมือกดทับเส้นประสาท เกิดจากการที่เส้นประสาทมีเดียน (Median Nerve) ซึ่งอยู่ในอุโมงค์ข้อมือถูกกดทับจนทำให้เกิดอาการปวดและชาที่มือ โดยอาการนี้พบได้บ่อยในคนที่ใช้มือทำงานหนักๆ หรือการทำงานที่ต้องมีการเคลื่อนไหวข้อมือซ้ำๆเช่น การพิมพ์งาน การใช้เครื่องมือหนักการทำงานบ้าน หรือการทำงานที่ต้องยกของรวมถึงการขับขี่รถยนต์และรถจักรยานยนต์เป็นเวลานาน
อาการของโรคพังผืดข้อมือกดทับเส้นประสาท ประกอบด้วย 1.อาการชา รู้สึกชาที่บริเวณนิ้วมือ โดยเฉพาะนิ้วโป้ง นิ้วชี้นิ้วกลาง และครึ่งนิ้วนาง 2.อาการปวด จะปวดบริเวณข้อมือและนิ้วมือ ซึ่งอาจร้าวไปถึงแขนได้ 3.อาการอ่อนแรง หากมีการกดทับเส้นประสาทมีเดียนเป็นเวลานาน อาจทำให้กล้ามเนื้อนิ้วหัวแม่มืออ่อนแรง หยิบจับสิ่งของหลุดมือง่าย หรือไม่สามารถหยิบจับสิ่งของได้ดี 4.อาการในช่วงกลางคืน อาการชาและปวดมักเป็นมากขึ้นในช่วงกลางคืน หรือเมื่ออยู่ในท่าที่งอข้อมือ
แพทย์หญิงวิชชุรีย์ เวชชากุล
แพทย์จะวินิจฉัยจากการซักประวัติร่วมกับการตรวจร่างกาย และอาจมีการตรวจด้วยคลื่นไฟฟ้าวินิจฉัย (Electrodiagnosis)ในการตรวจหาความผิดปกติของเส้นประสาทเพื่อวางแผนการรักษาได้อย่างตรงจุดและมีประสิทธิภาพ
การรักษาโรคพังผืดกดทับเส้นประสาทมีการรักษาหลายแบบขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรคดังนี้ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ข้อมือ โดยลดการใช้ข้อมือลงเท่าที่จะทำได้หรือทำการเปลี่ยนอุปกรณ์การทำงานให้เหมาะสมมากยิ่งขึ้น, การใช้อุปกรณ์พยุงข้อมือ(wrist support) วิธีนี้เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมที่อาจจะส่งผลให้อาการพังผืดกดทับเส้นประสาทแย่ลง หรือมีอาการปวดชามากตอนกลางคืน แพทย์จะแนะนำให้สวม wrist support เพื่อให้ข้อมืออยู่ในท่าที่เหมาะสม ไม่เพิ่มการกดทับเส้นประสาทมีเดียน, การใช้ยาต้านการอักเสบกลุ่ม NSAIDs เช่น ไอบูโพรเฟน นาพรอกเซน เพื่อลดอาการปวด บวม รวมถึงยากลุ่มที่ช่วยลดการอักเสบของเส้นประสาท และวิตามินบำรุงเส้นประสาท, ฉีดสเตียรอยด์ ซึ่งเป็นสารที่มีคุณสมบัติในการต้านการอักเสบ และระงับอาการปวด, การทำกายภาพบำบัด ซึ่งนักกายภาพบำบัดจะแนะนำวิธีและขั้นตอนการทำกายภาพบำบัดบริเวณข้อมือ เพื่อให้เส้นประสาทมีเดียนเคลื่อนไหวในช่องข้อมือได้สะดวกขึ้น รวมถึงใช้เครื่องมือช่วยลดการอักเสบและกระตุ้นการฟื้นตัวของเส้นประสาท
หากรักษาวิธีดังกล่าวแล้วอาการไม่ดีขึ้นแพทย์อาจแนะนำการรักษาด้วยวิธีการผ่าตัด ซึ่งปัจจุบันมีทั้งวิธีการผ่าตัดแบบแผลเปิดขนาดเล็ก (Mini Open Carpal TunnelRelease) และวิธีการผ่าตัดผ่านกล้องเอนโดสโคป (Endoscopic Carpal Tunnel Release:ECTR) ซึ่งแพทย์จะทำการเปิดแผลขนาดเล็กที่บริเวณข้อมือ จากนั้นสอดกล้องเล็กๆ เข้าไปในอุโมงค์ข้อมือเพื่อดูบริเวณที่มีการกดทับ จากนั้นใช้เครื่องมือพิเศษเพื่อตัดพังผืดที่กดทับเส้นประสาทมีเดียน เพื่อให้เส้นประสาทมีพื้นที่มากขึ้นและลดแรงกดทับโดยวิธีนี้จะทำให้แผลผ่าตัดมีขนาดเล็กประมาณ 1 เซนติเมตร แผลจะเป็นแบบแนวนอนอยู่บริเวณข้อมือ ทำให้หลังผ่าตัดหากไม่สังเกตจะไม่ค่อยเห็นรอยแผลเพราะกลมกลืนไปกับผิวหนังในบริเวณนั้น
อย่างไรก็ตาม โรคพังผืดข้อมือกดทับเส้นประสาทสามารถรักษาให้หายได้หากตรวจพบเร็วและได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี