สสธวท พร้อมด้วยองค์กรภาคีเครือข่าย จัดสร้างซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา 28 กรกฎาคม 2567

สสธวท พร้อมด้วยองค์กรภาคีเครือข่าย จัดสร้างซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา 28 กรกฎาคม 2567

วันอังคาร ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2567, 06.00 น.

สหพันธ์สมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ (สสธวท) โดย คุณหญิงณัฐิกา วัธนเวคิน อังอุบลกุล ประธานสหพันธ์ฯ ร่วมกับ พญ.วันทนีย์ วัฒนะ ปลัดกรุงเทพมหานคร, อู๋ จื้ออู่ อัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย, สนั่น อังอุบลกุล ประธานหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย, ณรงค์ศักดิ์ พุทธพรมงคล ประธานหอการค้าไทย-จีน จัดงานแถลงข่าวความคืบหน้าการจัดสร้างซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ72 พรรษา 28 กรกฎาคม 2567 เพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ณ โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพฯ ถนนราชดำริ

คุณหญิงณัฐิกา วัธนเวคิน อังอุบลกุลประธาน สสธวท กล่าวว่า สืบเนื่องจากการจัดงานกาลาดินเนอร์เฉลิมพระเกียรติฯ“เบญจกตัญญุตา” ภายใต้โครงการ “สสธวท รวมในเทิดเอกลักษณ์แห่งปัญจมังกร จารึกความกตัญญูต่อแผ่นดิน” เมื่อวันที่ 25 สิงหาคมที่ผ่านมา สำเร็จลุล่วงไปอย่างงดงาม ซึ่งต่อมาได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้คณะกรรมการจัดงานกาลาดินเนอร์เฉลิมพระเกียรติฯและคณะกรรมการอำนวยการโครงการจัดสร้างซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติฯ เข้าเฝ้าฯ ทูลเกล้าฯถวายเงินเพื่อเป็นทุนประเดิมการก่อสร้าง และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานเงินทุนประเดิมแก่คณะกรรมการจัดสร้างซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติฯ และขอพระบรมราชวินิจฉัย ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน คณะกรรมการ จึงมีปณิธานที่แน่วแน่ที่จะเชิญชวนให้ชาวไทยทุกหมู่เหล่า มีบทบาทในโครงการจัดสร้างซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา 2 แลนด์มาร์คใหม่บนถนนเจริญกรุง


“สำหรับโครงการจัดสร้างซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา สัญลักษณ์แห่งความกตัญญู และความจงรักภักดีของชาวไทยเชื้อสายจีนที่มีต่อพระมหากษัตริย์ไทยมาอย่างยาวนานตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน มีแนวคิดเอกลักษณ์ 5 ประการ ดังนี้ 1.พระมหากษัตริย์ทรงได้รับการสดุดีเป็นมังกรแห่งมวลมนุษย์ 2.นักษัตรประจำปีพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 3.ปีพุทธศักราช 2567 เป็นปีนักษัตรปีมังกรตามสุริยคติ 4.วัดเล่งเน่ยยี่หรือ วัดมังกรกมลาวาส เป็นหนึ่งในศูนย์รวมพุทธศาสนิกชน 5.ถนนเจริญกรุงได้ชื่อว่าถนนสายมังกร”

อู๋ จื้ออู่ อัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย กล่าวว่า ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์ สถานทูตจีนจึงขอมีส่วนร่วมในการจัดสร้างถาวรวัตถุที่แสดงถึงสัญลักษณ์อันยิ่งใหญ่นี้ ด้วยการส่งหินแกะสลักรูปกลอง 4 คู่ ช้างแบบไทย สิงโตแบบจีนโบราณ จากหินชนิดพิเศษสีขาว ผลงานช่างแกะสลักโบราณระดับชาติ สำหรับใช้ประกอบฐานของซุ้มประตูทั้งสองแห่ง คาดว่าจะเสร็จทันส่งมอบก่อนวันตรุษจีนปีหน้า นอกจากเพื่อเทิดพระเกียรติในหลวงแล้วยังเป็นการร่วมเฉลิมฉลอง 50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า หินแกะสลักที่ร่วมจัดสร้างในครั้งนี้จะที่มีความหมายเชิงประวัติศาสตร์ ยังเป็นสัญลักษณ์เชิงมิตรภาพระหว่างจีน-ไทย และขอให้มิตรภาพของทั้งสองประเทศสถิตสถาพรชั่วกาลนาน

สนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ในฐานะตัวแทนภาคธุรกิจไทย กล่าวว่า หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ซึ่งถือเป็นองค์กรภาคเอกชนไทย ที่มีเครือข่ายทั่วประเทศกว่า 156,000 ราย ประกอบด้วย หอการค้าทุกจังหวัด สมาคมการค้า หอการค้าต่างประเทศในประเทศไทย และมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย รู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงได้ร่วมกันเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนการจัดสร้างโครงการซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา เพื่อเป็นการถวายพระเกียรติยศ แสดงออกถึงความจงรักภักดี ความกตัญญู ต่อพระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นศูนย์รวมใจของคนไทยทั้งชาติ และเป็นสัญลักษณ์แห่งความมั่นคง ร่มเย็น ภายใต้ร่มพระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และขอเชิญชวนประชาชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า ได้ร่วมกันเฉลิมฉลองในวาระพิเศษครั้งนี้ เพื่อเป็นหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ที่สำคัญของชาติไทยสืบไป

“ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา 28 กรกฎาคม 2567” จัดสร้างขึ้นในรูปแบบสถาปัตยกรรมจีนภาคเหนือ โดย แบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ “ฐานเสา” มีสีแดงประดับด้วยลวดลายมังกรสมัยราชวงศ์หมิงและชิง ตามความเชื่อว่าเป็นสัตว์มงคล จำนวน 1 คู่ ตั้งอยู่บนทางเท้าทั้งสองฝั่งของถนนเจริญกรุง “หลังคา” สีเหลืองสามชั้น โดยตรงกึ่งกลางของหลังคาชั้นบนสุด ประดิษฐานตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ด้านข้างซ้ายและขวาประดับด้วยมังกรปูนปั้นระบายสี หันหน้าเข้าหาตราสัญลักษณ์ สื่อถึงพสกนิกรชาวไทยเชื้อสายจีน ต่างน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณขององค์พระมหากษัตริย์ ที่ทรงปกเกล้าปกกระหม่อมให้ร่มเย็นเป็นสุขภายใต้พระบรมโพธิสมภาร

ส่วน “ฐานซุ้ม” เป็นฐานปัทม์แบบศิลปะไทย ออกแบบโดยกรมศิลปากร ด้านบนประดับด้วย ประติมากรรมกลองหินแกะสลัก ถัดมาด้านหน้าและด้านหลังของซุ้ม ประดับด้วยประติมากรรมช้างกับสิงโตแกะสลัก โดยทุกขั้นตอนการก่อสร้างใช้วิธีเตรียมวัสดุก่อสร้างทั้งหมดจากโรงงาน แล้วขนส่งมาประกอบยังสถานที่ก่อสร้าง และตกแต่งศิลปกรรมต่างๆ เพิ่มเติม จนแล้วเสร็จ โดยซุ้มประตูหมอมีจะเสร็จสิ้นเรียบร้อยไม่เกินวันที่ 15 พฤศจิกายน ส่วนซุ้มประตูที่สะพานดำรงสถิตมีขั้นตอนที่ซับซ้อนเล็กน้อย คาดว่าจะเสร็จสิ้นเรียบร้อยไม่เกินวันที่ 30 พฤศจิกายนนี้

โมเดลซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติฯ สะพานดำรงสถิต
โมเดลซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติฯ สะพานดำรงสถิต
โมเดลซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติฯ ตรงบริเวณห้าแยกหมอมี
โมเดลซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติฯ ตรงบริเวณห้าแยกหมอมี

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top