ผู้แทนองค์กรภาคีเครือข่ายร่วมจัดงาน รักษ์ข้อดูแลปอดและอ้อมกอดแห่งรัก
เพื่อรณรงค์สร้างความตระหนักความเข้าใจโรคปอดเป็นพังผืด คณะทำงานโรคปอดอินเตอร์สติเชียลและโรคปอดจากการทำงานและสิ่งแวดล้อม ภายใต้สมาคม
อุรเวชช์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จึงได้ร่วมกับ มูลนิธิรักษ์ข้อแห่งประเทศไทย และ บริษัท เบอริงเกอร์ อินเกลไฮม์ ประเทศไทย จัดกิจกรรม “รักษ์ข้อดูแลปอดและอ้อมกอดแห่งรัก” เพื่อสร้างความเข้าใจโรคปอดเป็นพังผืด ซึ่งมีความเกี่ยวพันกับโรคภูมิแพ้ตัวเอง แก่ผู้ป่วยรวมถึงภาคประชาชน สามารถคัดกรอง และวินิจฉัยและเข้ารับการรักษาได้ทันท่วงที จัดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ ณ โรงพยาบาลวชิระ
รศ.นพ.ศุภฤกษ์ ดิษยบุตร ประธานคณะอนุกรรมการโรคปอดอินเตอร์สติเชียลและโรคปอดจากการทำงานและสิ่งแวดล้อม (ILD Assembly) ภายใต้สมาคมอุรเวชช์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า “โรคปอดเป็นพังผืด (Pulmonary fibrosis) เป็นโรคหายาก หนึ่งในกลุ่มโรคปอดอินเตอร์สติเชียล (interstitial lung disease หรือ ILD) ที่เกิดพังผืดขึ้นที่เนื้อเยื่อปอด ซึ่งอยู่ระหว่างชั้นถุงลมและหลอดเลือดในปอด ให้การแลกเปลี่ยนออกซิเจนทำได้ยากส่งผลให้ผู้ป่วยมีอาการหอบเหนื่อย รู้สึกหายใจไม่อิ่ม โดยบริเวณเนื้อเยื่อปอดที่มีพังผืดเกิดขึ้นแล้วจะไม่สามารถกลับคืนมาได้อีก และเมื่อตัวโรคพัฒนาเข้าสู่ภาวะลุกลามจะมีความรุนแรงเทียบเท่ากับโรคมะเร็ง ในผู้ป่วยที่ไม่ได้รับการวินิจฉัยหรือรักษา มักเสียชีวิตภายใน 3-4 ปี ปัจจุบันมีความชุกประมาณ 74.3 ถึง 76 รายต่อประชากร 100,000 คน โดยร้อยละ 13-40 ของผู้ป่วยในกลุ่มนี้ จะมีโอกาสพัฒนาเป็นภาวะปอดเป็นพังผืดชนิดลุกลามได้ ผู้ป่วยจำเป็นต้องปรึกษาแพทย์และคอยติดตามสม่ำเสมอ
“ถือเป็นครั้งแรกที่คณะอนุกรรมการฯ ได้ร่วมกับมูลนิธิรักษ์ข้อและภาคีเครือข่ายจัดงาน “รักษ์ข้อดูแลปอดและอ้อมกอดแห่งรัก” เพื่อให้ความรู้แก่ผู้ป่วยและประชาชนทั่วไป โดยเน้นที่โรคพังพืดในปอดที่มีสาเหตุมาจากโรคแพ้ภูมิตัวเองหรือโรคเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน ซึ่งพบค่อนข้างบ่อย เช่น โรคหนังแข็งโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ โรคกล้ามเนื้ออักเสบ โรคเอสแอลอี ซึ่งหากผู้ป่วยมีอาการทางปอด ไม่ว่าจะเป็นปอดอักเสบ หรือปอดมีพังผืด จะมีผลต่อคุณภาพชีวิต ผู้ป่วยและญาติจึงควรมีความตระหนักรู้เพื่อรับการวินิจฉัยอย่างทันท่วงที โดยเฉพาะในระยะแรกของโรคเพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิต ชะลอการสูญเสียของสมรรถภาพปอดในอนาคต”
รศ.พญ.ประภาพร พิสิษฐ์กุล และ รศ.นพ.ศุภฤกษ์ ดิษยบุตร
รศ.พญ. ประภาพร พิสิษฐ์กุล อายุรแพทย์โรคข้อและรูมาติซั่ม โรงพยาบาลรามาธิบดี กล่าวว่า “โรคปอดเป็นพังผืดมีความเกี่ยวข้องกับผู้ป่วยโรคแพ้ภูมิตนเองหรือโรคเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน โดยเฉพาะ ผู้ป่วยโรคหนังแข็ง จำนวนมากกว่า 50% มีโอกาสเกิดพังผืดในปอดค่อนข้างเร็ว แนะนำให้แพทย์วินิจฉัยโรคปอดเป็นพังผืดแต่เนิ่นๆ และให้การรักษาอย่างรวดเร็วเพื่อควบคุมไม่ให้ปอดเป็นพังผืดลุกลามมากขึ้น เพราะจะทำให้ผู้ป่วยเหนื่อยง่ายมากขึ้นและส่งผลต่อคุณภาพชีวิตได้ โรคปอดเป็นพังผืดเป็นโรคใกล้ตัวและทุกคนมีโอกาสเป็นได้ เนื่องจากสภาพอากาศและมลภาวะในปัจจุบันส่งผลต่อสุขภาพทำให้เป็นโรคแพ้ภูมิตนเอง และมีโอกาสทำให้ปอดเป็นพังผืดได้มากขึ้นด้วย จึงอยากให้ทุกคนดูแลสุขภาพและมีความตระหนักถึงโรคปอดเป็นพังผืดด้วยเช่นกัน”
โรคปอดเป็นพังผืด มีความซับซ้อน และยากต่อการวินิจฉัย เนื่องจากอาการคล้ายโรคปอดอื่นๆ ต้องอาศัยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางในการรักษา อาการโรคที่บ่งชี้ ได้แก่ ไอเรื้อรัง หรือ หอบเหนื่อยมานานกว่า 2 เดือน โดยหาสาเหตุอื่นไม่พบ เมื่อฟังเสียงปอดพบเสียงผิดปกติที่ชายปอดทั้ง 2 ข้าง คล้ายเสียงลอกแถบตีนตุ๊กแก และออกซิเจนปลายนิ้วต่ำเมื่อออกกำลังดังนั้นหากสงสัยว่ามีอาการของโรคปอดเป็นพังผืดให้รีบปรึกษาแพทย์ใกล้บ้าน เพื่อซักประวัติตรวจร่างกาย และส่งตรวจเอกซเรย์ปอดเบื้องต้น และเมื่อแพทย์สงสัยว่าเป็นโรคปอดเป็นพังผืด จะส่งต่อไปยังแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อทำการตรวจเพิ่มเติม เช่น CT Scan, การทดสอบสมรรถภาพปอด หากได้รับการวินิจฉัยและรักษาตั้งแต่ระยะเริ่มต้น จะสามารถชะลอการดำเนินโรคและมีชีวิตได้นานขึ้น ปัจจุบันมียาต้านพังผืดที่ช่วยชะลอการดำเนินของโรคให้ช้าลง และลดโอกาสเกิดอาการกำเริบฉับพลัน
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถรับชมแอนิเมชั่นให้ความรู้เรื่องโรคปอดเป็นพังผืด หรือ โรคปอด ILD ได้ที่ https://youtu.be/TNQpKA_7gxQ?si=bdSDW3eGYVUuup91 สำหรับผู้ป่วยโรคปอดเป็นพังผืด และผู้ดูแลผู้ป่วยสามารถศึกษาข้อมูลโรคเพิ่มเติมได้ที่ LINE official : O2lung-ปอดโปร่ง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี