ในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา การรักษาภาวะมีบุตรยากได้มีพัฒนาการไปอย่างมาก โดยเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการเลี้ยงตัวอ่อน (Embryo Incubation) มีบทบาทสำคัญในการเพิ่มโอกาสความสำเร็จในการตั้งครรภ์สำหรับคู่สมรสที่มีบุตรยาก โดยพัฒนา เครื่องเลี้ยง ตัวอ่อน หรือ Embryo Incubator เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความแม่นยำในการเลี้ยงดูตัวอ่อนซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดหลังการปฏิสนธิ ถามว่า ทำไมเครื่องเลี้ยงตัวอ่อนถึงสำคัญ?
นายแพทย์องอาจ บวรสกุลวงศ์ สูตินรีเเพทย์ เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ ศูนย์นครธน กิฟท์ เฟอร์ทิลิตี้ เผยว่า เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์อาจทำได้หลายวิธี โดยหนึ่งในวิธีที่เป็นที่นิยม คือ การทำเด็กหลอดแก้ว(IVF/ICSI) ซึ่งคือ การปฏิสนธิของเซลล์ไข่ภายนอกร่างกายเพื่อช่วยให้เกิดการตั้งครรภ์ด้วยการฉีดอสุจิเข้าไปในเซลล์ไข่โดยตรงเพื่อเพิ่มโอกาสการปฏิสนธิ จากนั้นตัวอ่อนจะต้องถูกเลี้ยงภายนอกร่างกาย โดยอยู่ในห้องปฏิบัติการก่อนที่จะถูกฝังเข้าสู่โพรงมดลูก
ขั้นตอนในการเลี้ยงตัวอ่อนมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะการพัฒนาของตัวอ่อนในช่วงแรก ต้องถูกควบคุมให้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโต เพราะตัวอ่อนมีความไวต่อการเปลี่ยนแปลงทางอุณหภูมิ และแสง ซึ่งเครื่องเลี้ยงตัวอ่อนทำหน้าที่จำลองสภาพแวดล้อมให้เสมือนมดลูก โดยควบคุมปัจจัยต่างๆ ให้ตัวอ่อนสามารถพัฒนาตัวเองได้อย่างสมบูรณ์ จากนั้นจะคัดตัวอ่อนที่แข็งแรงเพื่อย้ายกลับเข้าสู่โพรงมดลูก และหลังจากใส่ตัวอ่อนไปแล้ว 9-11 วัน แพทย์จะนัดเจาะเลือดตรวจหาระดับฮอร์โมนการตั้งครรภ์เป็นลำดับต่อไป การทำ ICSI นับเป็นเทคโนโลยีทางการแพทย์ขั้นสูงอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยคู่สมรสที่มีภาวะมีบุตรยากให้สามารถมีบุตรได้
พงษ์เพชร เบญจพลวัฒนา นักวิทยาศาสตร์ ประจำศูนย์นครธน กิฟท์ เฟอร์ทิลิตี้ เผยว่า ปัจจุบันนวัตกรรมในการเลี้ยงตัวอ่อนได้ก้าวหน้าไปอย่างมากซึ่งเทคโนโลยีเครื่องเลี้ยงตัวอ่อนนี้มีฟังก์ชั่นที่ช่วยให้นักวิทยาศาสตร์สามารถตรวจสอบการเจริญเติบโตของตัวอ่อนได้อย่างต่อเนื่องด้วยการใช้กล้องและระบบ AI ในการติดตามผล
1.การติดตามการเจริญเติบโตของตัวอ่อนด้วย Time-Lapse Monitoring เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่น่าทึ่ง ซึ่งทำให้นักวิทยาศาสตร์สามารถดูพัฒนาการของตัวอ่อนได้ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมทั้งบันทึกภาพการเจริญเติบโตในทุกช่วงเวลาทำให้แพทย์สามารถเลือกตัวอ่อนที่มีคุณภาพดีที่สุดได้ โดยไม่จำเป็นต้องนำจานเพาะตัวอ่อนออกจากเครื่องเลี้ยง เพราะทุกครั้งที่มีการนำตัวอ่อนออกมาจากเครื่องเลี้ยงที่ถูกควบคุมสภาพแวดล้อมไว้อย่างเคร่งครัด จะทำให้ตัวอ่อนต้องเผชิญกับความเสี่ยงในการถูกทำลายหรือหยุดพัฒนา Time-Lapse Monitoring จึงสามารถช่วยลดความเสี่ยงนี้ได้
2.การควบคุมสภาวะแวดล้อมด้วย EmbryoScope Plus ทำให้เครื่องเลี้ยงตัวอ่อนในปัจจุบันมีระบบที่สามารถควบคุมอุณหภูมิและระดับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) และออกซิเจน (O2) ได้อย่างแม่นยำ เพื่อจำลองสภาพแวดล้อมให้คล้ายกับอยู่ภายในมดลูกที่เหมาะสมสำหรับการเจริญเติบโตของตัวอ่อน ทำให้ตัวอ่อนพัฒนาได้ในสภาวะที่ใกล้เคียงกับธรรมชาติที่สุด
3.มีการใช้ AI ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ในเครื่องที่สามารถวิเคราะห์พัฒนาการของตัวอ่อนโดยอัตโนมัติ จาก Time-Lapse Monitoring และให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับระยะเวลาและขั้นตอนการพัฒนาตัวอ่อนซึ่งจะให้คะแนนตัวอ่อนแต่ละตัวตามพัฒนาการในแต่ละขั้นตอน ช่วยให้แพทย์สามารถเลือกตัวอ่อนที่มีความสมบูรณ์เพื่อเพิ่มโอกาสสำเร็จในการฝังตัวและตั้งครรภ์สูงสุดได้อย่างแม่นยำมากขึ้น ทั้งนี้ยังสามารถนำเซลล์ของตัวอ่อนไปตรวจโครโมโซมก่อนใส่กลับเข้าไปในโพรงมดลูก
ทั้งนี้ การพัฒนาของเครื่องเลี้ยงตัวอ่อนนี้ สามารถควบคุมสภาพแวดล้อมได้อย่างเหมาะสม จะทำให้ได้จำนวนตัวอ่อนที่มีคุณภาพสูงในปริมาณที่มากขึ้น และตัวอ่อนสามารถเจริญเติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งส่งผลดีสำหรับผู้รับบริการในกระบวนการทำ ICSI ซึ่งคือ โอกาสความสำเร็จที่สูงขึ้น
ควรไปพบแพทย์เมื่อไร? นายแพทย์องอาจ กล่าวว่า แบ่งได้ 2 กลุ่ม กลุ่มแรกคือคู่ที่มีอายุต่ำกว่า 35 ปี พยายามมีลูกมาเป็นเวลานานกว่า 12 เดือน และกลุ่มที่สองคือคู่ที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไป พยายามมีลูกมาเป็นเวลานานกว่า 6 เดือน แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จ ควรไปปรึกษาแพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ เพื่อตรวจหาสาเหตุที่ทำให้ไม่สามารถตั้งครรภ์ได้สำเร็จ และรับการวินิจฉัยเพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสมได้ เพราะการรอคอยที่นานเกินไป อาจยิ่งลดโอกาสในการรักษาให้ประสบความสำเร็จ ดังนั้น การพบแพทย์ตั้งแต่เนิ่นๆ จะช่วยให้คุณได้รับการดูแลอย่างถูกต้องและทันเวลา
สนใจขอรับคำปรึกษาสอบถามได้ที่ ศูนย์นครธน กิฟท์ เฟอร์ทิลิตี้ โทร.02-4509999
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี