วันพฤหัสบดี ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ผู้หญิง
เปิดภาพจำแห่งความสูญเสีย สู่ชีวิตใหม่หลังภัยพิบัติในเมืองไทย มูลนิธิศุภนิมิตฯ กว่าทศวรรษแห่งการตั้งรับกับภัยธรรมชาติในอนาคต

เปิดภาพจำแห่งความสูญเสีย สู่ชีวิตใหม่หลังภัยพิบัติในเมืองไทย มูลนิธิศุภนิมิตฯ กว่าทศวรรษแห่งการตั้งรับกับภัยธรรมชาติในอนาคต

วันเสาร์ ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2567, 06.00 น.
Tag : มูลนิธิศุภนิมิตฯ
  •  

 

ดร.สราวุธ ราชศรีเมือง

กระแสตื่นตัวเรื่องภัยพิบัติ สร้างความตระหนักรู้ให้กับคนไทยเป็นอย่างมากและหากจะพูดถึงเหตุการณ์ที่ยังคงอยู่ในความทรงจำของคนไทยและสร้างความสะเทือนใจไปทั่วโลก คงต้องย้อนกลับไปเมื่อปี 2547 กับเหตุการณ์ คลื่นยักษ์สึนามิที่ซัดถล่มภาคใต้ฝั่งอันดามัน โดยเฉพาะในจังหวัดภูเก็ต พังงา และกระบี่ แม้จะผ่านไปนานแล้ว ร่องรอยความเสียหาย และความช่วยเหลือจากหลายฝ่ายก็ยังคงดำเนินอยู่ ปัจจุบันมีการพัฒนาระบบเตือนภัยและแผนรับมือภัยพิบัติที่ดีขึ้นแต่ความเสี่ยงต่อการเกิดสึนามิในอนาคต ยังคงฝังอยู่ในใจคนพื้นที่อยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน เช่นเดียวกับ มูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย ที่ยังคงลงพื้นที่ ติดตาม ให้ความช่วยเหลือกับเด็กและชุมชนในพื้นที่ประสบภัยอยู่อย่างต่อเนื่อง


นายตะวัน ทรายอ่อน นักศึกษาชั้นปีที่ 4 สาขาจัดการภัยพิบัติ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานีพาเราย้อนกลับไปทบทวนถึงเหตุการณ์ในวันนั้นวันที่สึนามิพรากคนที่รักให้จากไปแบบไม่มีวันกลับถึง 3 ชีวิต ครอบครัว ทรัพย์สิน กลืนหายไปในชั่วพริบตา

“ผมเกิดและโตในครอบครัวชาวประมง ที่จังหวัดพังงา ผมจำได้ว่าวันที่เกิดเหตุการณ์สึนามิ วันนั้นปู่กับพ่อผมนำเรือออกทะเล ส่วนผมอยู่บ้าน คลื่นลูกใหญ่ซัดเรือแตก พ่อรอดแต่ปู่จมหายไปกลางทะเล เพียงไม่กี่นาที คลื่นที่ซัดเข้าฝั่ง ก็พัดเอาร่างของย่าและอาผมกลับลงไปด้วย ส่วนผมและคนอื่นๆ รอดมาได้เพราะเกาะอยู่บนต้นไม้ หลังจากนั้นเราก็ได้ไปอยู่ที่ศูนย์พักพิงชั่วคราวที่ทางจังหวัดจัดให้ บรรยากาศในช่วงนั้นต่างเต็มไปด้วยความโศกเศร้าสูญเสียที่ยากจะบรรยาย แม้จะผ่านมานานแล้วแต่ภาพจำเหล่านั้นผมเชื่อว่าผู้ประสบภัยที่ยังมีชีวิตอยู่ไม่เคยลืมแน่นอน รวมทั้งตัวผมด้วย”

ตะวัน ทรายอ่อน

แต่บนความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีตามมาอยู่ เมื่อความช่วยเหลือหลั่งไหลเข้ามายังพื้นที่ประสบเหตุ “ในช่วงนั้นเป็นช่วงเวลาที่โกลาหลมาก แต่ศุภนิมิตฯ ก็ยังอยู่เคียงข้างครอบครัวผมและทุกคนในชุมชนตั้งแต่วันแรกเพราะสึนามิยังไม่เคยเกิดขึ้นในไทยมาก่อน ส่วนใหญ่เสียชีวิตด้วยการจมน้ำ ไม่รู้วิธีรับมือภัยพิบัติทางธรรมชาติ ศุภนิมิตฯ เข้ามาฟื้นฟูทั้งสภาพจิตใจ ส่งเสริมอาชีพให้ชุมชนสนับสนุนอุปกรณ์ทำกิน และผมก็ได้เข้าร่วม โครงการอุปการะเด็ก ใน จ.พังงา ตั้งแต่นั้นมาจนมาถึง โครงการส่งน้องจบ ป.ตรี ผมเลือกเรียนในสาขาจัดการภัยพิบัติ และปัจจุบัน ผมกำลังฝึกงานอยู่ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเพื่อทำตามความฝันที่อยากจะใช้ความรู้ด้านเทคโนโลยีการป้องกันภัยพิบัติ และคาดคะเนการเกิดภัยธรรมชาติที่ได้เรียนมากลับไปพัฒนาบ้านเกิด สร้างเกราะป้องกันภัยด้วยการให้ความรู้กับคนในชุมชนด้านการเอาตัวรอดเมื่อเกิดภัยพิบัติต่างๆ เพราะไม่อยากให้ภาพจำในอดีตเกิดขึ้นกับทุกคนในชุมชนเพียงเพราะเราขาดความรู้และความเข้าใจในการเอาตัวรอด เราได้สร้างภาคีเครือข่ายกับคนรุ่นใหม่ในแต่ละชุมชนเป็นสื่อกลางให้เด็กๆ และชุมชนรู้จักวิธีการรับมือกับภัยธรรมชาติได้อย่างทันท่วงทีด้วยครับ”

ด้าน ดร.สราวุธ ราชศรีเมืองผู้อำนวยการมูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย เผยถึงแนวนโยบายการรับมือกับภัยพิบัติของมูลนิธิศุภนิมิตฯ เพื่อเตรียมพร้อมในพื้นที่ดูแลของมูลนิธิฯ ว่า “สึนามิเมื่อปี 2547 ยังคงเป็นภัยธรรมชาติครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ โดยมีผู้เสียชีวิตประมาณ 230,000 รายใน 14 ประเทศ รวมทั้งประเทศไทยด้วย ในช่วงที่เกิดภัยพิบัติ World Vision(ศุภนิมิตสากล) ดำเนินการตามแนวทาง First In, Last Out โดยเราให้ความช่วยเหลือฉุกเฉินด้านการช่วยชีวิตมาเป็นอันดับแรก จากนั้น จึงดำเนินการตามแผนในระยะยาว เพื่อช่วยเหลือครอบครัวในด้านต่างๆ ให้ฟื้นตัวได้ และสร้างบ้านใหม่ กรณีของน้องตะวัน เป็นเครื่องพิสูจน์ที่ดี ถึงผลกระทบและความพยายามร่วมกันของเรา

ที่ทำสำเร็จตลอด 20 ปี หลังเกิดเหตุเรารู้สึกขอบคุณที่เห็นเขาและชุมชนของเขาพัฒนาฟื้นฟูตนเองขึ้นมาได้ และเตรียมพร้อมรับมือกับภัยพิบัติได้ดีขึ้น นอกเหนือจากประเทศไทยแล้ว World Vision ยังได้ให้ความช่วยเหลือใน 4 ประเทศที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด ได้แก่ อินโดนีเซีย ศรีลังกา อินเดีย และเมียนมา ให้ความช่วยเหลือแก่ผู้คนมากกว่า1 ล้านคน ภายใน 90 วันแรกหลังเกิดเหตุผ่านการมอบสิ่งของจำเป็นในการช่วยชีวิต เช่น อาหาร น้ำ ชุดสุขอนามัย พื้นที่สำหรับเด็ก และผู้คนอีก 1.1 ล้านคน สำหรับความพยายามในการบำรุงและฟื้นฟู เช่น การสร้างบ้านและโรงเรียน การเสริมสร้างศักยภาพในการดำรงชีพและการศึกษา ตลอดจนการฟื้นฟูอย่างยั่งยืน เช่น การปลูกป่าชายเลนทดแทน เป็นต้น

แม้เวลาจะผ่านมานานแล้ว แต่ศุภนิมิตฯเรายังลงพื้นที่ ติดตามความคืบหน้า ทำกิจกรรมกับเยาวชนและชุมชนที่ได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง เราทำงานภายใต้แผนการดำเนินงานด้านลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ (Disaster Risk Reduction : DRR) ให้กับชุมชนและโรงเรียน มูลนิธิศุภนิมิตฯ ยังมีการเปิดอบรมถ่ายทอดองค์ความรู้ในพื้นที่ดำเนินงานทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ รวมทั้ง พื้นที่ภาคใต้ที่เคยประสบกับภัยพิบัติสึนามิ เพื่อเป็นการให้เด็ก ครอบครัวและชุมชน ได้ป้องกัน เฝ้าระวัง และเตรียมความพร้อมเมื่อต้องประสบกับภัยพิบัติในทุกรูปแบบ” ดร.สราวุธ ราชศรีเมือง กล่าว

กว่า 20 ปีที่เรื่องราวของนายตะวัน ทรายอ่อน หนึ่งในตัวอย่างของผู้ได้รับผลกระทบยังคงถูกพูดถึงและหยิบยกขึ้นมาเป็นบุคคลต้นแบบที่เป็นเด็กในโครงการอุปการะของศุภนิมิตฯ ได้รับการช่วยเหลือฟื้นฟูด้านต่างๆ ตามแผนนโยบายรับมือภัยพิบัติ จนในวันนี้เติบโตเป็นบุคลากรคุณภาพ ที่พร้อมจะส่งต่อความช่วยเหลือให้สังคมและชุมชนของเขาต่อไปได้ ซึ่งสะท้อนให้เห็นภาพรวมความสำเร็จของการดำเนินงานตามพันธกิจของศุภนิมิตฯ ในการช่วยเหลือและแผนงานด้านตอบสนองภัยพิบัติได้อย่างเป็นรูปธรรมและสร้างความยั่งยืนให้ชุมชนด้วย

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและอัปเดตความเคลื่อนไหวได้ที่ https://www.facebook.com/worldvisionthailand หรือ โทร. 02-0229200

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • มูลนิธิศุภนิมิตฯ มอบโล่ The Heart of Giving : หัวใจแห่งการให้ ปีที่17  ปลูกฝังวินัยเด็กไทย อดทน-อดออม-แบ่งปัน กระแสตอบรับเกินคาด มูลนิธิศุภนิมิตฯ มอบโล่ The Heart of Giving : หัวใจแห่งการให้ ปีที่17 ปลูกฝังวินัยเด็กไทย อดทน-อดออม-แบ่งปัน กระแสตอบรับเกินคาด
  • มูลนิธิศุภนิมิตฯ ร่วมเฉลิมฉลองวันสตรีสากล ย้ำความมุ่งมั่นส่งเสริมสิทธิของผู้หญิงและเด็กหญิง มูลนิธิศุภนิมิตฯ ร่วมเฉลิมฉลองวันสตรีสากล ย้ำความมุ่งมั่นส่งเสริมสิทธิของผู้หญิงและเด็กหญิง
  • ‘รสลิน โกแวร์’ นั่งเก้าอี้ผู้อำนวยการมูลนิธิศุภนิมิตฯ คนล่าสุด ‘รสลิน โกแวร์’ นั่งเก้าอี้ผู้อำนวยการมูลนิธิศุภนิมิตฯ คนล่าสุด
  • มูลนิธิศุภนิมิตฯ จัดกิจกรรม LIMITLESS GRACE  ขอบคุณผู้มีอุปการคุณ ‘เพราะทุกท่าน คือ ฮีโร่’ มาตลอด 50 ปี มูลนิธิศุภนิมิตฯ จัดกิจกรรม LIMITLESS GRACE ขอบคุณผู้มีอุปการคุณ ‘เพราะทุกท่าน คือ ฮีโร่’ มาตลอด 50 ปี
  •  

Breaking News

'ม็อบภูเก็ต'มาแล้ว! นัด 19 มิ.ย.รวมตัวไล่'คนขายชาติ'

พปชร.สวดยับ! ‘เทคนิคการเจรจา’หรือว่า‘ขายชาติ’ ประชาชนเป็นคนตัดสินเอง

‘กลุ่มราษฎรรักชาติ’ไม่ทน! นัดรวมพล 20 มิ.ย.ไล่‘อิ๊งค์’พ้นนายกฯ-จี้พรรคร่วมฯถอนตัว

หนุน‘รทสช.’ถอนตัวรัฐบาล ‘น้าเดช’ย้ำเคารพการตัดสินใจ‘พีระพันธุ์-เอกนัฏ’

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved