ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทางการแพทย์ในยุคปัจจุบันทำให้คนมีอายุยืนยาวขึ้น แต่การมีชีวิต ที่ยืนยาวอย่างมีคุณภาพ ไม่ได้หมายถึงแค่สุขภาพภายในที่ดีเท่านั้น ผิวพรรณและรูปลักษณ์ภายนอกก็มีความสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างความมั่นใจด้วยเช่นกัน นี่จึงกลายเป็น “New Lifestyle” ของคนยุคใหม่ที่ให้ความสำคัญกับการดูแลตัวเองกันมากขึ้น ทำให้บริษัทชั้นนำทั่วโลกต่างพัฒนาเทคโนโลยีด้านสุขภาพและความงามให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ Wontech Asia(วอนเทค เอเชีย) ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพและความงามอันดับ 1 ของเกาหลี ที่ล่าสุดได้จัด 1st WON Prestige Gala งานเฉลิมฉลองครั้งใหญ่กับความสำเร็จยอดขาย Oligio ทะลุ 400 ล้านบาทพร้อมอัปเดตเทรนด์ความงามในปีนี้
ในงานได้รับเกียรติจาก คิม จองวอน ประธานกรรมการบริหาร บริษัท วอนเทค เอเชีย จำกัดมาเป็นประธานเปิดงาน พร้อมด้วยแขกผู้มีเกียรติ อาทิ ไอแซค จาง ผู้จัดการทั่วไป บริษัท วอนเทคเอเชีย จำกัด, ศ.พญ.รังสิมา วณิชภักดีเดชา, นพ.สมิทธิ์ อารยะสกุล, พญ.อรุณี ทองอัครนิโรจน์,ผศ.นพ.มาศ ไม้ประเสริฐ, พญ.จิรา คุณากรวงศ์, นพ.อุกฤษ จิรภัทรสุนทร, นพ.แพทย์ดิสพงศ์ ปณิฐาภรณ์, นพ.ชญานิน กสิณฤกษ์ และ ชินวุฒ อินทรคูสิน ฯลฯ ณ โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ เมื่อวันพุธที่ 12 กุมภาพันธ์ 2568
ไอแซค จาง ผู้จัดการทั่วไป บริษัท วอนเทค เอเชีย จำกัด เผยว่า “Wontech ยึดมั่นในแนวคิด (Wonders of Technology) โดยมุ่งเน้นการลงทุนการวิจัยและพัฒนาเพื่อคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ พร้อมพัฒนาเทคโนโลยีที่มีอยู่ให้ดียิ่งขึ้น เพื่อที่จะก้าวไปเป็นผู้นำระดับโลกในอุตสาหกรรมความงามและการแพทย์ โดยในปีที่ผ่านมา Oligio โปรแกรมทรีตเมนต์ยกกระชับผิวหน้าและลำคอ กระตุ้นกระบวนการผลิตคอลลาเจน ด้วยคลื่นวิทยุความแรงสูง (Monopolar RF) ได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากผู้ใช้งานจริงเป็นอย่างมาก โดยสามารถทำยอดขายได้ถึง 400 ล้านบาท และในปีนี้ Wontech เตรียมเดินหน้าผลักดัน Picocare MAJESTY และ Picoalex สู่ตลาดประเทศไทยผ่านพันธมิตรคลินิกชั้นนำ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งและพัฒนาโอกาสทางธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนของ Wontech Asia”
ด้าน ศ.พญ.รังสิมา วณิชภักดีเดชา ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง ได้อัปเดตเทรนด์ความงามสำหรับ ปี 2025 ว่า “ปัจจุบันผู้คนเริ่มหันมาใส่ใจการดูแลผิวก่อนที่ปัญหาจะเกิดขึ้น หรือที่เรียกว่า Preventive Beauty แทนที่จะรอให้มีริ้วรอยแล้วค่อยมารักษา เห็นได้จากกลุ่มคนรุ่นใหม่หันมาดูแลตัวเองเร็วขึ้น รวมถึงผู้ชายที่ให้ความสนใจในความงามมากขึ้น จากเดิมที่สัดส่วนลูกค้าชายมีไม่ถึง 5% ตอนนี้เพิ่มขึ้นเป็นกว่า 25% โดยเทรนด์ความงามในปีนี้ยังเน้นไปที่ผลลัพธ์ที่แลดูเป็นธรรมชาติ ไม่ดูเยอะจนเกินไป และการจะทำหัตถการอะไรต้องมีหลักฐานรองรับ (Evidence-Based) ที่สำคัญคือ ผู้บริโภคยุคนี้ต้องการการรักษาที่ใช้เวลาน้อย ไม่ต้องพักฟื้น (No Downtime) ซึ่งสะท้อนถึงไลฟ์สไตล์ที่เร่งรีบของคนยุคนี้ อีกหนึ่งแนวโน้มที่น่าสนใจคือแนวคิดเรื่อง (Imperfection) หรือความไม่สมบูรณ์แบบที่กลายเป็นเสน่ห์ เช่นเดียวกับศิลปะที่ความสมมาตร 100% อาจไม่ใช่สิ่งที่สวยงามที่สุด ในทางกลับกันความไม่สมบูรณ์ที่พอดีอาจเป็นสิ่งที่ทำให้เรามีเอกลักษณ์และดูดีในรูปแบบของตนเอง”
ด้าน นพ.สมิทธิ์ อารยะสกุล กล่าวเสริมว่า “เทรนด์ความงามในปีนี้คงหนีไม่พ้น การมีผิวพรรณ ที่เปล่งปลั่งแบบ “Luxury Face” โดยเน้นการดูแลผิวจากภายในสู่ภายนอก (Inside-Out Beauty) เช่น การทานวิตามิน การออกกำลังกายและการดูแลสุขภาพจิต ควบคู่ไปกับการดูแลผิวภายนอกสู่ภายในอย่างการใช้เครื่องมือมาช่วยกระตุ้นผิวให้เกิดการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว โดยปัจจุบันคนหันมาให้ความสนใจกับการฟื้นคืนความอ่อนวัยของผิวให้ดูเด็กขึ้น (Rejuvenation) กันมากขึ้น เพราะเชื่อว่าการมีผิวสุขภาพดีนั้น ช่วยให้ลุคโดยรวมดูดีขึ้นโดยไม่ต้องพึ่งการแต่งหน้าหนักๆ ซึ่งก็ได้รับอิทธิพลจากเทรนด์แฟชั่นและเทรนด์การแต่งหน้าในสมัยนี้ที่ฮิตการแต่งหน้าแบบ (Blur Effect) ที่เน้นผิวสวยเป็นธรรมชาติราวกับใช้ฟิลเตอร์ ยิ่งไปกว่านั้นหลายคนยังหันมาดูแลผิวแบบ Full Body เพื่อให้ทั้งผิวหน้าและผิวกายแลดูเปล่งปลั่งและมีออร่ากันมากขึ้น ตอกย้ำว่าคุณภาพผิวที่ดีคือพื้นฐานของความงามที่แท้จริง”
อัปเดตนวัตกรรมและเทรนด์ความงามได้ที่ Instagram : wontechasia และพบกับ Oligio โปรแกรมทรีตเมนต์ยกกระชับผิวหน้าและลำคอ ช่วยฟื้นฟูและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ให้ผิวดูดีและมีสุขภาพดีจากภายในสู่ภายนอก จาก WONTECH (วอนเทค) ที่คลินิกความงามทั่วประเทศ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี