(พุธที่ ๑๙ มีนาคม ๒๕๖๘) เวลา ๑๓.๐๐ น. ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เสด็จไปยังห้องประชุมใหญ่ ชั้น ๒ อาคารสถาบันบัณฑิตศึกษาจุฬาภรณ์ เขตหลักสี่ ทรงบรรยายพิเศษ เรื่อง กลไกการเกิดโรคมะเร็ง (Oncogenesis) ต่อเนื่องเป็นครั้งที่ ๓ พระราชทานแก่คณาจารย์ นักวิจัย และนักศึกษาสถาบันบัณฑิตศึกษาจุฬาภรณ์ ระดับปริญญาโทและปริญญาเอก ชั้นปีที่ ๑ และ ๒ สาขาวิชาพิษวิทยาสิ่งแวดล้อม และวิทยาศาสตร์ชีวภาพประยุกต์: อนามัยสิ่งแวดล้อม ของสถาบันบัณฑิตศึกษาจุฬาภรณ์
ในครั้งนี้ ทรงบรรยายหัวข้อ “การควบคุมการเพิ่มจำนวนของเซลล์ การเกิดเซลล์ตาย และเมแทบอลิซึมของเซลล์มะเร็ง รวมทั้งกลไกการเกิดพยาธิสภาพ ของมะเร็งในระดับโมเลกุล และระดับเซลล์ : กุญแจไปสู่การรักษาในอนาคต” ซึ่งในปัจจุบัน มีการใช้เทคนิคการตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงและการแสดงออกของยีนต่าง ๆ ในผู้ป่วยแต่ละคน ที่แยกความแตกต่างของมะเร็งแต่ละชนิดในระดับยีนได้ ทำให้การพยากรณ์โรคมีความแม่นยำ ช่วยให้แพทย์เลือกแผนการรักษาและยาที่ตรงกับการเปลี่ยนแปลงของโรค ทำให้ผลการรักษาดีขึ้น ทรงยกตัวอย่างความเป็นมาของการพัฒนายากลีเวค (Gleevec) ในการรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งเม็ดเลือดชนิดเรื้อรัง ซึ่งถือว่าเป็นยาตัวแรกที่พิสูจน์ให้เห็นความสำเร็จของหลักการในการรักษามะเร็งแบบมุ่งเป้า โดยใช้ข้อมูลพันธุกรรมที่จำเพาะของมะเร็ง มาพัฒนาหาแนวทางการรักษาด้วยยาที่ออกฤทธิ์ที่ตำแหน่งต่างๆ กันในเซลล์มะเร็ง ความเข้าใจในเรื่องชีววิทยาของเซลล์มะเร็ง ตลอดจนกลไกในแต่ละขั้นตอนหรือกระบวนการเจริญเติบโต การเพิ่มจำนวนเซลล์ จะเป็นพื้นฐานสำคัญที่จะนำไปสู่การพัฒนาวิธีการวินิจฉัยโรคมะเร็งตั้งแต่ในระยะเริ่มต้น ไปจนถึงการพัฒนายาและการรักษาที่มีประสิทธิภาพที่ดีขึ้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี