เนื่องในโอกาสที่ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาไทย เจริญพระชนมายุครบ 70 พรรษา วันที่ 2 เมษายน 2568 ศูนย์รับบริจาคอวัยวะ สภากาชาดไทย จัดงานเปิด “โครงการปลูกถ่ายหมอนรองกระดูกข้อเข่า กระดูกอ่อนกระดูกต้นขาส่วนปลาย และลิ้นหัวใจชนิดไร้เซลล์ เฉลิมพระเกียรติ 70 พรรษา สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี” ให้แก่ผู้ป่วยฟรี 70 ราย ถวายเป็นพระราชกุศลและเพื่อเป็นการช่วยเหลือให้ผู้ป่วยกลับมามีสุขภาพที่แข็งแรง มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ได้รับเกียรติจาก กลินท์ สารสิน กรรมการสภากาชาดไทย และประธานคณะกรรมการส่งเสริมกิจการ ศูนย์รับบริจาคอวัยวะ สภากาชาดไทย เป็นประธาน พร้อมด้วย นพ.วิศิษฎ์ ฐิตวัฒน์ ผู้อำนวยการศูนย์รับบริจาคอวัยวะฯ, รศ.นพ.สุภนิติ์ นิวาตวงศ์ รองผู้อำนวยการศูนย์รับบริจาคอวัยวะฯ, รศ.นพ.พงศ์ศักดิ์ ยุกตะนันท์ กรรมการคลังเนื้อเยื่อ ร่วมให้รายละเอียด โดยมี คณะกรรมการสภากาชาดไทย คณะกรรมการศูนย์รับบริจาคอวัยวะ สภากาชาดไทย ร่วมงาน ณ ห้องประชุมจุมภฎ 1-2 ชั้น 9 อาคารเฉลิมพระเกียรติบรมราชินีนาถ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชิต สภากาชาดไทย
กลินท์ สารสิน ถวายราชสักการะหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
กลินท์ สารสิน กรรมการสภากาชาดไทย และประธานคณะกรรมการส่งเสริมกิจการ ศูนย์รับบริจาคอวัยวะ สภากาชาดไทย ประธานจัดงาน กล่าวว่า โครงการปลูกถ่ายหมอนรองกระดูกข้อเข่า กระดูกอ่อนกระดูกต้นขาส่วนปลาย และลิ้นหัวใจชนิดไร้เซลล์ เฉลิมพระเกียรติ 70 พรรษา สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จัดขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกสเจริญพระชนมายุครบ 70 พรรษา ในวันที่ 2 เมษายน 2568 ในฐานะที่ทรงดำรงตำแหน่งอุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย ทรงงานเพื่อพสกนิกรทุกหมู่เหล่า อีกทั้งเพิ่มโอกาสให้ผู้ป่วยได้รับการรักษากลับมามีสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดี รวมถึงเป็นการเผยแพร่การทำงานของศูนย์รับบริจาคอวัยวะ สภากาชาดไทยให้ประชาชนได้รับทราบอย่างกว้างขวางมากยิ่งขึ้น
กลินท์ สารสิน กล่าวเปิดโครงการฯ
นพ.วิศิษฏ์ ฐิตวัฒน์ ผู้อำนวยการศูนย์รับบริจาคอวัยวะ สภากาชาดไทย กล่าวว่า ด้วยพันธกิจหลักของสภากาชาดไทย ในด้านการบริการทางการแพทย์ และสุขภาพอนามัยในการให้บริการรักษาพยาบาล ฟื้นฟู สร้างเสริมสุขภาพ และป้องกันโรคให้แก่ประชาชน และผู้ด้อยโอกาส ศูนย์รับบริจาคอวัยวะ สภากาชาดไทย จึงได้พัฒนาจัดตั้งคลังเนื้อเยื่อขึ้นมาตั้งแต่ พ.ศ. 2543 เพื่อดำเนินการจัดเก็บและจัดทำผลิตภัณฑ์เนื้อเยื่อซึ่งได้รับการบริจาค ได้แก่ ลิ้นหัวใจ หลอดเลือด ผิวหนัง กระดูกและเส้นเอ็น เพื่อนำไปใช้ในการปลูกถ่าย เป็นการช่วยชีวิต รักษาอาการบาดเจ็บ หรือความพิการให้กับผู้ป่วย
ผู้บริหารสภากาชาดไทยและคณะกรรมการศูนย์รับบริจาคร่วมงานแถลงข่าว จิราพร ศรีสอ้าน ผอ.สำนักสารนิเทศและสื่อสารองค์กรฯ, รศ.พญ.ดุจใจ ชัยวานิชศิริ ผอ.ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ, นพ.ชลิต เชียรวิชัย ผู้เชี่ยวชาญพิเศษคลังเนื้อเยื่อ, รศ.นพ.สุภนิติ์ นิวาตวงศ์ รองผู้อำนวยการศูนย์รับบริจาคอวัยวะฯ, กลินท์ สารสิน ประธานจัดงาน, นพ.วิศิษฎ์ ฐิตวัฒน์ ผู้อำนวยการศูนย์รับบริจาคอวัยวะฯ, พล.ท.นพ.อำนาจ บาลี ผอ.สำนักงานบรรเทาทุกข์ฯ และ บุญรักษ์ สรัคคานนท์ ผอ.สำนักงานเทคโนโลยีสารสนเทศฯ
ด้าน นพ.พงษ์ศักดิ์ ยุกตะนันท์ กรรมการคลังเนื้อเยื่อ ศูนย์รับบริจาคอวัยวะ สภากาชาดไทย กล่าวว่า โครงการปลูกถ่ายหมอนรองกระดูกข้อเข่า กระดูกอ่อนกระดูกต้นขาส่วนปลาย และลิ้นหัวใจชนิดไร้เซลล์ เฉลิมพระเกียรติ 70 พรรษาฯ จะทำการปลูกถ่ายหมอนรองกระดูกข้อเข่า กระดูกอ่อนกระดูต้นขาส่วนปลายให้กับผู้ป่วยที่ได้รับบาดเจ็บบริเวณข้อเข่ารุนแรง ทำให้หมอนรองกระดูกข้อเข่าฉีกขาดจนไม่สามารถเย็บซ่อมแซมได้ มีความจำเป็นต้องได้รับการรักษาด้วยวิธีผ่าตัดปลูกถ่ายหมอนรองกระดูกข้อเข่า (meniscus) หรือกระดูกอ่อนกระดูกต้นขาส่วนปลาย (osteochondral cartilage) ซึ่งขณะนี้คลังเนื้อเยื่อ ศูนย์รับบริจาคอวัยวะ สภากาชาดไทยสามารถจัดทำและบริการเนื้อเยื่อชนิดใหม่เพิ่มมากขึ้นได้แก่ หมอนรองกระดูกข้อเข่า (Meniscus allograft) ทั้งแบบแช่แข็ง (Frozen) และหมอนรองกระดูกข้อเข่าแบบมีเซลล์ที่มีชีวิต (Fresh)กระดูกอ่อนกระดูกต้นขาส่วนปลาย (Fresh distal femur osteochondral allograft) เพื่อใช้สำหรับปลูกถ่ายทดแทนกระดูกอ่อนบริเวณข้อเข่าที่เสียหายจากการบาดเจ็บหรือโรคอื่นๆ โดยสามารถปลูกถ่ายหมอนรองกระดูกข้อเข่าแบบเซลล์ที่มีชีวิตได้เป็นผลสำเร็จครั้งแรกของภูมิภาคเอเชีย
รศ.นพ.พงศ์ศักดิ์ ยุกตะนันท์ กรรมการคลังเนื้อเยื่อ (ที่ 2 จากขวา) พร้อมด้วย ผศ.พญ.ฉัตรอรุณ ริมสุขเจริญชัย ที่ปรึกษาด้านการจัดทำลิ้นหัวใจ และ นพ.ก้องภพ รัตนไชย แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านออร์โธปิดิกส์ คลังเนื้อเยื่อ ร่วมเสวนาการปลูกถ่ายหมอนรองกระดูกข้อเข่ากระดูกอ่อนกระดูกต้นขาส่วนปลาย และลิ้นหัวใจชนิดไร้เซลล์ โดยมี ทพญ.กิตติลักษณ์ จุลลัษเฐียร ดำเนินรายการ
สำหรับการปลูกถ่ายลิ้นหัวใจชนิดไร้เซลล์ จะทำในกลุ่มผู้ป่วยที่มีภาวะลิ้นหัวใจพิการแต่กำเนิด ลิ้นหัวใจติดเชื้อ เป็นต้น ซึ่งคลังเนื้อเยื่อ สภากาชาดไทยสามารถจัดเก็บและจัดทำลิ้นหัวใจพัลโมนิคเป็นลิ้นหัวใจชนิดไร้เซลล์ (decellular heart valve) ทำให้มีอายุการใช้งานได้นานกว่าลิ้นหัวใจบริจาคชนิดเดิมมาก ผู้ป่วยไม่จำเป็นต้องรับประทานยาต้านการแข็งตัวของเลือด ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงการผ่าตัดได้มากขึ้นทั่วประเทศ เนื่องจากโรงพยาบาลต่างๆ สามารถสั่งไว้ล่วงหน้า และเก็บไว้ในตู้เย็นอุณหภูมิ 4 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 1 ปี
“โครงการปลูกถ่ายหมอนรองกระดูกข้อเข่า กระดูกอ่อนกระดูกต้นขาส่วนปลาย และลิ้นหัวใจชนิดไร้เซลล์ เฉลิมพระเกียรติ 70 พรรษา สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี” ศูนย์รับบริจาคอวัยวะ สภากาชาดไทย พร้อมส่งมอบหมอนรองกระดูกข้อเข่าและลิ้นหัวใจชนิดไร้เซลล์จากคลังเนื้อเยื่อ เพื่อสนับสนุนการผ่าตัดปลูกถ่ายให้แก่ผู้ป่วยที่มีความจำเป็นต้องใช้เนื้อเยื่อเหล่านี้ จำนวน 70 ราย โดยไม่คิดมูลค่าเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวโรกาสมหามงคลพระชนมายุครบ 70 พรรษา เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาด้วยการ ปลูกถ่ายหมอนรองกระดูกข้อเข่า กระดูกอ่อนกระดูกต้นขาส่วนปลาย และลิ้นหัวใจชนิดไร้เซลล์อย่างทั่วถึง โดยมีระศยะเวลาในการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 2 เมษายน 2568 - 31 ธันวาคม 2569 จากโรงพยาบาลต่างๆ ทั่วประเทศ
สำหรับโรงพยาบาลหรือผู้ป่วยที่ต้องการเข้าร่วมโครงการ สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ พยาบาลคลังเนื้อเยื่อ ศูนย์รับบริจาคอวัยวะสภากาชาดไทยโทรศัพท์. 0 2256 4045 - 6 ต่อ 83701 หรือ 09 2247 9864 หรือ line ID : odctsb
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี