วันศุกร์ ที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ผู้หญิง
นักวิจัย ค้นพบ 'HeLP' นวัตกรรมกู้ชีพคนไทย จากเซรั่มน้ำยางพารา ขึ้นทะเบียนสิทธิบัตรรายแรกของโลก

นักวิจัย ค้นพบ 'HeLP' นวัตกรรมกู้ชีพคนไทย จากเซรั่มน้ำยางพารา ขึ้นทะเบียนสิทธิบัตรรายแรกของโลก

วันพฤหัสบดี ที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2568, 15.27 น.
Tag : เซรั่มน้ำยางพารา HeLP นวัตกรรมกู้ชีพ
  •  

ทีมวิจัย ม.สงขลาฯ ค้นพบ “HeLP” สารชีวโมเลกุลยางพาราครั้งแรกของโลก คุณสมบัติเพียบเป็นพรีไบโอติกช่วยปรับสมดุล เสริมภูมิคุ้มกันร่างกาย ยับยั้งเซลมะเร็งในสัตว์ทดลอง พร้อมพัฒนากระบวนการสกัดในระดับอุตสาหกรรมได้สำเร็จเป็นรายแรกของโลก


รศ.ดร.เภสัชกร ฐณะวัฒน์ พิทักษ์พรปรีชา ผู้อำนวยการศูนย์ความเป็นเลิศด้านการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีชีวภาพจากน้ำ ยางพาราสู่เชิงพาณิชย์ (CERB) มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ กล่าวว่า ในอุตสาหกรรมยางพารา น้ำยางที่ถูกนำมาแปรรูปเป็นยางแผ่นจะมีส่วนที่เป็นเนื้อยางอยู่เพียงร้อยละ 30-40 ส่วนที่เหลืออีกร้อยละ 60-70 เป็นส่วนที่เรียกว่า เซรั่มน้ำยางพารา จะถูกทิ้ง หากเป็นโรงงานอุตสาหกรรมจะนำไปผ่านการบำบัดก่อนจะปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ ขณะที่เกษตรกรรายย่อยบางครั้งอาจทิ้งลงแหล่งน้ำโดยตรง ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมตามมา เราพบว่ายางพาราเป็นพืชชนิดเดียวในโลกที่ถูกกรีดทำให้เกิดบาดแผลซ้ำ ๆ ทุกวัน แต่กลับสามารถฟื้นฟูรักษาตัวเองกลับมาได้อยู่เสมอ คณะนักวิจัยจึงคาดว่ายางพาราน่าจะผลิตสารบางอย่างเพื่อบำบัดตัวเอง ซึ่งน่าจะนำมาใช้ประโยชน์ได้ และเซรั่มน้ำยางพาราที่ถูกทิ้งในทุกวันเคยมีการวิจัยพบสารที่เป็นประโยชน์อย่างน้ำตาลคิวบราซิทอล (Quebrachitol) ซึ่งมีในปริมาณมากและยังสามารถสกัดออกมาได้ง่าย เราจึงคิดว่าน่าจะมีสารประกอบอื่นที่มีประโยชน์มากกว่านั้น และในที่สุดเราก็พบสารชีวโมเลกุลใหม่ HeLP (Hevea Latex Polysaccharide)

“สารตัวนี้เพิ่งมีการค้นพบเป็นครั้งแรกของโลก และมีคุณสมบัติเป็นพรีไบโอติก อย่างที่ทราบกันว่าพรีไบโอติกสารสกัดที่เพิ่งค้นพบในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ช่วยในการปรับสมดุลทางเดินอาหารซึ่งถือเป็นสมองส่วนที่ 2 ของร่างกาย หากรับประทานสิ่งที่ดีกับลำไส้และทางเดินอาหารก็จะสามรถกระตุ้นการทำงานและช่วยทำให้สุขภาพดีขึ้น ดังนั้นเราสามารถนำ HeLP มาใช้เพื่อส่งเสริมสุขภาพ ป้องกัน บำบัด และรักษาไปพร้อมกัน ปัจจุบันประเทศไทยสูญเสียงบประมาณในการรักษาประชากรเป็นจำนวนมาก แต่เรื่องการป้องกันยังเป็นส่วนน้อย ซึ่ง HeLP จะช่วยปรับภูมิคุ้มกันและทำให้สุขภาพของคนไทยให้ดีขึ้นได้”

จากการศึกษาของทีมวิจัยพบว่า HeLP สามารถปรับสมดุลได้ในระดับเซลล์ผ่านกลไกใหม่ที่เพิ่งมีการค้นพบและกำลังเป็นที่สนใจได้แก่ Gut-Microbiota-Immune-Brain-Axis สารดังกล่าวมีคุณสมบัติเป็นพรีไบโอติกมีบทบาทสำคัญในการปรับสมดุลของทั้งเชื้อจุลินทรีย์ประจำถิ่น (microbiota) และระบบภูมิคุ้มกัน (immune system) ในทางเดินอาหาร ส่งผลต่อเนื่องต่อการปรับสมดุลในการทำงานของภูมิคุ้มกันของร่างกาย สามารถต้านมะเร็งในสัตว์ทดลองแบบผ่านภูมิคุ้มกันเจ้าบ้าน (host-mediated anticancer) อีกทั้งยังมีผลโดยตรงต่อเซลล์และเนื้อเยื่อ ได้แก่ มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ และสมานแผลในระดับเซลล์ รวมถึงต้านการเกิดแผลในกระเพาะอาหารที่เกิดจากการดื่มแอลกอฮอล์ในสัตว์ทดลอง

“ส่วนประกอบของต้นยางพาราไม่เคยมีประวัติการนำมาบริโภคมาก่อน จึงถูกตีกรอบว่าเป็นไปไม่ได้ นี่จึงเป็นแรงผลักดันให้คณะนักวิจัยพยายามค้นคว้าจนสามารถเปลี่ยนสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้ เพราะเราไม่ได้บริโภคน้ำยางพาราแต่เป็นการนำสารสกัดที่มีอยู่ออกมา สาร HeLP เป็นสารกลุ่มโพลีแซคคาไรด์ คล้ายไฟเบอร์และข้าวแต่ซับซ้อน มีความทนทานต่อการย่อยในระบบทางเดินอาหารโดยเมื่อเป็นพรีไบโอติกแล้วจะทำหน้าที่กระตุ้นภูมิคุ้มกันทางเดินอาหาร ก่อนจะส่งต่อไปยังระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย ซึ่งมีการสื่อสารกับสมอง ส่วนไมโครไบโอต้าคือ เชื้อดี ๆ ในทางเดินอาหาร อิมมูนคือระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย และเบรนด์ เป็นการทำงานร่วมกันของทั้งสี่ระบบ ซึ่ง HeLP ตอบโจทย์ทั้งหมด และยังมีคุณสมบัติเด่นเรื่องไม่สะสมในร่างกาย เพราะร่างกายไม่ได้ดูดซึมโดยตรง จึงไม่เป็นพิษต่อตับและมีความปลอดภัย ซึ่งถือเป็นจุดเด่นที่สำคัญ เราอยากให้คนไทยมีสุขภาพที่ดีโดยใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ โดยสามารถทำเป็นผลิตภัณฑ์ได้ทุกรูปแบบทั้งผง เม็ด น้ำ แคปซูล เจล เพราะมีความคงตัวสูง แต่มีการดูดความชื้นที่ดี อาจจะตั้งทิ้งไว้นานไม่ได้เพราะมีน้ำตาลเป็นองค์ประกอบ รวมถึงผลิตเป็นเวชสำอางค์เนื่องจากมีคุณสมบัติในการช่วยสมาน แผล โดยมีฤทธิ์กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนทำให้แผลหายเร็วขึ้น ในอนาคตจะมีการทดลองในมนุษย์เพื่อผลิตเป็นสมุนไพรหรือยาต่อไป”

ดร.นำโชค โสมาภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินโนซุส จำกัด กล่าวว่า เจตนาแรกเริ่มที่ทำเรื่องนี้เนื่องจากช่วงที่มีการระบาดของโควิด เราอยากช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้นโดยเร็ว จึงพยายามหาทางออกเพื่อลดโอกาสเกิดโรคระบาดลง จนกระทั่งมีการค้นพบ HeLP ซึ่งเป็นสารชีวโมเลกุลตัวใหม่ของโลก ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการขึ้นทะเบียนเป็นอาหารใหม่ หากเรียบร้อยแล้วมีแผนจะพัฒนาร่วมกับผู้ประกอบการที่ผลิตเครื่องดื่มหรืออาหารเสริม ทั้งโรงงานผลิตอาหาร เครื่องดื่ม เครื่องสำอางค์ และยา โดยจะเริ่มทดลองการผลิตหลังจากได้รับการขึ้นทะเบียนเรียบร้อยแล้ว สำหรับเซรั่มบำรุงผิวพรรณที่นำมาจัดแสดงเป็นส่วนหนึ่งของเบต้ากลูแคนซึ่งมีการขึ้นทะเบียนไว้ก่อนแล้ว โดยนำเบต้ากลูแคนมาลดขนาดโมเลกุลลงด้วยการใช้เซรั่มน้ำยางพาราเพื่อให้สามารถดูดซึมเข้าผิวได้เร็วขึ้น ผลิตภัณฑ์ตัวนี้มีการผลิตและวางจำหน่ายแล้วที่ร้านโอเอ และเจมส์แกลเลอรี่ ของสยามเจมส์ สำหรับ HeLP ยังต้องรอการอนุมัติจาก อย. ก่อนถึงจะดำเนินการได้

“ผมเป็นหนึ่งในคนที่ร่วมทดลอง แรก ๆ รู้สึกว่าได้ประโยชน์และได้ผลดีจริง คนเป็นภูมิแพ้อย่างผมกินแล้วดีขึ้นมาก แต่ความท้าทายคือทำอย่างไรจะนำไปสู่การผลิตในปริมาณมาก เพราะนักวิจัยที่ทำงานในแล็บจะยึดมั่นกับความคิดของตัวเอง แต่ไม่ใช่สำหรับทีมของ รศ.ดร.เภสัชกร คณะนักวิจัยเปิดใจรับฟังมาก เราปรึกษากันว่าทำอย่างไรจะสามารถลดต้นทุนให้ได้อย่างน้อย 95% สำหรับการนำมาผลิตเพื่อใช้ประโยชน์ให้กับประชาชน เพราะต่อให้เป็นยาวิเศษแค่ไหนหากยังต้องใช้ทุนสูงอย่างที่ทำให้ห้องวิจัยก็จะไม่สามารถผลิตเชิงพานิชได้ ซึ่งทีมวิจัยก็พยายามช่วยหาวิธีเพื่อตอบโจทย์จนพบสารตัวใหม่อย่าง HeLP”

ทีมวิจัยได้จดสิทธิบัตรทั้งในไทยและต่างประเทศแล้ว โดยขณะนี้ HeLP อยู่ระหว่างการขอขึ้นทะเบียนเป็นอาหารใหม่ (novel food) ผ่านสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ซึ่งคาดว่าจะได้รับการอนุมัติ ภายในกลางปีนี้ รวมถึงอยู่ในระหว่างการสร้างโรงงาน Biorefinery เซรั่มน้ำยางพารามาตรฐาน GMP แห่งแรกของ โลกในนิคมอุตสาหกรรมภาคใต้ โดยบริษัท อินโนซุส จำกัด โดยโรงงานดังกล่าวมีความสามารถในการสกัดเซรั่มน้ำยางพาราได้วันละประมาณ 20,000 ลิตร ซึ่งจะผลิต HeLP ได้ประมาณเดือนละ 5,000 กิโลกรัม รวมถึงยังสามารถผลิต functional ingredients อื่น ๆ ซึ่งมีศักยภาพพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ในอุตสาหกรรมเวชสำอาง อาหารฟังก์ชั่น ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร นวัตกรรมชีวภาพ และอุตสาหกรรมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องได้อีกด้วย โดยปัจจุบันมีเซรั่มน้ำยาพาราที่เหลือทิ้งจากอุตสาหกรรมยางพาราถึง 300,000 ลิตรต่อเดือน

ศูนย์ความเป็นเลิศด้านการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีชีวภาพจากน้ำยางพาราสู่เชิงพาณิชย์ ได้ดำเนินการศึกษาวิจัยและพัฒนานวัตกรรมจากเซรั่มน้ำยางพารามาอย่างต่อเนื่องกว่า 20 ปี โดยได้รับสนับสนุนงบประมาณกว่า 200 ล้านบาทจากทั้งภาครัฐและเอกชน ผ่านหน่วยงานให้ทุนต่าง ๆ ภายใต้ อว. เช่น ศูนย์ความเป็นเลิศด้าน ชีววิทยาศาสตร์ (องค์การมหาชน) หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) รวมถึงมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และบริษัท อินโนซุส จำกัด ที่มุ่งมั่นพัฒนา
การค้นพบครั้งนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของแผนยุทธศาสตร์ของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ในการพัฒนาอุตสาหกรรมยางพาราแบบครบวงจร ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ โดยมุ่งเน้นการผลักดันงานวิจัยสู่การใช้ประโยชน์ก่อให้เกิดผลงานนวัตกรรมด้านยางพาราในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการในภาคอุตสาหกรรม อีกทั้งยังสร้างผลกระทบ (impact) ทั้งต่อสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และ สังคม ได้แก่ ลดมลพิษและต้นทุนในการบำบัดเซรั่มจากโรงงานอุตสาหกรรมยางพาราก่อนปล่อยสู่สิ่งแวดล้อม เพิ่มมูลค่าให้กับน้ำยางและส่วนของเซรั่ม ส่งเสริมสหกรณ์ กองทุนสวนยางให้มีมาตรฐาน GMP นำไปสู่การสร้างห่วงโซ่อุตสาหกรรมยางพาราใหม่ ที่สร้างความยั่งยืนและมั่นคงให้กับอุตสาหกรรมยางพารา

ทั้งยังเป็นการสร้างโอกาสของประเทศในการพัฒนาอุตสาหกรรม Biorefinery ซึ่งจะมีบทบาทมากขึ้นในอนาคต เนื่องจากเป็นตสาหกรรมที่ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับ วัตถุดิบทางการเกษตรและทรัพยากรชีวภาพ สร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจ ส่งเสริมการกระจายรายได้อย่างทั่วถึง (Inclusive economy) สนับสนุนเศรษฐกิจตามแนวทาง BCG Economy ที่ประกอบด้วยเศรษฐกิจชีวภาพ (Bioeconomy) เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) และเศรษฐกิจสีเขียว (Green Economy) เนื่องจากเป็นการพัฒนาภาคเกษตรที่มีประสิทธิภาพ ให้ความสำคัญกับการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติอย่างรู้คุณค่า (Regenerative economy) สร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่เซรั่มน้ำยางพาราซึ่งเป็นผลพลอยได้เหลือทิ้งในกระบวนการผลิต ไปพัฒนาต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals - SDGs) 

-(016)

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • อว.เผยความสำเร็จพัฒนา \'เซรั่มน้ำยางพารา\' สู่ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ อว.เผยความสำเร็จพัฒนา 'เซรั่มน้ำยางพารา' สู่ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ
  •  

Breaking News

'ด.ต.' เหยื่อแก๊ง สจ.กอล์ฟ รุมทำร้าย พบเลือดออกในตาดำ กระดูกใต้ตาขวายุบ

ลาสิกขาด้วยตนเอง! 'เจ้าคุณแย้ม'เจ้าอาวาสวัดไร่ขิงยอมสึกแล้ว

'อ๊อฟ พงษ์พัฒน์'ยอมรับสภาพฟรีทีวีอยู่ในช่วงขาลง ลั่นทำแล้วเหนื่อยเงินไม่มี-เรตติ้งดีขายไม่ได้

'นายกฯอิ๊งค์'ย้ำความสัมพันธ์แน่นแฟ้นไทย-เวียดนาม พร้อมเชิญร่วมชมซีเกมส์ในไทย

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved