ในยุคที่เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว คำว่า “Data-Driven” หรือ “ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล” กลายเป็นหัวใจสำคัญของการดำเนินธุรกิจ ไม่ว่าคุณจะอยู่ในอุตสาหกรรมไหน การตัดสินใจจากข้อมูลที่แม่นยำและทันสมัยจะช่วยเพิ่มโอกาสในการแข่งขัน และเมื่อผสมผสานกับ AI (Artificial Intelligence) หรือ “ปัญญาประดิษฐ์” ยิ่งทำให้ศักยภาพในการขับเคลื่อนธุรกิจเติบโตอย่างก้าวกระโดด
ข้อมูลจาก อุกฤษฎ์ ตั้งสืบกุล ผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท เรียล สมาร์ท จำกัด (มหาชน) และผู้บริหาร เรียล สมาร์ทอะคาเดมี่ (Real Smart Academy) เปิดเผยว่า การขับเคลื่อนด้วยข้อมูล (Data-Driven) คือการใช้ข้อมูลที่มีอยู่ในการวิเคราะห์เพื่อตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ ข้อมูลที่เราเก็บรวบรวมจากทุกช่องทาง ทั้งยอดขาย ความพึงพอใจของลูกค้า พฤติกรรมการซื้อ ไปจนถึงข้อมูลจากโซเชียลมีเดีย สามารถนำมาวิเคราะห์เพื่อเข้าใจลูกค้า คาดการณ์แนวโน้ม และวางแผนธุรกิจได้อย่างแม่นยำ เช่น การตลาด (Marketing) : ใช้ข้อมูลการเข้าถึงของลูกค้า (Customer Insights) เพื่อปรับแคมเปญการตลาดให้ตรงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น เช่น การใช้ข้อมูลจากพฤติกรรมการซื้อสินค้าออนไลน์เพื่อแนะนำสินค้าที่เหมาะสมที่สุด, การจัดการสินค้าคงคลัง (Inventory Management) : วิเคราะห์ข้อมูลยอดขายและความต้องการของตลาด เพื่อจัดการสต็อกสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น Walmart ใช้ AI วิเคราะห์ข้อมูลการขายเพื่อจัดการสต็อกสินค้าในแต่ละสาขาอย่างแม่นยำ ลดปัญหาของขาดและของเหลือ, การบริการลูกค้า (Customer Service): ใช้ข้อมูลจากการสอบถามและคำติชม มาพัฒนาการบริการให้ดีขึ้น เช่น Amazon ใช้ AI ในการตอบคำถามลูกค้าและแนะนำสินค้าผ่านระบบ Chatbotอย่างแม่นยำและรวดเร็ว, การขนส่งและโลจิสติกส์(Transportation & Logistics) : บริษัท DHL ใช้ Data Analytics ในการจัดการเส้นทางขนส่งเพื่อลดระยะทางและเวลาในการจัดส่งทำให้ลดต้นทุนและเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า
AI กับการพลิกโฉมธุรกิจ
AI ไม่ได้เป็นแค่โปรแกรมอัตโนมัติหรือหุ่นยนต์ แต่คือเครื่องมือที่ช่วย “คิด วิเคราะห์ และคาดการณ์” ได้ใกล้เคียงกับมนุษย์ แต่รวดเร็วและแม่นยำกว่า เช่น การวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analysis) : AI สามารถประมวลผลข้อมูลจำนวนมหาศาลได้ในเวลาไม่กี่วินาที ช่วยให้ผู้บริหารมองเห็นโอกาสและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น, การคาดการณ์ (Predictive Analytics) : การใช้ AI ในการคาดการณ์แนวโน้มตลาดหรือพฤติกรรมผู้บริโภค เช่น การคาดการณ์ยอดขายในช่วงเทศกาล การวิเคราะห์ความต้องการของลูกค้าในแต่ละช่วงเวลา ช่วยให้วางแผนล่วงหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ, การเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน (Automation) : ลดงานซ้ำๆที่ไม่จำเป็น เช่น การจัดการเอกสาร การตอบอีเมล หรือการตรวจสอบข้อมูล โดยการใช้ RPA (Robotic Process Automation) เพื่อให้กระบวนการทำงานอัตโนมัติและลดข้อผิดพลาด
ลองนึกภาพดูว่า หากองค์กรของคุณสามารถคาดการณ์แนวโน้มยอดขายได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว คุณจะสามารถวางแผนการผลิต จัดการคลังสินค้า และเตรียมการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
กรณีศึกษา : RealVision โดย RealSmart
RealVision เป็นแพลตฟอร์มที่ออกแบบมาเพื่อช่วยองค์กรในการดึงข้อมูลจากแหล่งต่างๆ เช่น social media, ข่าวสาร, และการสื่อสารออนไลน์ มาวิเคราะห์ด้วยเทคโนโลยี AI เพื่อค้นหา Insights ที่สำคัญและเป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจทางธุรกิจอย่างแม่นยำ ตัวอย่างการใช้งานของ RealVision ได้แก่
1.Social Listening และการติดตามกระแสสังคม
• RealVision สามารถดึงข้อมูลจากแพลตฟอร์มออนไลน์ เช่น Facebook, Twitter, และ Instagram เพื่อตรวจจับแนวโน้มและกระแสสังคมในแบบ Real-Time
• การวิเคราะห์ Sentiment Analysis ช่วยให้องค์กรเข้าใจความรู้สึกและความคิดเห็นของลูกค้า รวมถึงการติดตามประเด็นร้อนที่อาจส่งผลต่อแบรนด์ได้อย่างรวดเร็ว
2.Crisis Management และการจัดการวิกฤต
• ระบบการแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์ของ RealVision จะส่งสัญญาณเมื่อพบเหตุการณ์ที่อาจกลายเป็นวิกฤต พร้อมข้อมูลวิเคราะห์เกี่ยวกับที่มาของปัญหา
• ทีมงานสามารถใช้ข้อมูลนี้ในการตัดสินใจที่รวดเร็วและแม่นยำ ลดผลกระทบและปกป้องภาพลักษณ์ขององค์กร
3.Deep Data Analysis และการสกัดข้อมูลเชิงลึก
• RealVision ไม่เพียงแค่รวบรวมข้อมูลเท่านั้นแต่ยังสามารถวิเคราะห์และสกัด Insights ที่เป็นประโยชน์จากข้อมูลดิบ
• ช่วยให้ผู้บริหารมองเห็นแนวโน้มของตลาด ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น และโอกาสในการขยายธุรกิจได้อย่างแม่นยำ
ด้วยความสามารถที่หลากหลาย RealVision จึงถูกออกแบบมาเป็นเครื่องมือที่ครบวงจรในการจัดการข้อมูลจากหลายแหล่ง ทั้ง Social Media, เทรนด์การตลาด (Marketing Trends), และข้อมูลการขาย (Sales Data) ผ่านการวิเคราะห์เชิงลึกด้วย AI เพื่อดึง Insights ที่มีคุณค่าต่อการตัดสินใจทางธุรกิจอย่างทันท่วงที ช่วยให้องค์กรสามารถคาดการณ์แนวโน้ม ป้องกันวิกฤต และปรับกลยุทธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพส่งผลให้ธุรกิจสามารถเติบโตได้อย่างมั่นคงในยุคดิจิทัล ข้อมูลเพิ่มเติมที่ https://www.realsmart.co.th/
ก้าวต่อไปสำหรับองค์กรที่อยากเติบโตด้วย AI และ Data-Driven Technology ให้พิจารณาขั้นตอนดังนี้
1.เริ่มต้นจากการเก็บข้อมูลที่มีคุณภาพ การมีข้อมูลที่ครบถ้วนและเชื่อถือได้เป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับการวิเคราะห์ที่แม่นยำ ข้อมูลควรถูกเก็บอย่างเป็นระบบและปลอดภัย รวมถึงมีการอัปเดตอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้สะท้อนสถานการณ์จริง
2.ลงทุนในเทคโนโลยีที่เหมาะสม การเลือกใช้เครื่องมือและแพลตฟอร์มที่สอดคล้องกับธุรกิจ เช่น ระบบ AI สำหรับการวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytics) หรือ Social Listening สำหรับการติดตามความเคลื่อนไหวในโซเชียลมีเดีย การลงทุนในเทคโนโลยีที่ถูกต้องจะช่วยประหยัดเวลาและเพิ่มความแม่นยำ
3.พัฒนาทักษะบุคลากร แม้ว่าเทคโนโลยีจะสามารถประมวลผลข้อมูลได้รวดเร็ว แต่บุคลากรที่มีความเข้าใจใน AI และ Data Analytics จะสามารถนำข้อมูลไปใช้ในการตัดสินใจได้ดียิ่งขึ้น องค์กรสามารถจัดการฝึกอบรมเพื่อเพิ่มทักษะด้านนี้
ให้กับทีมงานได้
4.ปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมองค์กรให้ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล การสร้างวัฒนธรรมที่ทุกคนในองค์กรให้ความสำคัญกับข้อมูลเป็นหัวใจสำคัญ เพื่อให้การตัดสินใจทุกครั้งมาจากข้อเท็จจริง ไม่ใช่การคาดเดา การสร้าง Dashboard ที่แสดงข้อมูลสำคัญแบบ Real-Time ช่วยให้ทีมงานเห็นภาพรวมและปรับกลยุทธ์ได้อย่างรวดเร็ว
การเปลี่ยนแปลงอาจดูท้าทาย แต่การนำ AI และ Data-Driven Technology มาประยุกต์ใช้ในองค์กร จะไม่ใช่แค่การ “อยู่รอด” แต่คือการ “เติบโต” อย่างมั่นคงในโลกธุรกิจที่ไม่เคยหยุดนิ่ง คุณพร้อมจะขับเคลื่อนธุรกิจของคุณด้วย AI-driven Data Technology แล้วหรือยัง?
ผศ.(พิเศษ)ดร.เภสัชกร อภิสิทธิ์ ฉัตรทนานนท์
ประธานกรรมการ มูลนิธิคุณแม่คุณภาพ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี