บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด โดย มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท มีความมุ่งมั่นในดำเนินธุรกิจอยู่บนพื้นฐานความรับผิดชอบต่อเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม มุ่งสร้างสรรค์ประโยชน์ที่ยั่งยืนแก่ประเทศชาติ ผ่านการบูรณาการของนวัตกรรมและเทคโนโลยี ตลอดจนทักษะและประสบการณ์ของบุคลากร น้อมนำหลักปรัชญา “เศรษฐกิจพอเพียง” ของ พระบาทสมเด็จพระชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร นำมาปรับใช้เพื่อสร้างความยั่งยืนในการดำเนินธุรกิจ จากแนวทางดังกล่าว เครือเจริญโภคภัณฑ์ จึงให้ความสำคัญในการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนขององค์กรไปพร้อมๆ กับความยั่งยืนของสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคการเกษตร ซึ่งเป็นหนึ่งในห่วงโซ่ธุรกิจของเครือเจริญโภคภัณฑ์ภายใต้โครงการต่างๆ ในการสนับสนุนวิสาหกิจชุมชนให้เข้มแข็งตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โดยอ้างอิงหลัก “3 ห่วง 2 เงื่อนไข”
นำตัวแทนกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง ที่สวนเทพหยา
เรียนรู้การทำนาแบบพอเพียงเพื่อความยั่งยืนของวิสาหกิจชุมชน
ศูนย์การเรียนรู้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงสวนเทพหยา อ.สิงหนคร จ.สงขลา คือหนึ่งในความสำเร็จที่เครือเจริญโภคภัณฑ์ โดยมูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท ได้ร่วมดำเนินการขับเคลื่อนงานด้านการพัฒนาสร้าง คน ชุมชน สังคม ให้มีความเข้มแข็ง สายวรุฬ บรรพตเขียว ผู้จัดการด้านกลยุทธ์และแผน หน่วยงานพัฒนาความยั่งยืนภาครัฐและกิจการสัมพันธ์ บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด เล่าว่า เครือเจริญโภคภัณฑ์เข้าไปมีส่วนร่วมในการพัฒนา สวนเทพหยา อ.สิงหนคร จ.สงขลา และกลุ่มวิสาหกิจชุมชนที่อยู่ในจังหวัดสงขลา เริ่มดำเนินการตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2562 ในการนำองค์ความรู้ที่เป็นจุดแข็งขององค์กร มาปรับประยุกต์ให้เหมาะสมกับบริบทการทำงานของวิสาหกิจชุมชน หนึ่งในเครื่องมือสำคัญ คือ หลักการทำโมเดลธุรกิจ Business Model Canvas เพื่อให้ชุมชนเข้าใจจุดแข็งตนเองเห็นคุณค่าของผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น
น้ำตาลโตนด ที่ชาวบ้านยังคงรักษากรรมวิธีการผลิตแบบดั้งเดิม
ที่ผ่านมา ได้สนับสนุนกลุ่มวิสาหกิจชุมชน ร่วมคิด ร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์ โดยจะแบ่งออกเป็น 3 ด้านหลัก ที่เรียกรวมกันว่า “โหนด นา เล” คำว่า โหนดมาจาก ตาลโตนด ซึ่งเป็นต้นไม้ที่ชาวบ้านปลูกหัวไร่ปลายนาทั่วพื้นที่ นำมาแปรรูปเป็นสินค้า อาทิ น้ำตาลโตนดผง สบู่ตาลโตนด ส่วน นา คือนาข้าว ที่มีการส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกนาข้าวอินทรีย์ สายพันธุ์พื้นเมือง อย่างข้าวหอมปากรอ ข้าวสังข์หยด ข้าวไรซ์เบอร์รี่ และสุดท้ายคือ เล หรือ ทะเล กลุ่มผลิตภัณฑ์แปรรูปที่ได้จากทะเล อาทิ กุ้งแห้ง กุ้งแก้ว น้ำพริกกุ้งเสียบ เป็นต้น รวมถึงผลิตภัณฑ์จากต้นมะม่วง แปรรูปเป็นมะม่วงเบาแช่อิ่ม หนึ่งในของดีเมืองสงขลา ซึ่งมะม่วงเบานี้ถือเป็นสิ้นค้า GI ที่จังหวัดยกระดับขึ้นมา ปัจจุบันมีวิสาหกิจชุมชนในจังหวัดสงขลาที่เครือเจริญโภคภัณฑ์ เข้าไปให้การสนับสนุนองค์ความรู้ไม่น้อย 10 กลุ่ม และสวนเทพยาก็เป็นพื้นที่เรียนรู้ต้นแบบศาสตร์พระราชา โดยมีคณะศึกษาดูงานมากว่า 6,000 คนต่อปี
ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากตาลโตนด สินค้าที่กลุ่ม “โหนด”
ไม่เพียงนำสมาชิกวิสาหกิจชุมชนต่างๆ ไปเรียนรู้หลักเศรษฐกิจพอเพียงเท่านั้น ในการดำเนินโครงการดังกล่าว เครือเจริญโภคภัณฑ์ ยังดำเนินโครงการภายใต้หลักเศรษฐกิจพอเพียง โดยใช้หลัก 3 ห่วง 2 เงื่อนไข ได้แก่ ความพอประมาณ มีเหตุผล มีภูมิคุ้มกัน โดย สายวรุฬ อธิบายเพิ่มเติมว่า
ข้าวสังข์หยด ของดีจากบ้านปากรอ สินค้าในกลุ่ม “นา”
“ในการทำงานร่วมกับชุมชน เราได้นำหลัก 3 ห่วงจากปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเข้ามาเป็นหัวใจสำคัญ ความพอประมาณ คือการให้ชุมชนได้เรียนรู้วิธีเกษตรพอเพียง การทำสิ่งใดที่ไม่เกินตัว รู้จักและเข้าใจในสิ่งที่ตนเองมี ความมีเหตุผล คือ มีหลักการในทำธุรกิจ และมีภูมิคุ้มกัน คือการที่เราให้องค์ความรู้ในการบริหารความเสี่ยง ทั้งแง่ของสินค้า การตลาด ให้เขารู้ว่าสินค้าตัวนี้กลุ่มลูกค้าคือใคร บรรจุภัณฑ์แบบนี้ควรขายใคร คือช่วยให้เขาขายของตรงกับกลุ่มลูกค้ามากที่สุด”
กุ้งแก้ว ผลิตภัณฑ์แปรรูปจาก “เล“ ของขึ้นชื่อจากเกาะหมากพัทลุง
ในปัจจุบันการดำเนินโครงการสามารถส่งเสริมสนับสนับสนุนชุมชนผลิตสินค้าใน 3 หมวด โหนด นา เล ให้มีคุณภาพ พร้อมจัดจำหน่ายถึงมือผู้บริโภคได้ต่อเนื่อง ทั้งนี้เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้ามากขึ้น เรายังมีความตั้งใจที่จะขยายตลาดเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ Line Official ในชื่อ Seaco market โดยมีความหมายจาก Sea คือทะเลสื่อถึงจังหวัดที่ติดทะเล และ Co คือ Ecommerce ซึ่งจะเปิดให้บริการในช่วงปลายปี
สายวรุฬ บรรพตเขียว (ขวาสุด) และทีมงานที่ลงพื้นที่ทำงานใกล้ชิดกับวิสาหกิจชุมชน
เป้าหมายต่อไป คือ การพัฒนาร้านค้าที่อยู่ใน ศูนย์ฯ สวนเทพหยา ยกระดับเป็นร้านค้าที่รวบรวมผลิตภัณฑ์ชุมชนของจังหวัดสงขลา และจังหวัดใกล้เคียง เช่น พัทลุง นครศรีธรรมราช และปัตตานี มาไว้ในที่เดียว เที่ยวจุดเดียวช็อปสินค้าทั่วภาคใต้ รวมถึงมีสตูดิโอไลฟ์สดเพื่อให้ชุมชนเข้าถึงตลาดออนไลน์ได้มากขึ้น
โครงการดังกล่าวนี้ยังถือเป็นหนึ่งในภารกิจสำคัญที่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนร่วมกับบริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด ดำเนินนโยบายตามมาตรฐานแห่งความยั่งยืน มอก. 9999 อีกด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี