วันเสาร์ ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ผู้หญิง
“รู้ทันโรคหัวใจ...ก่อนสายเกินไป” รพ.พระรามเก้า  เน้นป้องกัน-รักษา-ฟื้นฟู ครอบคลุมทุกมิติ

“รู้ทันโรคหัวใจ...ก่อนสายเกินไป” รพ.พระรามเก้า เน้นป้องกัน-รักษา-ฟื้นฟู ครอบคลุมทุกมิติ

วันศุกร์ ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2568, 16.51 น.
Tag :
  •  

โรคหัวใจและหลอดเลือดถือเป็น “ฆาตกรเงียบ” ที่คร่าชีวิตผู้คนทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเป็นโรคที่มักไม่แสดงอาการชัดเจนในระยะเริ่มต้น แต่สามารถคร่าชีวิตได้อย่างเฉียบพลัน โรงพยาบาลพระรามเก้า จึงมุ่งยกระดับ “สถาบันหัวใจและหลอดเลือด” ให้เป็นศูนย์กลางด้านโรคหัวใจชั้นนำของประเทศ ที่พร้อมทั้งการป้องกัน วินิจฉัย รักษา และฟื้นฟูภายใต้แนวคิด “ดูแลหัวใจคุณ ด้วยหัวใจเรา”

นพ.อนุพงษ์ ปริณายก ผู้อำนวยการสถาบันหัวใจและหลอดเลือด โรงพยาบาลพระรามเก้า เปิดเผยว่า โรคหัวใจยังคงเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับหนึ่งของโลก และในประเทศไทยอยู่ในอันดับสอง รองจากโรคมะเร็ง (รวมทุกอวัยวะ) โดยมีอัตราการเสียชีวิตเฉลี่ยสูงถึง 12% หรือประมาณ 2 รายต่อชั่วโมง อีกทั้งยังพบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ปีล่าสุดมีผู้ป่วยใหม่กว่า 400,000–500,000 ราย สะท้อนถึงความรุนแรงของโรคที่กำลังเพิ่มขึ้นในสังคมไทย

ปัจจัยเสี่ยงของโรคหัวใจ แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่

1.ปัจจัยปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ เช่น พันธุกรรม (โดยเฉพาะผู้ที่มีประวัติคนในครอบครัวเสียชีวิตจากโรคหัวใจก่อนวัยอันควร), อายุที่มากขึ้น และในผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน

2.ปัจจัยที่ควบคุมได้ ได้แก่ โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง การบริโภคไขมันทรานส์ (ที่พบในเบเกอรี่ ครีมเทียม อาหารทอด), ภาวะอ้วน การสูบบุหรี่ (รวมถึงบุหรี่ไฟฟ้า), การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป การไม่ออกกำลังกาย ความเครียด พักผ่อนไม่เพียงพอ และการละเลยควบคุมโรคประจำตัว ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยเสี่ยงที่กระตุ้นให้โรคหัวใจกำเริบหรือรุนแรงขึ้นอย่างรวดเร็ว

นายแพทย์อนุพงษ์ ให้ข้อมูลต่อว่า อาการของโรคหัวใจ อาจแสดงออกแบบค่อยเป็นค่อยไป หรือเกิดขึ้นเฉียบพลัน โดยอาการค่อยเป็นค่อยไป เช่น เหนื่อยง่ายเวลาออกแรง แน่นหน้าอก เจ็บหน้าอก ที่อาจร้าวไปยังกราม แขน หรือหลังได้  ซึ่งมักถูกมองข้าม ขณะที่บางรายไม่มีอาการเตือนใดๆ มาก่อน แต่กลับเกิดอาการเฉียบพลัน เช่น เจ็บหน้าอกอย่างรุนแรง ร้าวไปที่กรามหรือไหล่ ร่วมกับความดันตก ซึ่งผู้ป่วยบางรายอาจเสียชีวิตก่อนถึงโรงพยาบาล ผู้ป่วยที่มาถึงโรงพยาบาลแล้ว ยังมีอัตราการเสียชีวิตสูงถึง 10% ดังนั้น การใส่ใจสัญญาณเตือน แม้เพียงเล็กน้อย จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง

ด้านการตรวจวินิจฉัยและรักษาแนะนำให้ผู้ชายอายุ 40 ปีขึ้นไป และผู้หญิงตั้งแต่อายุ 50 ปี ควรเริ่มตรวจสุขภาพหัวใจอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นโรคหัวใจ โดยการตรวจประกอบด้วยตรวจเลือดระดับน้ำตาลและไขมันในเลือด การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG), การเดินสายพาน (Exercise Stress Test) การตรวจเอคโคหัวใจ (Echocardiogram) เพื่อดูโครงสร้างและการทำงานของหัวใจ นอกจากนี้ ยังมีการตรวจเอกซเรย์หินปูนในหลอดเลือดหัวใจ (Calcium Score CT Scan) ซึ่งสามารถบ่งบอกระยะเริ่มต้นของไขมันในหลอดเลือดหัวใจได้อย่างแม่นยำ ซึ่งหินปูนในหลอดเลือดหัวใจ เปรียบได้กับยอดภูเขาน้ำแข็งที่โผล่พ้นน้ำ ยังมีไขมันที่ซ่อนอยู่ภายในหลอดเลือดอีกมาก รวมทั้งยังมีการตรวจ MRI หัวใจ

แม้เทคโนโลยีจะก้าวหน้า เช่น การทำบอลลูน ใส่ขดลวด ผ่าตัดบายพาส หรือเปลี่ยนลิ้นหัวใจผ่านสายสวนแบบ TAVR แต่โรคหัวใจส่วนใหญ่ “ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้” การรักษาเป็นเพียงการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า หากไม่ดูแลรักษาควบคุมปัจจัยเสี่ยงอย่างจริงจัง ก็มีโอกาสกลับมาเป็นซ้ำได้อีก จึงจำเป็นต้องได้รับการติดตามปัญหาจากแพทย์อย่างต่อเนื่อง

โรงพยาบาลพระรามเก้า โดยสถาบันหัวใจและหลอดเลือด มีความพร้อมเต็มที่ทั้งด้านบุคลากรและเทคโนโลยี ปัจจุบันมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านหัวใจจำนวนกว่า 30 ท่าน ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งเคสทั่วไปและซับซ้อน พร้อมห้องสวนหัวใจ (Cath Lab) ที่ครบครันด้วยอุปกรณ์เฉพาะทาง เช่น Rotablator (กรอหินปูนในหลอดเลือด), IVUS (ตรวจขนาดหลอดเลือดด้วยคลื่นเสียง), เครื่องวัดการไหลเวียนเลือด นอกจากนี้ ยังมีระบบ Real-time Case Management ผ่านแอปพลิเคชัน ที่ช่วยให้ทีมแพทย์ประสานงานดูแลผู้ป่วยได้แบบเรียลไทม์ในการรักษาได้อย่างทันท่วงที โรงพยาบาลยังมีความสามารถเปิดหลอดเลือดฉุกเฉินได้ภายใน 60 นาทีหลังผู้ป่วยมาถึง ซึ่งเร็วกว่ามาตรฐานสากลที่ 90 นาที ซึ่งกรณีดังกล่าวหากสามารถเปิดหลอดเลือดได้เร็ว ก็จะลดอัตราการเสียชีวิตและช่วยรักษากล้ามเนื้อหัวใจได้มากขึ้น

ในการดูแลผู้ป่วยต่างชาติ โรงพยาบาลพระรามเก้ามีความพร้อมอย่างยิ่ง โดยได้การรับรองมาตรฐาน JCI (Joint Commission International) มาอย่างต่อเนื่อง และมีศูนย์ International Center สำหรับการดูแลผู้ป่วยต่างชาติ ทั้งในด้านการให้ข้อมูล การประสานงาน เอกสารวีซ่า และการส่งกลับประเทศอย่างครบวงจร

การติดตามผลผู้ป่วยก็เป็นอีกหนึ่งจุดแข็งสำคัญของสถาบันหัวใจแห่งนี้ โดยแพทย์จะมีรายชื่อผู้ป่วยที่ต้องติดตามผล พร้อมมีพยาบาลโทรติดตามอาการ หากผู้ป่วยไม่มาตามนัด จะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อเพื่อไม่ให้การรักษาขาดตอนเพื่อความปลอดภัยของผู้รับบริการ

นายแพทย์อนุพงษ์ กล่าวปิดท้ายว่า “หัวใจของการดูแลสุขภาพหัวใจ ไม่ใช่แค่รักษาเมื่อเกิดโรค แต่คือการป้องกันไม่ให้เกิดโรคตั้งแต่แรก” ไม่ควรรอให้มีอาการก่อนแล้วจึงค่อยดูแล เพราะอาจไม่ทันท่วงที พฤติกรรมสุขภาพ เช่น การออกกำลังกายสม่ำเสมอ ลดความเครียด พักผ่อนให้เพียงพอ และควบคุมโรคประจำตัวอย่างเคร่งครัด เป็นสิ่งที่ทุกคนควรใส่ใจ อย่านิ่งนอนใจหากรู้สึกผิดปกติ เพราะอาจเป็นสัญญาณเตือนของภัยเงียบที่รอวันทำร้ายชีวิตได้

​​​​​​​​​​​​​​​​สำหรับผู้ที่พบว่าตนมีความเสี่ยง สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ โรคหลอดเลือดหัวใจอุดตัน ได้ที่ โทร. 1270 หรือ Line: https://lhco.li/3YR7rhZ และ Facebook: Praram9 Hospital 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • สมเด็จพระสังฆราชประทานเงิน 5,000,000 บาท สร้างโรงพยาบาลพระพุทธเจ้า ณ เมืองกุสินารา อินเดีย เนื่องในวันคล้ายวันประสูติ สมเด็จพระสังฆราชประทานเงิน 5,000,000 บาท สร้างโรงพยาบาลพระพุทธเจ้า ณ เมืองกุสินารา อินเดีย เนื่องในวันคล้ายวันประสูติ
  • วปอ.67 (หมู่เสือ) จัดทำโครงการดีๆเพื่อคนพิการ วปอ.67 (หมู่เสือ) จัดทำโครงการดีๆเพื่อคนพิการ
  • ‘เซลฟริดเจส - เซ็นทรัลชิดลม - บราวน์ โธมัส’ ห้างหรูของกลุ่มเซ็นทรัล คว้ารางวัลห้างสรรพสินค้าโลก ตอกย้ำผู้นำค้าปลีกระดับสากล ‘เซลฟริดเจส - เซ็นทรัลชิดลม - บราวน์ โธมัส’ ห้างหรูของกลุ่มเซ็นทรัล คว้ารางวัลห้างสรรพสินค้าโลก ตอกย้ำผู้นำค้าปลีกระดับสากล
  • เปิดโลกนวัตกรรมกับ \'Innovation World\' ที่ฟิวเจอร์เรียม พร้อมผจญภัยกับนวัตกรรมการจัดการภัยพิบัติ เปิดโลกนวัตกรรมกับ 'Innovation World' ที่ฟิวเจอร์เรียม พร้อมผจญภัยกับนวัตกรรมการจัดการภัยพิบัติ
  • สศท.มอบรางวัล ‘ผู้สร้างสรรค์งานศิลปหัตถกรรมคนรุ่นใหม่’ สร้างแรงบันดาลใจ สืบสาน รักษาองค์ความรู้ ภูมิปัญญาไทย สศท.มอบรางวัล ‘ผู้สร้างสรรค์งานศิลปหัตถกรรมคนรุ่นใหม่’ สร้างแรงบันดาลใจ สืบสาน รักษาองค์ความรู้ ภูมิปัญญาไทย
  • ‘Showcase Your Imagination : จากตำนาน สู่มูลค่าทางเศรษฐกิจ’ นิทรรศการที่ปลุกตำนานผีไทยให้มีชีวิตอีกครั้ง ผ่านการออกแบบและจินตนาการของคนรุ่นใหม่ ‘Showcase Your Imagination : จากตำนาน สู่มูลค่าทางเศรษฐกิจ’ นิทรรศการที่ปลุกตำนานผีไทยให้มีชีวิตอีกครั้ง ผ่านการออกแบบและจินตนาการของคนรุ่นใหม่
  •  

Breaking News

หวานอำพรางพิษ! ห่วง4ผลิตภัณฑ์อันตราย‘สารเสพติดซ่อนรูป’เข้าถึงเยาวชนโดยผู้ใหญ่รู้ไม่เท่าทัน

เปิดโผ‘ครม.อิ๊งค์ 2’ ‘บิ๊กเล็ก’คุมกลาโหม-‘ประเสริฐ’ตัวเต็ง‘มท.1’

จะยืนหยัดอยู่ฝ่ายไหน? 'รสนา'ส่ง จม.เปิดผนึกถึง'พีระพันธุ์-รทสช.'

'ฮุน-ชิน'แค้นแสนสาหัส ไขชนวนเหตุ-เกมร้ายกาจ ปล่อย'2 ตระกูล'ทำลายกันเอง

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved