นับจากทศวรรษที่ 1980 งานประติมากรรมเริ่มมีความแปลกแยกจากช่วงเวลาก่อนหน้าที่มักใช้เพียงแค่ หิน ไม้ ดินโคลน และเหล็กในการผลิตชิ้นงาน แต่เมื่อโปรแกรม CAD และเทคโนโลยีดิจิตัลก้าวหน้าขึ้นมาก การออกแบบและวัสดุศาสตร์ก็เริ่มเปลี่ยนแปลง ศิลปินเริ่มสามารถที่จะออกแบบงานประติมากรรมผ่านโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ใช้แสง Laser ในการตัดวัสดุ และใช้เครื่องพิมพ์ 3 มิติในการพิมพ์ชิ้นงานจึงทำให้วัสดุที่สามารถนำมาผลิตชิ้นงานมีความซับซ้อนได้มากยิ่งขึ้น
ใน Gaulandris Museum Athens มีผลงาน Multi material and 3D art after 1980 ชาวกรีซที่น่าสนใจอยู่หลายคน อาทิ George Zongolopoulos สถาปนิก นักประติมากรรมและจิตรกรชาวเอเธนส์ เขามีความสนใจทางด้านศิลปะตั้งแต่เด็กและเข้าเรียน Athens School of Fine Arts ระหว่างเรียนหนังสือเขากลับมีปัญหากับคณะและถูกไล่ออก อย่างไรก็ดีภายหลัง เขาเข้าไปช่วยงาน Ioannis Griparis คีตกวีผู้มีชื่อเสียงจึงสามารถเรียนจนจบได้ ระหว่าง 1926-8 เขาเข้าไปช่วยงานด้านสถาปนิกกับ Anastasios Orlandos สถาปนิกผู้มีชื่อเสียงที่ Department of Restoration of Ancient and Byzantine Monuments of Greek กระทรวงศึกษา หลังปี 1931 เขาหันมาสนใจงานด้านประติมากรรมและเข้าร่วมกับกลุ่มศิลปินที่ก่อตั้ง Modernism รวมทั้งได้จัดแสดงนิทรรศการหลายครั้ง หลังปี 1938 เขาลาออกจากกระทรวงศึกษาเพื่อไปปารีสและเข้าร่วมกับนิทรรศการที่อุทิศให้กับ El Greco อีกทั้งยังร่วมนิทรรศการ 1st Hellenic National Art Exhibition ระหว่างทศวรรษที่ 1980 เขาได้ทำข้อเสนอที่จะปรับปรุงจัตุรัส Klafhmonos ในกรุงเอเธนส์ และได้รับรางวัลชนะเลิศ เป็นที่น่าเสียดายที่จัตุรัสนี้กลับมิได้รับการปรับปรุงตามแผน ปี 1988 เขาเริ่มนำเสนอผลงานที่เกี่ยวข้องกับร่มขึ้นครั้งแรก และได้นำเสนอผลงานเกี่ยวกับร่มเรื่อยมา ในมิวเซียมแห่งนี้ผลงานของเขาที่ชื่อ Lens with 3 Umbrellas ที่เขารังสรรค์ขึ้นในปี 1993 ก็เป็นการเสนอมุมมองเกี่ยวกับศิลปะที่ดูแปลกและล้ำสมัยไปอีกแบบ
ผลงาน 3D อีกชิ้นที่น่าสนใจเป็นของ Chryssa Vardea เธอเกิดในกรุงเอเธนส์ในครอบครัว Mavromichalis ที่มีชื่อเสียง แต่ก่อนเธอเกิด บิดาก็เสียชีวิต มารดาของเธอจึงต้องเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว เธอเติบโตในช่วงที่กรีซถูกนาซีครอบครอง เธอถูกจำคุกถึง 3 ครั้งในช่วงเด็กจึงมีความคิดต่อต้านทุกเรื่องอย่างรุนแรง อย่างไรก็ดี ระหว่างที่เธอเป็นวัยรุ่น เธอได้รับคำแนะนำให้ไปเรียนที่ Academie de la Grande Chaumiere ปารีส แต่เธอกลับยังรู้สึกไม่มีความสุข เมื่ออายุได้ 21 ปีจึงตัดสินใจเดินทางไปสหรัฐฯ และเข้าเรียนที่ California School of Fine Arts จนได้รับสิทธิเป็นพลเมืองสหรัฐฯ หลังจากมีโอกาสเดินทางไปไทม์สแควร์นิยอร์คครั้งแรก เธอประทับใจมาก และได้กลายเป็นสถานที่ที่มีอิทธิพลต่อเธอตลอดมา เธอเริ่มใช้วัสดุที่หลากหลาย อาทิ อาลูมีเนียม ปาสเตอร์ แสงนีออน อาคิริค เหล็กกล้ามาสร้างสรรค์ผลงาน ในทศวรรษที่ 1980 เธอได้รังสรรค์ผลงานชุดหนึ่งขึ้นชื่อว่า Urban Landscapes ผลานที่ชื่อ London Cityscape Picadilly Circus I เป็นหนึ่งในผลงานชุดนี้ที่รังสรรค์โดยใช้อาลูมีเนียมทาสีซึ่งถือเป็นวัสดุที่นำสมัยอย่างยิ่งในช่วงเวลานั้น
ศิลปินพื้นเมืองอีกคนที่มีผลงานแนว 3D ของน่าสนใจคือ Alexis Akrithakis เขาเกิดที่กรุงเอเธนส์ในเดือนพฤษภาคม 1934 เขาเป็นคนชอบใช้ชีวิตผาดโผนเลยขี่มอร์เตอร์ไซด์ไปปารีส และได้รู้จักกับศิลปินมากมาย ก่อนได้รับทุนจาก DAAD และย้ายไปเบอร์ลิน เยอรมันในปี 1968 หลังจากย้ายไปเยอรมันเพียงแค่ 4 ปีเขาก็เริ่มมีส่วนร่วมในนิทรรศการที่จัดขึ้นในกรุงเบอร์ลิน นับจากนั้นมาเขาได้รับเชิญให้แสดงผลงานนิทรรศการเดี่ยวทั่วทั้งยุโรป ตั้งแต่ เจนีวา สวิส มิลานและตูริน อิตาลี นอกจากนี้เขายังเขียนแบบร่างให้กับวรรณคดี Nanos Valaoritis คีตกวีชาวกรีซด้วย ผลงานของเขาช่วงแรกจะเน้นใช้สีขาวดำก่อนหันมาใช้สีสันบ้าง แต่ก็ยังเน้นสีมืด ๆ โดยเป็นเรื่องราวของนก เครื่องบิน เรือ ลูกศร ผลงานที่จัดแสดง ณ มิวเซียมแห่งนี้ที่รังสรรค์บนไม้ และใช้หลอดไฟ หม้อแปลง ตะปูเป็นองค์ประกอบเพื่อย้ำถึงความเป็นเทศกาลพื้นบ้านมีความแปลกตา และสะท้อนถึงความคิดอันสร้างสรรของศิลปินได้เป็นอย่างดี
ผลงาน 3D ชิ้นสุดท้ายที่น่าสนใจเป็นของ Nakis Panayotidis ศิลปินชาวกรีซ เขาเกิดที่กรุงเอเธนส์ในปี 1947 และเข้าเรียนสถาปัตยกรรมที่เมืองตูริน อิตาลีในปี 1966 ก่อนจะย้ายไปเรียนทางด้านศิลปะและการละครที่กรุงโรมในปีต่อมา เขาชอบรังสรรค์งานโดยใช้ หิน ยางมะตอย และตะกั่ว ผลงานของเขามีความแปลกและน่าสนใจจึงทำให้เขาสามารถจัดแสดงนิทรรศการเดี่ยวที่อิตาลีได้ตั้งแต่ปี 1970 หลังแต่งงานเขาเดินทางกลับกรีซหลายครั้งและเริ่มสร้างสรรค์งานโดยใช้ ฟางข้าว กระดาษและน้ำมันดิน ผลงานที่จัดแสดงในมิวเซียมนี้ก็เป็นอีกชิ้นที่แสดงถึงอัตลักษณ์ของศิลปินอย่างเด่นชัด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี