ในโลกที่เต็มไปด้วยความเร่งรีบ เครื่องประดับไม่ได้เป็นเพียงแค่สิ่งของที่ช่วยให้เราดูดีขึ้น แต่กลายเป็นสื่อกลางที่เล่าเรื่องราวของเรา ความฝัน ความหวัง และตัวตนที่แท้จริง วันนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับแบรนด์เครื่องประดับที่แต่ละชิ้นงานล้วนแฝงไปด้วยความหมายลึกซึ้ง และพลังบวกที่จะทำให้ชีวิตของคุณเปล่งประกายมากยิ่งขึ้น ซึ่งทั้ง 5 แบรนด์ นี้เป็นแบรนด์เครื่องประดับที่เข้าร่วม “กิจกรรมการพัฒนาภาพลักษณ์แบรนด์และผลิตภัณฑ์สู่ Fashion Hero Brand สาขาอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับไทย” เพื่อยกระดับแบรนด์ และสร้างภาพลักษณ์ผ่านการบอกเล่าเรื่องราว (Storytelling) ภายใต้การส่งเสริมของ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม 

ดอกกระดังงาที่บาน ความบริสุทธิ์ในทุกรายละเอียด

เริ่มต้นกันที่ Taevika Jewelry ของ ณัฐชยา มณีเวศย์วโรดม ที่มีเป้าหมายชัดเจนในการผลักดันช่างฝีมือไทยสู่เวทีระดับสากล ด้วยการผสมผสานภูมิปัญญาท้องถิ่นเข้ากับแนวคิดร่วมสมัยอย่างลงตัว จุดเด่นที่ทำให้ Taevika โดดเด่นคือการเลือกใช้พลอยแท้คุณภาพสูงจากธรรมชาติที่มีสีสันและเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทำให้แต่ละชิ้นมีลายเซ็นที่ไม่เหมือนใคร

ไฮไลท์ของแบรนด์ คือ Plumeria Collection ที่ได้แรงบันดาลใจจากความงดงามบริสุทธิ์ของดอกกระดังงา ดอกไม้ที่เป็นสัญลักษณ์ของความรัก ความอบอุ่น และความบริสุทธิ์ แต่ละชิ้นเปรียบเสมือนผลงานศิลปะที่มีชีวิต ผสมผสานความทันสมัยกับความหรูหราอย่างลงตัวเมื่อคุณสวมใส่เครื่องประดับจาก Plumeria Collection คุณไม่ได้แค่สวมใส่ความงดงาม แต่คุณกำลังบอกเล่าเรื่องราวของความรักที่บริสุทธิ์และความอบอุ่นที่อยู่ในหัวใจของคุณ

ศิลปะที่มีชีวิตบนตัวคุณ

AVALON โดย ธันยพล คงวิทยากิจจ์ พาเราเข้าสู่โลกของเครื่องประดับที่เกินกว่าความสวยงาม นี่คือการสร้างสรรค์ที่ใช้เทคนิคซับซ้อน ผสมผสานกับศิลปะชั้นดี และการร่วมมือกับศิลปินเพื่อถ่ายทอดเรื่องราวผ่านเครื่องประดับ Secession Black Art to Wear คือผลงานเด่นที่ไม่ใช่แค่เครื่องประดับ แต่คือศิลปะที่ "มีชีวิต" เมื่ออยู่บนตัวผู้สวมใส่ คอนเซ็ปต์ "Stories You Can Feel" ทำให้ทุกชิ้นงานกลายเป็นบทกวีของผู้หญิงที่กล้ารักตัวเอง

Secession Black ไม่ได้เป็นเพียงแค่เครื่องประดับสีดำ แต่เป็นพลังที่ปลุกความรู้สึกที่แท้จริงในตัวเอง เป็นการเฉลิมฉลองความเป็นตัวตนที่แท้จริง ไม่ต้องแอบแฝง ไม่ต้องปกปิด

จากใจกลาง “กาญจนบุรี” สู่หัวใจคุณ

JINDAPITAK เป็นเครื่องยืนยันว่าความงดงามสามารถสร้างคุณค่าให้กับชุมชนได้จริง ด้วยแนวคิด "Local Material, Local Craftsmanship, Local Empowerment" แบรนด์นี้เลือกใช้วัตถุดิบจากท้องถิ่น โดยเฉพาะจากอำเภอบ่อพลอยที่อุดมไปด้วยอัญมณีธรรมชาติ อัญรัตน์ คุณากรประพันธ์ ผู้ก่อตั้ง ได้ผสานช่างเจียรไนฝีมือดีจากชุมชนที่สืบทอดความเชี่ยวชาญจากรุ่นสู่รุ่น เข้ากับการออกแบบที่ทันสมัยโดยคนรุ่นใหม่ที่มีประสบการณ์การทำงานต่างประเทศ

ผลลัพธ์ที่ได้คือเครื่องประดับนิลและไพลินแท้ที่ผสานความงามแบบไทยกับความโมเดิร์นอย่างลงตัว เป็นที่นิยมทั้งในประเทศและต่างประเทศ พร้อมสโลแกนที่สะเทือนใจ "เครื่องประดับที่ใช่เปลี่ยนทุกโมเมนต์ธรรมดาให้กลายเป็นความทรงจำที่มีคุณค่าไปตลอดกาล"

พรที่สวมใส่ได้ ต้อง “Give A Wish Jewelry”

Give A Wish Jewelry ของ ณัฏฐิรา ปกรณ์แก้ว เชื่อว่าเครื่องประดับที่ดีไม่ใช่แค่สวยงาม แต่ควรเติมพลังบวกให้หัวใจและสะท้อนตัวตนได้อย่างลึกซึ้ง แบรนด์นี้สร้างขึ้นจาก "ความหมาย" และ "ความปรารถนาดี" เพื่อให้คุณได้มอบสิ่งพิเศษให้ตัวเอง หรือส่งต่อให้คนที่คุณรัก ด้วยแนวคิดในการออกแบบเครื่องประดับทุกชิ้นให้เป็น "พร" ที่สวมใส่ได้สิ่งที่น่าประทับใจคือการใช้วัสดุรักษ์โลกอย่างเงินแท้รีไซเคิล และอัญมณีที่อาจไม่สมบูรณ์แบบแต่เปี่ยมคุณค่า ผ่านงานฝีมือที่ประณีตโดยช่างไทยผู้เชี่ยวชาญ ทุกชิ้นจะมาพร้อมการ์ดคำอธิษฐานเพื่อส่งต่อความปรารถนาดีให้กับผู้รับ "Timeless to happiness and beauty for each other" เพราะความสุขและความงาม มอบให้กันได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด

เชื่อมต่อกับพลังงานภายในไปกับ “Morakot Gallery”

“Morakot Gallery” โดย ปวรนันท์ ศิลปวาณิชย์ ถ่ายทอดเรื่องราวเอาไว้ว่า เครื่องประดับที่อยากชวนผู้หญิงให้กลับมาเชื่อมต่อกับตัวตนภายในผ่านเครื่องประดับที่สร้างจากอัญมณีที่สะท้อนพลังงานเฉพาะตัว แต่ละเม็ดอัญมณีมีการสั่นสะเทือนที่แตกต่างกัน เป็นพลังแห่งความเงียบสงบที่สะท้อนจิตวิญญาน มากกว่าการประดับตกแต่ง ทุกชิ้นงานคือการแสดงออกที่มีความหมายของความจริงส่วนตัว ความตั้งใจ และอารมณ์ ที่ Morakot เพราะเราเชื่อว่าเมื่อคุณสวมใส่พลังงานของผู้สวมใส่ เพราะเราไม่ได้แค่ประดับตกแต่ง แต่เรากำลังเล่าเรื่องราวของตัวเอง ดังนั้นเครื่องประดับในยุคนี้ไม่ใช่แค่สิ่งของที่ทำให้เราดูดี แต่เป็นการแสดงออกถึงตัวตนที่แท้จริง เป็นการเชื่อมต่อกับพลังงานภายใน เป็นการสนับสนุนชุมชน และเป็นการส่งต่อความปรารถนาดี

สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่กองพัฒนาอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม โทร. 0 2430 6883 กด 2 หรือติดตามความเคลื่อนไหว และข่าวสารต่าง ๆ ได้ที่ www.diprom.go.th หรือ www.facebook.com/dipromindustry