“รพ.จุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ผสานทีมแพทย์ รักษาผู้ป่วยด้วยเทคโนโลยีส่องกล้องทำลายเนื้องอกตับอ่อนไร้แผล แห่งแรกในอาเซียน”
โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย และ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ด้านการส่องกล้องระบบทางเดินอาหาร ฝ่ายอายุรศาสตร์ ร่วมกับฝ่ายศัลยศาสตร์, ฝ่ายรังสีวิทยา และฝ่ายการพยาบาล ได้นำเทคโนโลยีส่องกล้องทำลายเนื้องอกตับอ่อนไร้แผลช่วยรักษาผู้ป่วยเนื้องอกตับอ่อน ได้เป็นครั้งแรกของประเทศไทยและเป็นแห่งแรกในอาเซียน
รศ.นพ.ประเดิมชัย คงคำ หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการวิจัยโรคตับอ่อน โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย กล่าวว่า ตับอ่อนมีหน้าที่ผลิตฮอร์โมนอินซูลินเพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ผู้ป่วยที่เป็นเนื้องอกของตับอ่อนจะมีปริมาณอินซูลินสูงกว่าปกติ จึงมีระดับน้ำตาลในเลือดต่ำตลอดเวลา ในรายที่อาการไม่มากอาจมีอาการอ่อนเพลีย เวียนศีรษะ หิวบ่อย มือสั่น ใจสั่น เหงื่อแตก ผู้ป่วยบางรายต้องรับประทานอาหารบ่อยถึงวันละ 6 มื้อ เพื่อป้องกันภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ ทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มอย่างรวดเร็ว แต่ในรายที่มีอาการมาก อาจรุนแรงถึงชักหรือหมดสติได้
การรักษามาตรฐานของโรคเนื้องอกของตับอ่อน คือ การผ่าตัดเปิดหน้าท้องเพื่อนำเนื้องอกออก ซึ่งเป็นการผ่าตัดใหญ่ซับซ้อน ใช้เวลานาน เสี่ยงต่อการเสียเลือดและภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ บางรายต้องดูแลต่อในหอผู้ป่วยวิกฤติ
ทีมแพทย์โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย จึงได้นำเทคโนโลยีส่องกล้องทำลายเนื้องอกตับอ่อนไร้แผล (Endoscopic Ultrasound-Guided Radiofrequency Ablation, EUS-RFA) มาใช้ผู้ป่วยกลุ่มนี้แทนการผ่าตัด ช่วยหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากการผ่าตัด ฟื้นตัวเร็ว และสามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ ทำกิจวัตรประจำวันและรับประทานอาหารได้ตามปกติ ผู้ป่วยส่วนใหญ่สามารถกลับบ้านได้ภายใน 24-48 ชั่วโมง การรักษาด้วยเทคโนโลยีลักษณะนี้ถือเป็นแห่งแรกในประเทศไทยและเป็นแห่งแรกในอาเซียน
เทคโนโลยีส่องกล้องทำลายเนื้องอกตับอ่อนไร้แผล (Endoscopic Ultrasound-Guided Radiofrequency Ablation, EUS-RFA) เป็นนวัตกรรมทางการแพทย์ที่ผสานการส่องกล้องอัลตราซาวนด์ผ่านทางเดินอาหาร (Endoscopic Ultrasound-Guided, EUS) เข้ากับการใช้คลื่นความถี่วิทยุ (Radiofrequency Ablation, RFA) เพื่อรักษาเนื้องอกหรือรอยโรคภายในอวัยวะในช่องท้อง โดยเฉพาะตับอ่อน ตับ ต่อมน้ำเหลือง และทางเดินน้ำดี ด้วยความแม่นยำสูง ภายใต้การมองเห็นแบบ real-time ทำให้สามารถระบุตำแหน่งรอยโรคและส่งเข็มพิเศษที่มีขั้ว RFA เข้าไปยังเป้าหมายโดยตรง จากนั้นปล่อยพลังงานความร้อนเพื่อทำลายเนื้องอกเฉพาะจุด โดยไม่กระทบต่อเนื้อเยื่อข้างเคียงมากนัก ทั้งยังสามารถใช้ร่วมกับการรักษาอื่น เช่น เคมีบำบัด หรือใช้เป็นการรักษาหลักในผู้ป่วยที่ไม่สามารถผ่าตัดได้
ทั้งนี้ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย จะได้ติดตามประสิทธิภาพการรักษาด้วยวิธีนี้ในระยะยาว รวมถึงโอกาสในการขยายข้อบ่งชี้ในการรักษาวิธีนี้ไปยังผู้ป่วยกลุ่มอื่นๆ และพร้อมเป็นศูนย์กลางในการเผยแพร่ความรู้ ทักษะ ในการใช้เทคโนโลยีนี้ให้กับแพทย์ในประเทศไทยและสากลต่อไป
-(016)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี