เนื่องในวันคล้ายวันสิ้นพระชนม์ครบ 37 ปี ของพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าวิภาวดีรังสิต ในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2557 นี้ ทางจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งประกอบด้วยทั้งภาครัฐและเอกชน จะจัดงาน “วันวิภาวดี” ขึ้นเพื่อสดุดีและบำเพ็ญกุศลถวาย พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวิภาวดีรังสิต ดังเช่นที่ได้จัดมาทุกปีณ ลานพระอนุสาวรีย์ ที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช อ.เวียงสระจ.สุราษฎร์ธานี
พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวิภาวดีรังสิต ทรงมีพระนามเดิมว่า หม่อมเจ้าวิภาวดี (รัชนี) รังสิต ทรงเป็นพระธิดาในพระราชวงศ์เธอ กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ (พระองค์เจ้ารัชนีแจ่มจรัส ต้นราชสกุล รัชนี) และหม่อมเจ้าพรพิมลพรรณ (วรวรรณ) รัชนี ประสูติเมื่อวันเสาร์ที่20 พฤศจิกายน พ.ศ.2463 ทรงศึกษาที่โรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัย จนจบหลักสูตรสมบูรณ์ศึกษาที่โรงเรียนนี้เมื่อ พ.ศ.2485 หลังจากนั้นพระองค์หญิงได้ทรงรับใช้พระบิดาอย่างใกล้ชิด กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ เป็นที่รู้จักกันดีในวงการประพันธ์ในนาม “น.ม.ส.” ทรงได้รับการยกย่องว่าเป็น “กวีเอก” แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ พระองค์หญิงทรงมีพระปรีชาสามารถทางอักษรศาสตร์คล้ายพระบิดา ทรงเขียนเรื่องสำหรับเด็กตั้งแต่ชันษาเพียง 14 ปี และทรงใช้นามปากกาว่า “ว.ณ ประมวญมารค”ทรงนิพนธ์นวนิยายอมตะเรื่อง ปริศนา รัตนาวดี เจ้าสาวของอานนท์ ฯลฯอีกทั้งสารคดีและนวนิยายอิงประวัติศาสตร์ อาทิ เรื่องพระราชินีนาถวิกตอเรีย คลั่งเพราะรัก ฯลฯ
พระองค์เจ้าวิภาวดีรังสิต เสกสมรสกับหม่อมเจ้าปิยะรังสิต รังสิต โอรสองค์ใหญ่ของสมเด็จฯ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร
เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ.2489 โดยทรงเป็นคู่สมรสคู่เดียวที่ได้รับพระราชทานน้ำมหาสังข์จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล
พระองค์หญิงทรงเริ่มเข้ารับราชการสนองพระเดชพระคุณพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ตั้งแต่ปี 2550 เมื่อเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมราษฎรภาคต่างๆ ในราชอาณาจักรต่อจากนั้นได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้โดยเสด็จในฐานะนางสนองพระโอษฐ์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในการเสด็จพระราชดำเนินเยือนต่างประเทศอย่างเป็นทางการรวม 25 ประเทศ
ในระยะ 10 ปีสุดท้ายของพระชนม์ชีพ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระองค์หญิงปฏิบัติภารกิจแทนพระองค์ในด้านการพัฒนาพื้นที่ทุรกันดารภาคใต้ ทรงนำหน่วยพระราชทานไปช่วยเหลือประชาชนในท้องที่ที่ไกลและทุรกันดารที่สุด พระองค์หญิงมิได้ทรงย่อท้อต่อความยากลำบากในการเดินทางหรือที่พักแรม ทรงเสียสละความสุขส่วนพระองค์เพื่อที่จะพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้นโดยเสด็จเยี่ยมเยียนและพาแพทย์ไปรักษาพยาบาลคนที่เจ็บป่วย จัดสิ่งของหยูกยาไปช่วยชาวบ้านที่ยากไร้หรือประสบภัย แจกอุปกรณ์การศึกษาแก่เด็กนักเรียน แนะนำการงานอาชีพและส่งเสริมศิลปหัตถกรรมพื้นบ้านตามพระราชเสาวนีย์ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทั้งยังคงนำสิ่งของพระราชทานไปเยี่ยมบำรุงขวัญเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร พลเรือน สมาชิกกองอาสาสมัครรักษาดินแดนแม้ในเขตที่มีผู้ก่อการร้ายปฏิบัติการอย่างรุนแรง ก็ยังทรงพระอุตสาหะเสด็จไปให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ถึงแนวหน้า
จนกระทั่งวันที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2520 ระหว่างทางเสด็จโดยเฮลิคอปเตอร์เพื่อนำสิ่งของพระราชทานไปทรงเยี่ยมบำรุงขวัญ
เจ้าหน้าที่ที่อำเภอเวียงสระ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ทรงทราบจากวิทยุว่ามีตำรวจตระเวนชายแดนได้รับบาดเจ็บจากกับระเบิด 2 นายด้วยความที่ทรงห่วงใยผู้บาดเจ็บ จึงรับสั่งให้นักบินเฮลิคอปเตอร์ร่อนลงเพื่อรับเจ้าหน้าที่ที่บาดเจ็บ 2 นายนั้นไปส่งโรงพยาบาล ขณะนักบินนำเครื่องร่อนลงต่ำใกล้บ้านเหนือคลอง อำเภอเวียงสระ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ผู้ก่อการร้ายได้ระดมยิงเฮลิคอปเตอร์กระสุนทะลุเข้ามาถูกพระองค์หญิง ทรงได้รับบาดเจ็บสาหัสและสิ้นพระชนม์ก่อนเสด็จถึงโรงพยาบาล
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระบรมราชโองการดำรัสสั่งให้สถาปนาหม่อมเจ้าวิภาวดีรังสิต เป็นพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวิภาวดีรังสิต เมื่อวันที่ 4 เมษายน พ.ศ.2520 และพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์มหาจักรีบรมราชวงศ์
ถึงแม้ว่าพระองค์หญิงได้สิ้นพระชนม์ไป 37 ปีแล้ว แต่คุณงามความดีของท่านยังคงอยู่ในความทรงจำของชาวใต้ ชาวสุราษฎร์ฯได้กำหนดวันคล้ายวันสิ้นพระชนม์ของทุกปี คือวันที่ 16 กุมภาพันธ์ เป็น “วันวิภาวดี” เพื่อทำพิธีสดุดีและบำเพ็ญกุศลถวาย ณ พระอนุสาวรีย์ 5 แห่ง ทั่วจังหวัดสุราษฎร์ธานี
ภายหลังจากการสิ้นพระชนม์ของ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวิภาวดีรังสิต หม่อมเจ้าปิยะรังสิต รังสิต ทรงวิตกว่า
พระกรณียกิจของพระองค์หญิงในด้านการพัฒนาและช่วยเหลือประชาชนทางภาคใต้จะหยุดชะงักลง จึงทรงก่อตั้งมูลนิธิวิภาวดีรังสิตขึ้นเมื่อวันที่ 27 เมษายน 2520 เพื่อเป็นอนุสรณ์และเพื่อสืบทอดงานของพระองค์ท่าน ปัจจุบันหม่อมราชวงศ์ปรียนันทนา รังสิต เป็นประธานกรรมการมูลนิธิฯ การดำเนินงานของมูลนิธิฯ จำกัดอยู่ในเขตภาคใต้ เพราะเป็นท้องถิ่นหลักที่พระองค์หญิง ทรงปฏิบัติภารกิจเมื่อยังทรงพระชนม์อยู่
กระทรวงการคลังได้ประกาศให้มูลนิธิวิภาวดีรังสิต เป็นองค์การหรือสถานสาธารณกุศล ลำดับที่ 277 ของประกาศกระทรวงการคลังเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2538
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี