ใน National Gallery Athens ไม่มีผลงานของศิลปินใดที่โดดเด่นเท่า Yannis Moralis หรือ Yiannis Moralis เขาเกิดวันที่ 23 เมษายน 1916 ที่ Arta กรีซโดยเป็นบุตรคนที่สองของครอบครัวที่มีพี่น้อง 4 คน เมื่ออายุได้ 6 ปี บิดาของเขาได้ย้ายไปอยู่ที่ Preveza เพราะได้รับการจ้างให้เป็นหัวหน้ายิม และอาศัยอยู่ที่นั่น 5 ปีก่อนย้ายไปอยู่เอเธนส์ หลังจากย้ายมาเมืองหลวง เขาตัดสินใจว่าจะเป็นจิตรกร เลยเข้าเรียนศิลปะวันอาทิตย์ที่ Athens School of Arts พร้อมกับบิดา เมื่ออายุได้ 15 ปีเขาได้เข้าเรียนกับ Yiannis Yeorgopoulous ศิลปินที่ภายหลังกลายมาเป็นพี่เขยเพื่อเตรียมเข้าเรียนที่ Athens School of Arts หลังจบการศึกษาในปี 1936 เขาเริ่มอุทิศตัวให้กับงานศิลปะและได้รับรางวัลมากมายก่อนที่จะสามารถเข้าร่วมนิทรรศการ Greek Engraving ที่เช็คโกสโลวาเกียที่ซึ่งผลงานไม้แกะสลักของเขาได้รับคำชื่นชมมากมาย
นอกจากนี้เขายังชนะแข่งขันจนได้ทุนการศึกษาเข้าเรียน Academy of Athens (Modern) ในด้านโมเสส เดือนมีนาคม 1937 เมื่อบิดาของเขาเสียชีวิต เขาตัดสินใจเดินทางไปโรมพร้อมกับ Nikos Nikolaou เพื่อนสนิทเพื่อหาแรงบันดาลใจและทุนการศึกษา ในที่สุดเขาสามารถเข้าเรียนต่อที่ Ecole Superieur des Beaux-Arts ที่ปารีสทางด้านจิตรกรรมซึ่งสอนโดย Charles Guerian และเรียนภาพเขียนสีน้ำมันกับ Dicaut de l’Ail อีกทั้งยังเรียนเรื่องโมเสสกับ Professor Mani ที่ Ecole d’Arts et Professions เมื่อสงครามโลกครั้งที่สองปะทุขึ้น เขาเดินทางจากปารีสกลับเอเธนส์ และแต่งงานกับ Maria Roussen แต่ทั้งสองก็อยู่กันได้เพียงแค่ 4 ปี หลังจากนั้น 2 ปีเขาก็แต่งงานใหม่กับ Aglaia Lymberaki นักประติมากรที่ให้กำเนิดบุตรแก่เขา 1 คน ในปีเดียวกันนั้นเขาได้รับการแต่งตั้งเป็นศาสตราจารย์ทางด้านศิลปะที่ Athens School of Fine Arts
ปี 1949 เขาตั้งกลุ่มศิลปินที่ชื่อ Armos Group ร่วมกับ Panayiotis Tetsis และศิลปินกรีซอีกหลายคน กลุ่มศิลปินนี้ได้ร่วมกันจัดนิทรรศการที่ Zappeion นับจากนั้นมาพวกเขาก็ร่วมกันออกแบบเครื่องแต่งกายสำหรับการแสดงบันเล่ที่แต่งโดย Manos Hatzidakis ที่จัดแสดง ณ Greek Ballet Company ความสำเร็จในการออกแบบเครื่องแต่งกายนี้ทำให้เขาได้รับเชิญจากรัฐบาลรัสเซียให้ไปเยือนรัสเซีย และเป็นตัวแทนทางด้านวัฒนธรรมของกรีซ ปี 1954 เขาได้ร่วมมือกับโรงละคร Karolos Koun Arts ออกแบบฉากและเครื่องแต่งกายให้กับละครเรื่อง Naked Masks นับจากนั้นมา เขาได้จัดนิทรรศการร่วมกับศิลปินอื่น ๆ ตามเมืองใหญ่ ๆ หลายครั้ง และสามารถจัดนิทรรศการเดี่ยวครั้งแรกในปี 1959 ณ เมืองเวนิส หลังจากนั้นมา เขามีชื่อเสียงมากขึ้นและได้มีโอกาสร่วมงานกับสถาปนิกดัง ๆ จากหลายประเทศหลายคนในการออกแบบและตกแต่งอาคารต่าง ๆ ทั้งของรัฐบาลและของเอกชน ปี 1988 National Gallery ได้จัดแสดงผลงานนิทรรศการเดี่ยวของเขาเพื่อเป็นเกียรติ ปีเดียวกันเขาได้บริจาคผลงานมากถึง 113 ชิ้นให้กับ National Gallery
นักท่องเที่ยวที่มาเยือน National Gallery จึงได้มีโอกาสศึกษาถึงพัฒนาการของศิลปินทรงอิทธิพลที่สุดแห่งยุค Post War อย่างต่อเนื่องตลอด 60 ปีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิงชนิดที่ไม่บอกไม่รู้ว่าเป็นผลงานของศิลปินคนเดียวกันอย่างจุใจเลยทีเดียว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี