วันอังคาร ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
Awakening Song Wat 2025 เทศกาลศิลปกรรมไฟและดิจิทัลในย่านทรงวาดยามค่ำคืน จัดแสดงผลงานจำนวน 14 ชิ้น ณ 12 จุดแสดงทั่วย่านถนนทรงวาดครั้งแรก ภายใต้ธีม “Culturalight” โดยใช้แสงไฟดิจิทัลเป็นตัวแทนสะท้อนความหลากหลายทางวัฒนธรรมและปลุกเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของย่านทรงวาดให้ส่องประกายขึ้นอีกครั้ง เริ่มแล้ววันนี้ถึงวันที่ 17 สิงหาคม นี้
ผลงานศิลปกรรมไฟและดิจิทัลทั้ง 14 ชิ้น สร้างสรรค์โดยศิลปินไทยและต่างชาติ จัดแสดงกระจายอยู่ในซอยเล็กซอยน้อยทั่วย่านถนนทรงวาด เชื้อเชิญให้ผู้คนออกเดินสำรวจอีกหลายแง่มุมของย่านการค้าเก่าแก่แห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็น ผลงาน The Redemption Song ของ ดอทพราย / .pry จัดแสดงที่บ้านริมน้ำ : หลังเหตุไฟไหม้ใหญ่ในย่านสำเพ็ง รัชกาลที่ 5 ทรงวาดถนนสายนี้ขึ้นใหม่ด้วยพระองค์เอง ทำให้ “ทรงวาด” กลายเป็นพื้นที่แห่งการเริ่มต้นอีกครั้งของผู้คนจากหลากหลายเชื้อชาติ ศาสนา และความเชื่อ ผลงานชิ้นนี้ถ่ายทอดจิตวิญญาณของย่านผ่านแสง เสียง และดีไซน์อินเทอร์แอคทีฟที่เปิดให้ผู้ชมมีส่วนร่วม ชื่อของงานได้แรงบันดาลใจจากบทเพลงของ Bob Marley ที่ว่าด้วยความหวัง การให้อภัย และการปลดปล่อย เสียงของผู้คนในย่านจะกลายเป็นบทเพลงที่ดังขึ้นท่ามกลางความแตกต่างหลากหลายอันงดงามของทรงวาด
ผลงาน วงวาด (WONG-WAT) โดย ธัญ-ธี / THAN-T จัดแสดงที่ Reflex Riverside (ชั้น 2 บ้านริมน้ำ) : “วงวาด” ถ่ายทอดจังหวะชีวิตของย่านทรงวาดผ่านวงล้อหมุนอะคริลิกหลากสีที่รวมลวดลายท้องถิ่นไว้ ตั้งแต่สถาปัตยกรรม อักษรจีน ไปจนถึงอาหารและวิถีชีวิต เมื่อถูกแสงไฟส่องผ่าน วงล้อเหล่านี้จะสร้างเงาและสีที่ซ้อนทับกันอย่างมีชีวิต อีกฟากของพื้นที่คือโซนกิจกรรมที่เปิดให้ผู้ชมจัดวางแผ่นอะคริลิกเพื่อสร้างเงาในแบบของตัวเอง ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของย่านที่หมุนเวียนไม่หยุดนิ่ง
ผลงาน ชีพจรแห่งทรงวาด (Heartbeat of Songwat) โดย Chanatip Cheevamongkol จัดแสดงที่ร้าน ARGA RAGA : แสงเลเซอร์ที่เต้นเป็นจังหวะในงานนี้เปรียบดั่ง “ชีพจร” ของย่านทรงวาด ที่ยังคงเต้นไม่หยุด ผ่านเสียงพูดคุย เสียงหัวเราะ และกิจกรรมในชีวิตประจำวัน สีร้อนแรงของแสงสะท้อนความเร่าร้อนของตลาดและจังหวะของการค้าขาย ผู้ชมไม่ได้เป็นแค่ผู้มอง แต่เป็นส่วนหนึ่งของชีพจรแห่งย่าน ที่เชื่อมโยงอดีต ปัจจุบัน และความทรงจำที่ยังมีชีวิตอยู่
ผลงาน Soul Explosion โดย Peeranut Pimdee จัดแสดงที่ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองเซี้ยอึ้งกง : สีแดงของผลงานนี้สะท้อนจิตวิญญาณของชาวจีนในย่านทรงวาด ระเบิดเหมือนเสียงประทัดที่จุดเพื่อขับไล่เคราะห์ร้าย เชื้อเชิญโชคลาภ และส่งต่อความมั่งคั่งให้ชุมชน ผลงานชิ้นนี้ถ่ายทอดพลังแห่งความเชื่อและความหวังผ่านการระเบิดของสี แสง และพลังงานชีวิตจากอดีตสู่ปัจจุบัน

ผลงาน กิน/อะ-รัง/มาหรือไย… (The Emptynest) โดย ทีมกกน. / Under,where!? จัดแสดงที่บ้านเขียวโกดังเจริญวัฒนา ห้อง A : “ป๊าหิวแล้ว ในตู้เย็นมีอะไรกินป่ะ” เสียงในความทรงจำของบ้านที่เคยเต็มไปด้วยลูกหลาน ก่อนที่พวกเขาจะเติบโต ออกไปมีชีวิต และทิ้งความว่างเปล่าไว้เบื้องหลัง จนกว่าจะถึงวันสำคัญถึงจะได้กลับมาพบหน้ากันอีกครั้ง ในบริบทที่แตกต่างออกไป ศิลปินหยิบ “ตู้เย็น” ขึ้นมาเป็นตัวแทนของความทรงจำ ที่สะท้อนทั้งความเปลี่ยนแปลง วิถีชีวิต และความรักในครอบครัว ตู้เย็นที่เคยเป็นของใช้ในบ้าน กลับกลายเป็นจุดศูนย์กลางของธุรกิจอาหารในย่านค้าขายแห่งนี้
ผลงาน ไหว้ไว้เถอะลูก จะได้เป็นสิริมงคล โดย Kamin Phakdurong จัดแสดงที่บ้านเขียวโกดังเจริญวัฒนา ห้อง C : “ไหว้ไว้เถอะลูก” คือเสียงเตือนจากผู้ใหญ่ที่กลายเป็นแสงอ่อนส่องย้อนกลับไปยังรากเหง้าของความเชื่อ ความอบอุ่น และครอบครัวไทยเชื้อสายจีน ผ่านองค์ประกอบอย่างศาลเจ้าตี่จู้เอี๊ยะ โคมไฟจีน และดอกบัวเรืองแสง งานนี้พาผู้ชมเดินท่ามกลางแสงไฟ ที่จะสว่างไสวก่อนคืนวันสาร์ทจีน เพื่อระลึกถึงบรรพชนที่ยังอยู่ในใจเสมอ

ผลงาน Light Supplies โดย : Pann Singharaj x Supernatures x Yaard จัดแสดงที่โกดังเจริญวัฒนา : หนึ่งในโกดังเก่าที่สุดของย่านทรงวาด ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2494 เคยหนาแน่นด้วยกระสอบบรรจุเครื่องเทศและสินค้ามากมาย ศิลปินหยิบเอากระสอบที่ห่อหุ้มความทรงจำเหล่ามาเป็นวัตถุดิบเล่าความทรงจำนี้ใหม่อีกครั้ง ลอยตัวส่องแสงสีสันเปลี่ยนโกดังประวัติศาสตร์แห่งนี้ ให้กลายเป็นพื้นที่รวมตัวของแสง ความทรงจำ และการเคลื่อนไหว และการเชื่อมโยง งานชิ้นนี้จึงไม่ได้เป็นแค่ศิลปะจัดแสดง แต่เป็นพื้นที่มีชีวิต ที่เปิดให้ผู้คนมานั่ง พูดคุย และสัมผัสจิตวิญญาณของย่านทรงวาดอีกครั้ง
ผลงาน หัตถ์ (Hand) โดย OCHARNAKORN (305STOP) จัดแสดงที่ทางเข้าโกดังประตูไม้ : “หัตถศิลป์” หรือการใช้มือสร้างศิลปะ สะท้อนหัวใจของทรงวาด — ถนสร้างขึ้นจากเส้นที่รัชกาลที่ 5 ทรงวาดลงบนแผนที่ด้วยพระองค์เอง เพื่อเชื่อมเมืองและการค้าริมเจ้าพระยา ผลงานนี้ใช้ “มือ” เป็นสัญลักษณ์ของการลงมือสร้างสรรค์ การพัฒนา และความร่วมมือ ทั้งในมิติของเมือง ศิลปะ และมนุษยธรรม
.jpg)
ผลงาน มังกรทองผู้พิทักษ์ โดย อภินันทญาติ์ บัวเอี่ยม, ดรัสวัส วัฒนโรจนานิกร จัดแสดงที่ Long Dang Dang : มังกรทองเป็นสัญลักษณ์แห่งความยิ่งใหญ่และความรุ่งเรืองในวัฒนธรรมจีน มังกรทองที่ลอยอยู่บนท้องฟ้า เปรียบเสมือนพลังศักดิ์สิทธิ์ที่คอยปกป้องลูกหลานชาวทรงวาดจากภัยร้ายทั้งปวง พร้อมนำพาโชคลาภและความเจริญรุ่งเรืองมาสู่ครอบครัวในชุมชนแห่งนี้
ผลงาน 49/51 โดย ASITNAHC จัดแสดงที่ CÉRÉMONIALE Matcha Atelier : “49/51” สะท้อนความเกือบเท่าเทียมของสัดส่วนแห่งความจริงในย่านการค้า ที่เติบโตขึ้นจากความพยายามสร้างสมดุลระหว่างสิ่งเก่าและสิ่งใหม่ ภาพที่เราอาจรู้สึกว่าสองฝั่งดูเท่ากัน อาจมีความต่างเพียงหนึ่งเปอร์เซ็นต์ซ่อนอยู่—ซึ่งบางครั้งเราก็มองไม่เห็น ผลงานนี้แบ่งออกเป็นสองฝั่งที่แทบเหมือนกัน เปรียบเหมือนห้วงความคิดที่ต้องมองให้ลึกและรอบด้านก่อนจะตัดสิน
ผลงาน Grab Cultural Gate โดย Waranyoo Kasurop จัดแสดงที่ I WANNA BANGKOK : Grab Cultural Gate คือศิลปะการจัดวางแสงไฟที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นเพื่อเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางสู่โลกแห่งอาหารในย่านทรงวาด ประตูนี้ไม่ได้เป็นเพียงโครงสร้างที่สวยงาม แต่ทำหน้าที่เป็นสื่อกลางที่เชื่อมโยงผู้คนเข้ากับเรื่องราว วัฒนธรรม และรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ที่ซ่อนอยู่ตามตรอกซอยของย่านประวัติศาสตร์แห่งนี้ เราได้ดึงเอาองค์ประกอบอันเป็นเอกลักษณ์ของย่านทรงวาด ตั้งแต่ลวดลายสถาปัตยกรรมเก่าแก่ ไปจนถึงสัญลักษณ์ของวัตถุดิบและอาหารจานเด็ด มาตีความใหม่และเล่าเรื่องผ่านลายเส้นของ “ไฟดัด” ที่ส่องสว่างในยามค่ำคืน ประตูนี้คือสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนผ่านจากอดีตสู่ปัจจุบัน ที่ซึ่งวัฒนธรรมอาหารดั้งเดิมได้ถูกส่งต่อและผสมผสานกับวิถีชีวิตใหม่ๆ กลายเป็นเสน่ห์ที่ไม่เหมือนใคร รอให้ทุกคนได้เข้ามาสัมผัสประสบการณ์ความอร่อยด้วยตัวเอง

ผลงาน จิตวิญญาณแห่งความอุดมสมบูรณ์ (Soul Yú) โดย wak studio (วรรค สตูดิโอ) จัดแสดงที่มัสยิดหลวงโกอิศหาก : “ปลา” ในวัฒนธรรมจีนคือสัญลักษณ์ของความมั่งคั่งและอุดมสมบูรณ์ งานนี้จึงใช้ “ปลา” เป็นตัวแทนของจิตวิญญาณแห่งย่าน ที่ดำรงอยู่ผ่านวิถีชีวิต การค้า และความหวัง โคมปลาในงานเปล่งแสงบางเบา ที่ชวนให้เราย้อนมองอดีต เชื่อมต่อกับปัจจุบัน และเดินไปข้างหน้าด้วยศรัทธา
ผลงาน ทรงวาด ทรงแดนซ์ (Song Wat Song Dance) โดย แต้มแสง / Dablight จัดแสดงที่ Sit in Soi : ฟลอร์เต้นรำอินเทอร์แอคทีฟที่เชิญชวนทุกคนมาเคลื่อนไหวไปกับแสง สี และเสียงในบรรยากาศไทยจีน พื้นและผนังจะฉายกราฟิกที่เปลี่ยนไปตามจังหวะการก้าวเดินและเต้น ด้วยแรงบันดาลใจจากการเปลี่ยนผ่านของย่านทรงวาด จากพื้นที่โกดังค้าส่ง สู่ดินแดนแห่งไลฟ์สไตล์ใหม่
ผลงาน Electrify the Night โดย ALT+R Alternate Reality Studio จัดแสดงที่ ลานจอดรถช้าง : แสงสีจาก Experience Mode ทั้ง 7 โหมดของ MINI ไม่ว่าจะ สนุก คึกคัก อบอุ่น หรือผ่อนคลาย เปรียบเสมือนจังหวะของย่านทรงวาด ที่เปลี่ยนไปตามชีพจรของผู้คน เศรษฐกิจ และวัฒนธรรมที่ไม่เคยหยุดนิ่งMINI เชื่อว่า ทุกจังหวะของชีวิตควรเริ่มต้นด้วยความสนุก และงานนี้คือพื้นที่ให้คุณได้ Electrify the Night เชื่อมต่อกับตัวเองและผู้คนรอบข้าง ผ่านแสง สี เสียง และการเคลื่อนไหว ที่จะปลุกทุกโหมดในตัวคุณให้ตื่นขึ้น

Awakening Song Wat 2025 จัดโดย Friday Original Events & Festivals ร่วมด้วย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.), กรุงเทพมหานคร และ มินิ ประเทศไทย, บริษัท แกร็บแท็กซี่ (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท ไทยเบฟมาร์เก็ตติ้ง จำกัด, บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด และพันธมิตรภาคเอกชนบนถนนทรงวาด Made in Song Wat ทั้งนี้ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมของงานได้ที่ www.fridaybangkok.com/awakening-festivals
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี